วันนี้ในอดีต

กำเนิด "เจ้าหญิงแห่งอากิชิโนะ" กับความลับ ความรักและฐานันดร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แต่ไม่ว่าจะยังไง เชื่อว่าคนทั่วโลกน่าจะเป็นกำลังใจให้กับความรักของเจ้าหญิงมาโกะและเจ้าชายแห่งท้องทะเลต่อไปอย่างแน่นอนที่สุด!

          วันนี้ มีเรื่องราวอันสุดแสนประทับใจมาฝาก เป็นเรื่องราวของเชื้อพระวงศ์แดนซากุระ ผู้ซึ่งกำลังจะเตรียมสละฐานันดรให้กับความรักอันงดงามบริสุทธิ์ในเร็วๆ นี้

          ใช่แล้ว บุคคลที่กำลังกล่าวถึง ก็คือ "เจ้าหญิงมาโกะ" แห่งอากิชิโนะ ซึ่งในวันนี้เมื่อ 27 ปีก่อนคือวันที่เจ้าหญิงพระองค์น้อยทรงประสูติกาลมาบนโลกใบนี้

 กำเนิด "เจ้าหญิงแห่งอากิชิโนะ" กับความลับ ความรักและฐานันดร

          แต่ก่อนที่จะไปว่ากันที่เรื่องราวความรักอันสุดแสนโรแมนติก และลึกลับดังละคร มาทำความรู้จักกับพระประวัติของเจ้าหญิงมาโกะกันก่อน

          เจ้าหญิงมาโกะแห่งอากิชิโนะ ประสูติเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2534 ณ โรงพยาบาลสำนักพระราชวัง กรุงโตเกียว เป็นพระบุตรพระองค์ใหญ่จากทั้งหมด 3 พระองค์ใน เจ้าชายฟุมิฮิโตะ เจ้าชายอากิชิโนะ กับเจ้าหญิงคิโกะ พระชายาฯ โดยมีพระขนิษฐาและพระอนุชา คือ เจ้าหญิงคะโกะ และเจ้าชายฮิซะฮิโตะแห่งอากิชิโนะ ตามลำดับ

 กำเนิด "เจ้าหญิงแห่งอากิชิโนะ" กับความลับ ความรักและฐานันดร

(บน)เจ้าชายฟุมิฮิโตะ เจ้าชายอากิชิโนะ กับเจ้าหญิงคิโกะ พระชายาฯ (ล่าง)เจ้าหญิงมาโกะ และเจ้าหญิงคะโกะ ภาพจาก https://www.pinterest.com/pin/522769469238734858/

          เจ้าหญิงมาโกะทรงสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จากโรงเรียนกะกุชูอิงอันเป็นโรงเรียนหญิงล้วน ในปี พ.ศ. 2553

          จากนั้นทรงศึกษาต่อด้านภาษาอังกฤษเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ณ วิทยาลัยทรีนิตีในดับลิน ประเทศไอร์แลนด์

          ต่อมาทรงเข้ารับการศึกษาระดับอุดมศึกษาปริญญาตรี สาขามรดกด้านศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนานาชาติคริสเตียน โตเกียว จนสำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

          นอกจากนี้พระองค์ยังได้รับอนุญาตให้ขับรถในญี่ปุ่น และทรงมีใบอนุญาตขับขี่ตั้งแต่ยังไม่จบปริญญาตรีอีกด้วย

          ต่อมาวันที่ 17 กันยายนปีเดียวกันนั้น ทรงเข้าศึกษาสาขาพิพิธภัณฑ์ศึกษา มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ สหราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาหนึ่งปี จนสำเร็จการศึกษาปริญญาโทสาขาดังกล่าวในปี พ.ศ. 2559 และทรงศึกษาต่อด้านประวัติศาสตร์ศิลป์วิทยา มหาวิทยาลัยเอดินบะระ ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2555 ถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 รวมเป็นระยะเวลา 9 เดือน

          ในส่วนของพระกรณียกิจ ช่วงปี พ.ศ. 2546 เจ้าหญิงมาโกะและเจ้าหญิงคะโกะตามเสด็จพระชนกและชนนีเสด็จเยือนประเทศไทย ด้วยพระชนกเป็นพระสหายคนสนิทของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งถือเป็นการเสด็จเยือนต่างประเทศครั้งแรกของเจ้าหญิงมาโกะและเจ้าหญิงคะโกะ

          ต่อมาพระองค์ตามเสด็จพระชนกชนนีและพระขนิษฐามาประเทศไทยอีกครั้งในวันที่ 7-13 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ การรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และทรงร่วมวิจัยปักษีวิทยาของพระชนก

          วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554 พระองค์ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนมงกุฎ ชั้นที่ 1 และทรงปฏิบัติพระกรณียกิจในฐานะพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่

          นอกจากนี้ ช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 พระองค์เป็นอาสาสมัครปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุอีกด้วย ซึ่งครั้งนั้นข่าวระบุว่า พระองค์ไม่มีพระประสงค์แสดงพระองค์ว่าเป็นเจ้านาย

 กำเนิด "เจ้าหญิงแห่งอากิชิโนะ" กับความลับ ความรักและฐานันดร

          และด้วยเพราะทรงเข้าศึกษาสาขาพิพิธภัณฑ์ศึกษา มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ และชื่นชอบงานพิพิธภัณฑ์ จากที่พระองค์เคยหาประสบการณ์พิเศษจากการทรงงานในพิพิธภัณฑ์โคเวนทรีระหว่างที่ยังทรงศึกษาในมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ สหราชอาณาจักร ปัจจุบันเจ้าหญิงมาโกะจึงได้ทรงงานเป็นนักวิจัยในพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยโตเกียว

          ด้านที่เป็นเจ้าหญิงอันสง่างามก็ว่าสุดยอดแล้ว อีกด้านกนึ่งก็สุดยอดไม่แพ้กัน เพราะเจ้าหญิงมาโกะยังถือว่าเป็นเน็ตไอดอลของาวญี่ปุ่นอีกด้วย แถมทรงเป็นที่ชื่นชอบของพสกนิกรมาตั้งแต่ปี 2547

          เนื่องด้วยพระฉายาลักษณ์ขณะทรงฉลองพระองค์นักเรียนแบบกะลาสี ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ถูกอกถูกใจชาวญี่ปุ่นเป็นอันมาก จนต่อมาพระฉายาลักษณ์ดังกล่าวและวีดิโอที่จัดทำโดยแฟนอาร์ตที่ชื่นชมเจ้าหญิงคะโกะพระขนิษฐา ถูกอัปโหลดลงเวบไซต์นิโกะนิโกะโดงะชื่อดัง

          ผลคือมีผู้รับชมกว่า 340,000 ครั้ง และมีผู้แสดงความเห็น 86,000 ข้อความ ส่วนสำนักพระราชวังอิมพีเรียลได้แสดงความเห็นว่าไม่ทราบว่าจะจัดการกับปรากฏการณ์นี้อย่างไร เพราะพวกเขาไม่เห็นร่องรอยแห่งการอาฆาตมาดร้ายหรือดูหมิ่นพระราชวงศ์ แต่ครั้งนั้นก็นับว่าเจ้าหญิงมาโกะ เป็นพระราชวงศ์ญี่ปุ่นพระองค์แรกที่กลายเป็นเน็ตไอดอลยุคใหม่

          และอย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นเกี่ยวกับความรักอันแสนงดงามโรแมนติกของเจ้าหญิงมาโกะกับชายสมัญชนที่ลึกลับเป็นที่สนใจของชาวโลก นั้น มีเรื่องราวมาว่า

          ช่วงหนึ่งที่เจ้าหญิงทรงเข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยนานาชาติคริสเตียน ในเมืองมิตากะ ชานกรุงโตเกียว (ช่วงปี 2557) เจ้าหญิงมาโกะได้ทรงพบกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อว่า เค โคะมุโระ เพื่อร่วมสถาบันเดียวกัน โดยทั้งสองพบกันครั้งแรก ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านชิบุยะ

 กำเนิด "เจ้าหญิงแห่งอากิชิโนะ" กับความลับ ความรักและฐานันดร

          แต่รู้หรือไม่ว่า ช่วงนั้น ไม่มีใครที่รับรู้เรื่องาวนี้เลย การคบหาของทั้งสองเป็นความลับที่ต้องปิดบังไว้ จนกระทั่งชาวโลกมารู้อีกที ก็ช่วงปี 2560 โดยราววันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560 สำนักพระราชวังญี่ปุ่นได้ประกาศว่าเจ้าหญิงมาโกะและโคะมุโระจะมีการหมั้นหมายกันแล้ว

          ทั้งนี้ในประกาศยังระบุว่า พิธีหมั้นจะมีขึ้นในวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2561 และจะมีพิธีเสกสมรสในวันที่ 4 พฤศจิกายนปีเดียวกัน

          อย่างไรก็ดี ที่สุดในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 สำนักพระราชวังประกาศเลื่อนพิธีเสกสมรสออกไปจนถึงปี พ.ศ. 2563 โดยให้เหตุผลว่าทั้งสองยังไม่พร้อมสำหรับการเสกสมรส

          และในครั้งนั้น เจ้าหญิงมาโกะทรงกล่าวขออภัยมาด้วยว่า “ข้าพเจ้าขออภัยที่สร้างความวุ่นวายและภาระที่เพิ่มขึ้นแก่ผู้ที่ช่วยเหลือเราในการเตรียมงาน”

          โดยเวลานั้นเจ้าหญิงมาโกะ ซึ่งมีพระชนมายุ 26 พรรษา ยอมรับว่าพระองค์และพระคู่หมั้นเร่งรีบเกินไปในหลายๆ เรื่อง และจำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มเติมสำหรับวางแผนใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคต

          “ข้าพเจ้าปรารถนาทบทวนการแต่งงานให้ลึกซึ้งและเป็นรูปธรรมมากขึ้น และเปิดทางสำหรับเตรียมการพิธีสมรสของเราและสำหรับชีวิตหลังแต่งงาน”

          และอีกเหตุผลหนึ่งคือ เพื่อรอให้ผ่านพ้นพิธีสละพระราชบัลลังก์ของสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ พระอัยกาในปี พ.ศ. 2562 ออกไปก่อน

 กำเนิด "เจ้าหญิงแห่งอากิชิโนะ" กับความลับ ความรักและฐานันดร

สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ (Reuter)

          ข่าวครั้งนั้นนับว่าสร้างความประหลาดใจให้กับคนทั้งโลกเป็นอันมาก คือ นอกจากเซอร์ไพรส์กับความรักต่างชนชั้นแล้ว ยังอดที่จะชื่นชมในเจ้าหญิงมาโกะไม่ได้ เพราะพระองค์จะต้องลาออกจากฐานันดรศักดิ์ตามกฎมนเทียรบาล โดยเจ้าหญิงมาโกะ นับเป็นเจ้านายฝ่ายในพระองค์ที่ 8 ที่เสกสมรสกับชายสามัญชน 

          และที่ทำให้คนทั้งโลกติดตามมากที่สุด เห็นจะเป็นเรื่องราวความรัก ความลับ ที่ทั้งสองปิกปิดมาเป็นเวลากว่า 5 ปี เป็นความรักต่างชนชั้นระหว่างเจ้าหญิงอันสูงซักดิ์ ผู้เป็นองค์รัชทายาทลำดับสอง กับ ชายหนุ่มสามัญชน ซึ่งเป็นพระสหายในมหาวิทยาลัย

 กำเนิด "เจ้าหญิงแห่งอากิชิโนะ" กับความลับ ความรักและฐานันดร

          สำหรับ โคะมุโระ นั้นมีอายุเท่ากันกับเจ้าหญิง ประวัติมีว่าเคยเป็นนายธนาคาร โดยปัจจุบันกำลังศึกษาวิชาเอกกฎหมาย สถาบันมหาบัณฑิตยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยฮิโตะสึบะชิ และยังเป็นนักกฎหมายประจำบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวอีกด้วย

          นอกจากนี้สื่อญี่ปุ่นยังระบุว่า โคมุโระนั้น มีความเพียบพร้อมทั้งความสามารถด้านการเรียนและการงาน เคยได้รับเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์การท่องเที่ยวของบ้านเกิด เมืองฟูจิซาวะ โดยได้รับสมญานามเป็น “เจ้าชายแห่งทะเล” แถมยังมีความสามารถในการเล่นไวโอลิ ซึ่งเป็นที่ทรงโปรดปรานของเจ้าหญิงมาโกะเป็นอันมาก

          สำหรับการคบหากันนั้น ข้อมูลข่าวระบุว่า โคมุโระและเจ้าหญิงมาโกะ แม้จะคบกันโดยทั้งเจ้าชายพระบิดาทรงทราบและทรงยอมรับ จนประทั่งเมื่อคบกันได้เพียง 1 ปี ฝ่ายชายได้ทูลขอเจ้าหญิงแต่งงาน

          แน่นอน ระหว่างนั้นย่อมมีขั้นตอนต่างๆ ในการดำเนินการเพื่อขอความเห็นชอบจากทางสำนักพระราชวัง ซึ่งกว่าจะสำเร็จ ที่ใช้เวลานานล่วงเลยมาเป็นเวลา 5 ปี

 กำเนิด "เจ้าหญิงแห่งอากิชิโนะ" กับความลับ ความรักและฐานันดร

          จึงแปลว่าระหว่างนั้นทั้งคู่ได้คบกันอย่างปิดลับ โดยว่ากันว่า เจ้าหญิงต้องปลอมพระองค์เวลาออกมาเที่ยวเล่นหรือเดทกับแฟนหนุ่ม โดยไม่มีใครทราบว่าเป็นเจ้าหญิงมาตลอด แม้กระทั่งเจ้านายของโคมุโระในสำนักงานกฎหมาย ก็ยังไม่รู้ จนภายหลังเมื่อรู้ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกตกใจอย่างมาก แต่ก็อวยพรให้ทั้งสองมีความสุข

          ถ้าใครสงสัยว่าที่แดนซามูไร หากเจ้านายสละฐานันดร ผลเป็นอย่างไรบ้าง คำตอบคือ ตามกฎมณเฑียรบาลของราชสำนักญี่ปุ่น กำหนดให้เจ้านายฝ่ายสตรีที่สมรสกับสามัญชน ต้องกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์กลายเป็นหญิงสามัญชน

          จะไม่ได้รับเบี้ยหวัดเงินปีจากรัฐบาล และไม่ต้องประกอบกรณียกิจของราชวงศ์อีก โดยสำนักพระราชวังและรัฐบาลจะถวายเงินเป็นสินติดตัวก่อนสมรสก้อนสุดท้ายให้แก่เจ้านายสตรีพระองค์ดังกล่าว เช่นเดียวกับเจ้าหญิงซายาโกะ พระธิดาพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต หรือเจ้าหญิงโนริโกะ พระธิดาในเจ้าชายมาซาฮิโตะ ได้ลาจากฐานันดรศักดิ์สมรสกับชายสามัญชนไปก่อนหน้านี้

          อย่างไรก็ดี ช่วงนั้นยังมีกระแสข่าวว่า อาจมีการริเริ่มแก้กฎหมายให้เจ้าหญิงเมื่อสมรสกับสามัญชนไม่ต้องออกจากฐานันดรศักดิ์ และบุตรก็ยังได้รับสิทธิในราชสมบัติต่อไป

          เพียงแต่กฎหมายดังกล่าวก็ยังไม่คืบหน้าด้วยยังมีขั้นตอนต่างๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะความเป็นอนุรักษนิยมอย่างยิ่งของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

          แต่ไม่ว่าจะยังไง คนทั่วโลกน่าจะเป็นกำลังใจให้กับความรักของเจ้าหญิงมาโกะและเจ้าชายแห่งท้องทะเลต่อไปอย่างแน่นอนที่สุด!

///////////

ขอบคุณภาพและข้อมูลอ้างอิงจาก

https://en.wikipedia.org/wiki/Princess_Mako_of_Akishino

http://www.workpointtv.com/news/46237

https://www.pinterest.com/pin/522769469238734858/

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ