ไทจิ ซะวะดะ ผู้มีความสามารถล้นปรี่ด้วยเทคนิคในการเล่นเบส จนเป็นที่ยอมรับในวงการเพลงของญี่ปุ่น แม้แต่ฮิเดะ มือกีตาร์ของวง X เองยังเคยซูฮก!
พูดถึงวงดนตรีร็อคคลาสสิกยุคหนึ่งของแดนซามูไร ไม่มีใครไม่นึกถึงวง “เอ็กซ์เจแปน” (X Japan) วงดนตรีเฮฟวีเมทัลจากจังหวัดชิบะ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2525
จุดเด่นของวง กับแนวดนตรีพาวเวอร์เมทัล สปีดเมทัล ซิมโฟนิกเมทัล แม้ต่อมาวงได้หันไปในทางโพรเกรสซีฟเมทัล เน้นด้วยแนวบัลลาด แต่เอ็กซ์เจแปน ก็ยังคงโด่งดังสุดขีด ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง จนเป็นอีกวงที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานในวงการร็อคในประเทศญี่ปุ่น อัลบั้มแรกชื่อว่า “แวนิชชิงวิชัน” เมื่อปี พ.ศ. 2531
โดยเฉพาะ สำหรับ “ไทจิ ซะวะดะ” ซึ่งเป็นหนึ่งในอดีตสมาชิกวงที่มีชื่อเสียงนั้น วันนี้เมื่อ 7 ปีก่อน เขาได้สิ้นลมลง หลังจากพยายามฆ่าตัวเองด้วยการผูกคอตาย แต่มีคนช่วยไว้ได้และนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็สายเกินไป
ไทจิ ถือเป็นสมาชิกในยุคคลาสสิกของวงเอ็กซ์ และมีผลงานที่สร้างชื่อร่วมกับทางวง 3 อัลบั้ม ได้แก่ แวนิชชิง วิชัน, บลูบลัด และ เจลัสซี
ไทจินับเป็นมือเบสแถวหน้าคนหนึ่งของวงการเพลงญี่ปุ่น ทั้งยังมีความสามารถทางด้านการแต่งเพลง รวมถึงการเล่นกีตาร์อคูสติก
ถามว่าอะไรที่ทำให้เขาต้องตัดสินใจลาโลก ด้วยน้ำมือของตนเอง ลองอ่านประวัติของเขาดู หลายคนอาจพบคำตอบ
ไทจิ ซะวะดะ เกิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2509 ที่เมืองอิชิกะวะ จังหวัดชิบะ เกาะฮนชู
ขณะอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เขาเริ่มต้นหัดเล่นกีตาร์ของพ่อ โดยเฉพาะถ้าถามว่าวงดนตรีที่เขาชอบคือวงอะไร คงหนีไม่พ้น “เดอะ บีเทิลส์” และ “วงควีน” ซึ่งโด่งดังสุดๆ ในโลกตะวันตก
ต่อมาในปี 2525 ในวัยเพียง 16 ปี ไทจิเดินตามฝัน ด้วยการลาออกจากโรงเรียน เพื่อเล่นดนตรีอาชีพโดยเขาได้ก่อตั้งวงดนตรีของตัวเองขึ้นมาเป็นครั้งแรกในชื่อวง แทรช (Trash) ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าวง และเป็นมือกีตาร์ กระทั่งวงดนตรีของเขาเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมากจากการแสดงสดตามไลฟ์เฮาส์
ช่วงปี 2527 ไทจิเปลี่ยนมาเล่นกีตาร์เบส และเข้าร่วมวง ดีเมนเชีย (Dementia) เป็นวงแนวสปีดเมทัล โดยเขาใช้ชื่อในการแสดงว่า เรย์ (Ray)
ผ่านไปปีเดียว ไทจิหันมากร่วมงานกับวงเอ็กซ์เจปแน โดยเข้ามาแทนที่ อัตสุชิ โทคุโอะ มือเบสคนแรกที่ขอลาออกไป แต่เขาก็ยังไม่คิดที่จะร่วมวงอย่างเต็มตัว จึงได้ขอแยกออกจากวงไปในปีต่อมา แล้วไปร่วมกับ วงเดดไวเออร์ (Dead Wire)
แต่แล้วไทจิ ก็กลับมา วงเอ็กซ์ อีกครั้ง ในปี 2529 โดยครั้งนี้เขาตกลงเป็นสมาชิกใหม่ในตำแหน่งมือเบสของวงอย่างเป็นทางการ แทนที่ ฮิคารุ ยูทากะ และได้บันทึกเสียงกับเอ็กซ์ เป็นครั้งแรกใน ปีนั้นเอง
ต่อมาปี 2530 ไทจิกับสมาชิกวงเอ็กซ์ ซึ่งเวลานั้นเหลืออยู่เพียง 3 คน คือ นอกจากไทจิ ก็มี โยะชิกิ ฮะยะชิ (โยะชิกิ) หัวหน้าวง, กลอง, เปียโน, ลิ่มนิ้ว และ โทะชิมิสึ เดะยะมะ (โทะชิ) – ร้องนำ, กีตาร์โปร่งโยะชิกิ,
พวกเขาบันทึกเสียงลงอัลบั้มรวมศิลปิน Skull Thrash Zone Vol.1 โดยได้ โทะโมะอะกิ อิชิซุกะ (พาตะ) มือกีตาร์วง Judy มาช่วยเล่นกีตาร์ให้ ก่อนที่ในเวลาต่อมา พาตะ จะได้เข้ามาเป็นสมาชิกอีกคนหนึ่งของวงเอ็กซ์
ช่วงที่อยู่กับเอ็กซ์ ไทจิ ซะวะดะ ได้แสดงความสามารถและเทคนิคในการเล่นเบส จนเป็นที่ยอมรับในวงการเพลงของญี่ปุ่น แม้แต่ฮิเดะ มือกีตาร์ของวง X เองยังเคยกล่าวว่า เทคนิคทางกีตาร์ของไทจิยอดเยี่ยมกว่าของเขาอีก
ไทจิและมีชื่อเสียงโด่งดังถึงขีดสุดจากผลงานเพลงในช่วงที่อยู่กับวงเอ็กซ์โดยเขาออกสตูดิโออัลบั้มชุดแรกร่วมกับทางวง ในปี 2531ชื่อว่า Vanishing Vision
และยังเป็นแต่งเพลง Dear Loser ซึ่งเป็นเพลงบรรเลงเปิดอัลบั้ม และเป็นผู้แต่งทำนองของเพลง Phantom Of Guilt ซึ่งเป็นเพลงที่เขียนคำร้องขึ้นโดยโทชิ รวมถึงแต่งเพลง Give Me The Pleasure ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเพลงบรรเลงที่เขาแต่งขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากการดูข่าวเกี่ยวกับการฆาตกรรม
ไทจิเป็นมือเบสของวง X ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529-2535 แต่ในที่สุด เขาก็ได้ลาออกจากวงเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2535 โดยหลังจากนั้นไปอยู่กับวง Loudness ช่วงสั้นๆ แล้วเขาก็ตั้งวงใหม่ขึ้นชื่อ D.T.R (Dirty Trash Road)
ชีวิตส่วนตัวของไทจิ นอกจากเขาจะมีภาพลักษณ์ของความเป็นร็อกสตาร์อยู่มาก ทั้งจากการแต่งกาย ทรงผม บุคคลิก และการใช้ชีวิต และชื่นชอบในการขับรถจักรยานยนต์
แต่บุคลิกอุปนิสัยส่วนตัวของเขาก็มีความสุดโต่งเฉกเช่นกับลักษณะภายนอก เพราะเขามักมีปัญหาส่วนตัวหลายเรื่อง เช่น การทะเลาะวิวาท การหย่าร้าง และประสบปัญหาทางการเงิน
โดยเฉพาะปัญหาทางด้านสุขภาพ ไทจิเป็นโรคหลอดเลือดสมอง และมีอาการของโรคลมชัก เขาเคยกล่าวไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติส่วนตัว ว่าตนเองเป็นโรคติดเหล้า ขาดสติและมีพฤติกรรมรุนแรง ทำให้เขาก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับคนอื่นจนถึงขนาดกรามหัก
ช่วงปี 2551 ไทจิมีอาการหัวกระดูกสะโพกตาย เนื่องจากขาดเลือด ทำให้มีปัญหาในการเดินจนต้องเข้ารับการผ่าตัดใส่หัวสะโพกเทียม
ช่วงปีสุดท้ายของชีวิต ไทจิ ถูกจับในข้อหาก่อความวุ่นวายขึ้นบนเที่ยวบินชั้นธุรกิจที่ 298 ของสายการบินเดลตาแอร์ไลน์ ที่ออกเดินทางจากญี่ปุ่น ไปยังเกาะไซปัน ในหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนาของสหรัฐอเมริกา
ข้อมูลระบุว่า เขาได้ทะเลาะกับผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งบนเครื่อง โดยไม่ทราบสาเหตุ พนักงานของสายการบินจึงแยกไทจิให้ไปนั่งบริเวณอื่น จากนั้นไทจิ ก็ได้แสดงความโมโหออกมา และชกเข้าไปที่กระจกเครื่องบิน รวมถึงเตะเข้าไปที่เบาะโดยสารข้างหน้า ทำให้กัปตันบนสายการบินสั่งควบคุมตัวเขาขณะเดินทาง และทันทีที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินนานาชาติไซปัน เขาจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเพื่อดำเนินคดี
ที่สุดวันที่ 13 ก.ค. 2554 ไทจิถูกนำตัวไปขึ้นศาลของสหรัฐอเมริกาเพื่อไต่สวนคดีเป็นครั้งแรก โดยหลังจากขึ้นศาลไทจิ ถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่กรมราชทัณฑ์ ในเขตซูซูเป บนเกาะไซปัน และมีกำหนดขึ้นศาลอีกครั้งในช่วงเช้าของวันที่ 15 กรกฎาคม
แต่ก่อนหน้านั้น 1 วัน เวลาช่วงบ่ายของวันที่ 14 ก.ค. 2554 ไทจิ ได้ใช้ผ้าปูเตียง ผูกคอตนเองกับที่คุมขัง จนหมดสติ และถูกนำตัวส่งเข้าห้องไอซียู ของศูนย์สุขภาพคอมมอนเวลท์ เขตการาปัน โดยหลังจากนำส่งแพทย์ไทจิอยู่ในภาวะสมองตาย สิ้นลมใน 3 วันหลังจากนั้น ด้วยวัยเพียง 45 ปี!
อย่างไรก็ดี หลังข่าวการตายของไทจิเผยแพร่ออก หลายคนนึกถึง การตายของฮิเดะ หรือ ฮิเดะโตะ มะสึโมะโตะอดีตเพื่อนร่วมวง เอ็กซ์เจแปน ที่เสียชีวิต ในวันที่ 2 พ.ค. 2541 ในวัย 33 ปี โดยการแขวนคอตัวเอง ด้วยผ้าเช็ดตัวกับลูกบิดประตู ทั้งที่ไม่มีมูลเหตุในการฆ่าตัวตาย
ฮิเดะ
แต่เหตุการณ์หลังจากนั้น แม้จะมีการยืนยันจากคนในครอบครัวว่าไม่ใช่การฆ่าตัวตาย หากแต่เป็นอุบัติเหตุเนื่องจากอาการเมาจากสุรา แต่บรรดาแฟนเพลงวัยรุ่นญี่ปุ่นของเขากว่า 5 หมื่นคนนอกจากจะแห่ร่ำไห้ไว้อาลัยแล้ว ยังพบวัยรุ่นญี่ปุ่นฆ่าตัวตายตามถึง 3 ราย ขณะที่ในไทย พบว่านร.สาววัย 16 หนึ่งในสาวกของฮิเดะ ได้กระโดดตึก 8ชั้น ย่านดินแดง กรุงเทพฯ จบชีวิตในวันที่ 21 ม.ค. 2543
ส่วน ไทจินั้น แม้ไม่มีการยืนยันถึงความเชื่อมโยงกับการตายของ "ฮิเดะ" ด้วยระยะเวลานั้นห่างกันมากหลายปี แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นที่รักในวงเอ็กซ์เจแปน การสูญเสีย 2 อดีตสมาชิกวง นับเป็นความเศร้าสะเทือนใจอย่างที่สุด!
////////////////
ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย
และขอบคุณภาพจากเฟซบุค X JAPAN Thailand club
ข่าวที่เกี่ยวข้อง