วันนี้ในอดีต

26 ต.ค.2560 อัศจรรย์เหตุการณ์ ที่ทุ่งพระเมรุ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อากาศมืดคุ้มมีหมอกขาวลงจัดเกือบถึงหัวคนเดินทั่วไป ผู้ใหญ่เขาบอกว่านี่แหละหมอกธุมเกตุ ที่ในตำราเขากล่าวถึง ว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆ เกิดขึ้น!

          สำหรับเราคนไทย ในที่สุดวันนี้ก็วนมาถึง และอดใจหายไม่ได้ เพราะเป็นวันที่ดวงใจของพสกนิกรชาวไทยทุกดวงต้องแหลกสลาย เพราะเป็นวันที่มาถึงความจริงที่ว่า พวกเราต้องส่งพ่อเสด็จกลับสวรรคาลัยแล้วจริงๆ นั่นคือ วันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

          ทั้งนี้ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นพระราชพิธีที่รัฐบาลไทยจัดขึ้นเพื่อแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จัดขึ้น ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 25–29 ตุลาคม พ.ศ. 2560

         

26 ต.ค.2560  อัศจรรย์เหตุการณ์  ที่ทุ่งพระเมรุ

          อย่างไรก็ดี ในท่ามกลางหยาดน้ำตาของเราชาวไทย ก็ยังมีเรื่องราวปาฏิหาริย์สุดอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นหลายอย่าง ที่คนไทยพบเจอและนำออกสู่สาธารณะเพื่อส่งต่อไปถึงกัน

          อย่างเหตุการณ์ที่อยู่ๆ ท้องฟ้าก็เปิดราวปาฏิหาริย์ โดยหากจำกันได้ ช่วงเวลานี้ของทุกปี จะเป็นฤดูฝนที่จะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง 

          และวันนี้ของปีก่อน สภาพอากาศตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 26 ตุลาคม 2560 หลังจากที่ท้องฟ้าเปิด แต่พอเวลา 15.45 น. ฝนกลับเทลงอย่างกับฟ้ารั่ว และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

26 ต.ค.2560  อัศจรรย์เหตุการณ์  ที่ทุ่งพระเมรุ

          แต่อยู่ๆ เมื่อถึงเวลาเริ่มพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ฟ้ากลับเปิดอีกครั้งอย่างปาฏิหาริย์ ราวกับว่าฝนที่หยุดในครั้งนี้เพราะพระบารมีในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยแท้

          ขณะเดียวกัน ช่วงเวลาราว 17.30 น. ของวันนั้นเอง อยู่ๆ ก็มีผู้สามารถบันทึกภาพของก้อนเมฆที่มีรูปร่างคล้ายกับ “ในหลวงทรงงาน” อันเป็นภาพที่คนไทยคุ้นเคยกันดี

26 ต.ค.2560  อัศจรรย์เหตุการณ์  ที่ทุ่งพระเมรุ

          ภาพนี้ ทางเฟซบุคเพจ “ปาฎิหารย์” ได้นำมาโพสต์ พร้อมบรรยายว่า “อัศจรรย์วันฟ้าเปิด...ก้อนเมฆมหัศจรรย์ คล้าย “ในหลวงทรงงาน” เหนือท้องฟ้าบริเวณพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ที่พระเมรุมาศจำลอง ในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ตอนเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 26  ต.ค. 60”

          เรื่องนี้ทำให้คนไทยเข้ามาโพสต์แสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก บ้างว่าเป็นภาพที่แต่งขึ้น แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่านี่คือปาฏิหาริย์แห่งพระบารมีพ่อหลวงแน่นอน ไม่มีทางเป็นอื่น!

          นอกจากนี้ ช่วงเวลาราว 18.30 น. ก็ยังได้เกิด เหตุการณ์ที่เกิดควันคล้ายรูปหัวใจ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชภาพ ในพิธีการเผาหลอก ซึ่งอยู่ๆ เปลวควันจากปากกระบอกปืนใหญ่ พวยพุ่งออกมาคล้ายเป็นรูปหัวใจ

26 ต.ค.2560  อัศจรรย์เหตุการณ์  ที่ทุ่งพระเมรุ

ภาพจาก https://www.onbnews.com/post/3936

          โดยข้อมูลระบุว่า หลังกองทหารเกียรติยศได้ทำการยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 9 ชุด ปืนใหญ่อยู่หลังเธอประมาณ 200 เมตร ก็ได้เกิดปรากฏการณ์อภินิหารขึ้น โดยควันได้ลอยขึ้นเคลื่อนตัวไปทางพระเมรุมาศ รวมตัวเป็นรูปหัวใจ แล้วไม่มีการลอยไปทางไหนเลย จากนั้นกลุ่มควันก็ลอยไปที่พระที่นั่งทรงธรรม ก่อนจะยุบตัวหายไป เวลานั้นคนไทยที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันร้องไห้ระงม ด้วยเชื่อว่าอภินิหารนี้ เกิดเพราะบารมีพ่อโดยแท้

          กระทั่งเมื่อถึงเวลาสำคัญ ปรากฏกว่า ยังมีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์ใจ คือ ภาพของฝูงนกสีขาวบินวนเหนือพระเมรุมาศ ช่วงเวลาเวลา 22.00 น. ซึ่งเป็นฤกษ์ถวายพระเพลิงพระบรมศพจริง

26 ต.ค.2560  อัศจรรย์เหตุการณ์  ที่ทุ่งพระเมรุ

ภาพจาก http://www.gangbeauty.com/topic/106402

          เวลานั้น ประชาชนที่อยู่บริเวณฝั่งศาลฎีกา ตรงข้ามกับพระเมรุมาศ พากันได้เห็นฝูงนกสีขาว 9 ตัว บินจากพระเมรุ มุ่งตรงไปยังฝั่งตะวันตก ที่น่าอัศจรรย์ใจมากยิ่งขึ้นไป คือเหล่านกกลุ่มนั้น ได้บินวนรอบพระเมรุมาศ แล้วหายเข้าไปในหมอกเมฆ จากนั้นเมื่อเวลา 22.25 น. ได้ปรากฏนกสีขาวอีก 12 ตัว สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับประชาชนที่มาเฝ้ารออีกครั้ง

26 ต.ค.2560  อัศจรรย์เหตุการณ์  ที่ทุ่งพระเมรุ

ภาพจาก http://www.gangbeauty.com/topic/106402

          นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์ที่เกิดแสงไฟที่ยอดพระเมรุมาศเปร่งแสงรัศมีออกมา โดยเหตุอัศจรรย์นี้เกิดขึ้นหลังจากมีการถวายพระเพลิงพระบรมศพ (จริง) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

          อยู่ๆ คนไทยก็ได้เห็นแสงไฟที่พระเมรุมาศ ได้เปล่งแสงรัศมีออกมา และมีปรากฏการณ์เงาแนวตั้งบนยอดพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรพุ่งตรงขึ้นบนสู่บนท้องฟ้า ซึ่งสามารถมองด้วยตาเปล่าเห็นชัดมาก

26 ต.ค.2560  อัศจรรย์เหตุการณ์  ที่ทุ่งพระเมรุ

ภาพจาก http://www.gangbeauty.com/topic/106402

          สุดท้าย สำหรับเหตุการณ์ “หมอกธุมเกตุ” ที่เกิดขึ้นในช่วงค่ำตลอดพระราชพิธีตั้งแต่วันที่ 25-26 ตุลาคม 2560

          ซึ่งในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรได้เกิดมีหมอกปกคลุมไปทั่วมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และพระบรมมหาราชวัง

          หมอกลักษณะนี้ หลายคนเชื่อว่าเป็นหมอกธุมเกตุ ซึ่งมักเกิดเมื่อมีเหตุการณ์ใหญ่ของบ้านเมืองเช่น พระมหากษัตริย์เสด็จสวรรคต

          และหากใครที่ติดตามข้อมูล เรื่องราวทางประวัติศาสตร์จะพบว่า เมื่อครั้งอดีต วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 วันเสด็จสวรรคตสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ก็เกิดปรากฏการณ์หมอกธุมเกตุ

26 ต.ค.2560  อัศจรรย์เหตุการณ์  ที่ทุ่งพระเมรุ

เครดิตภาพ Bigg Sirirojwong

          หรือช่วงปีก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นวันเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ได้เกิดปรากฏการณ์หมอกธุมเกตุ บริเวณพระบรมมหาราชวัง และทั่วกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 เช่นกัน

          โดยมีข้อความบางส่วนจากพระนิพนธ์ใน หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล เมื่อ 23 ตุลาคม 2453 เมื่อแผ่นดินสยามร้องไห้ ่ได้บรรยายไว้ว่า

          “พวกราษฎรเอาเสื่อไปปูนั่งกันเป็นแถวตลอดสองข้างทาง จะหาหน้าใครที่มีแม้แต่ยิ้มก็ไม่มีสักผู้เดียว ทุกคนแต่งดำน้ำตาไหลอย่างตกอกตกใจด้วยไม่เคยรู้รส อากาศมืดคุ้มมีหมอขาวลงจัดเกือบถึงหัวคนเดินทั่วไป ผู้ใหญ่เขาบอกว่านี่แหละหมอกธุมเกตุ(๑)ที่ในตำราเขากล่าวถึง ว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆ เกิดขึ้น”

26 ต.ค.2560  อัศจรรย์เหตุการณ์  ที่ทุ่งพระเมรุ

          อนึ่ง ในโอกาสที่ครบ 1 ปี พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (ในหลวงร.9) กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดกิจกรรมรำลึก “พระสถิตในดวงใจตราบนิรันดร์” ที่โรงราชรถ ระหว่างวันที่ 25 ต.ค. -2 พ.ย. เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงองค์พ่อหลวงที่ทรงพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้

          โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ การอ่านกวีนิพนธ์จากหนังสือ นวมินทราศิรวาทราชสดุดี ร้อยกรองรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, การฉายวีดิทัศน์ และนิทรรศการการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, 

26 ต.ค.2560  อัศจรรย์เหตุการณ์  ที่ทุ่งพระเมรุ

          กิจกรรมนำชมเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศในงานออกพระเมรุมาศ และราชรถ ที่จัดแสดงภายในโรงราชรถพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยกรมศิลปากรได้เคลื่อนพระจิตกาธาน พระโกศจันทน์และพระหีบจันทน์ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รวมทั้งฟืนไม้จันทน์ ฉากบังเพลิง เทวดานั่งและยืนประกอบ มาดูแลรักษาและจัดให้ประชาชนเข้าชม

26 ต.ค.2560  อัศจรรย์เหตุการณ์  ที่ทุ่งพระเมรุ

          นอกจากนี้ ยังมีการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช โดยวงดุริยางค์สากล สำนักการสังคีต กรมศิลปากร เป็นบทเพลงที่บรรเลงในค่ำคืนวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ได้แก่ เพลงสายฝน เพลงยามเย็น เพลงแผ่นดินของเรา เพลงใกล้รุ่ง เพลงลมหนาว เพลงชะตาชีวิต เพลงภิรมย์รัก เพลงในดวงใจนิรันดร์ เพลงเกาะในฝัน และเพลงรัก

          ตลอดจนจัดแสดงโขนในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ชุดอัญเชิญพระนารายณ์อวตาร ชุดพระรามข้ามสมุทรยกรบ และชุดเย็นศิระพระอวตาร โดยนาฏศิลปินจากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ทั้ง 2 รายการนี้ จะจัดแสดงในวันที่ 25 และ 26 ต.ค.เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป บริเวณหน้าโรงราชรถ อีกทั้งจัดบรรยายพิเศษในหัวข้อรำลึกพระสถิตในดวงใจตราบนิรันดร์ ในวันเสาร์ที่ 27 ต.ค. เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑ์พระนคร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ