วันนี้ในอดีต

20 มิ.ย.2560 ความตายที่ถูกลืมของ "ออตโต วอร์มเบียร์"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ออตโตถูกพิพากษาให้รับโทษจำคุกใช้แรงงานหนักในค่ายแรงงานเป็นเวลา 15 ปี ฐานความผิดกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ

          ข่าวพาดหัว ซึ่ง "ทรัมป์" ประณามรัฐบาลเกาหลีเหนือ กรณีของ ออตโต วอร์มเบียร์ นศ.อเมริกัน ที่ถูกทางการโสมแดงจับกุมคุมขังนานร่วม 15 เดือน และส่งกลับบ้านอย่างสภาพไม่ต่างจากผัก จนกระทั่งเสียวีวิตในบ่ายวันจันทร์ที่ 19 มิ.. 2560 นั้น

          อาจทำให้ชาวอเมริกันและชาวโลก รู้สึกดีขึ้นมาบ้างว่า อย่างน้อย ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของพวกเขา ก็เข้าใจถึง “ข้อเท็จจริง” ที่เกิดขึ้นเบื้องหลังการตายของเด็กหนุ่มคนนั้น ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ เราพูดไม่ได้ แต่เรารู้ได้

          โดยทางด้านครอบครัวของวอร์มเบียร์ แถลงว่า บุตรชายวัย 22 ปีเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อช่วงบ่ายของวันจันทร์ ที่19 มิ.. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเช้ามืดวันอังคารที่ 20 มิ.. หรือ "วันนี้ของปีที่แล้ว" ตามเวลาไทย

          โดยภายหลังที่เขาได้รับการปล่อยตัวจากทางการโสมแดง จนเดินทางกลับมาตุภูมิ เขาก็เข้ารับการรักษาตัวที่ศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยซินซินเนติ ในรัฐโอไฮโอ จนกระทั่งเสียชิวิต

          ครั้งนั้น ครอบครัวของเขาได้ประณามว่า “การกระทำอันทารุณ” ของรัฐบาลเกาหลีเหนือคือสาเหตุนำไปสู่การเสียชีวิตของบุตรชาย!!

          เรื่องราวสุดสลดนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ ออตโต วอร์มเบียร์ ชาวเมืองซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ ขณะที่เป็นนักศึกษาวัย 21 ปี ของ มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ได้เดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือ ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ช่วงวันที่ 29 .. 2558

20 มิ.ย.2560 ความตายที่ถูกลืมของ "ออตโต วอร์มเบียร์"

ภาพจากเดลิเมล อังกฤษ ที่ปล่อยออกมาหลังออตโตเสียชีวิต

ช่วงเวลาระหว่างนั้น เขาและเพื่อนๆ  มีชีวิตที่อบอวลไปด้วยความสุข สนุกสนาน เฉกเช่น นักท่องเที่ยวทั่วไป

20 มิ.ย.2560 ความตายที่ถูกลืมของ "ออตโต วอร์มเบียร์"

ภาพจากเดลิเมล อังกฤษ ที่ปล่อยออกมาหลังออตโตเสียชีวิต

20 มิ.ย.2560 ความตายที่ถูกลืมของ "ออตโต วอร์มเบียร์"

ภาพจากเดลิเมล อังกฤษ ที่ปล่อยออกมาหลังออตโตเสียชีวิต

          แต่แล้ว ในวันเดินทางกลับ ซึ่งตรงกับวันที่ 2 .. 2559 เขาถูกเจ้าหน้าที่รวบตัวไว้ที่สนามบินในกรุงเปียงยาง แล้วเงียบหายไป

          กระทั่งมาปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งสุดท้ายในการแถลงข่าวต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชนในกรุงเปียงยาง เมื่อวันที่ 29 .. 2559

          โดยเขาได้สารภาพทั้งน้ำตา ว่าตนนั้นได้ ฉกฉวยเอาป้ายที่ติดไว้ในส่วนของพนักงานในโรงแรมที่เขาพัก ซึ่งเป็นป้ายที่มีข้อความเกี่ยวกับหลักการและนโยบายของรัฐบาลเกาหลีเหนือ และกล่าวว่า เป็นการกระทำตามคำสั่งของโบสถ์แห่งหนึ่งในสหรัฐ ให้นำป้ายดังกล่าวกลับไปเป็นรางวัลแห่งชัยชนะเพื่อแลกกับรถยนต์มือสอง ราคา 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 339,300 บาท)

20 มิ.ย.2560 ความตายที่ถูกลืมของ "ออตโต วอร์มเบียร์"

          อย่างไรก็ดี ในวันนั้น ชัดเจนว่า ออตโตที่มีอาการอ่อนแรง หวาดกลัว และเศร้าซึม โดยเขาถูกสวมกุญแจมือและมีเจ้าหน้าที่ขนาบข้างทั้งซ้ายและขวา

20 มิ.ย.2560 ความตายที่ถูกลืมของ "ออตโต วอร์มเบียร์"

          และด้วยความผิดนี้ ต่อมาในเดือน มี.. 2559 ออตโตถูกพิพากษาให้รับโทษจำคุกใช้แรงงานหนักในค่ายแรงงานเป็นเวลา 15 ปี ฐานความผิดกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ ก่ออาชญากรรมที่ต่อต้านรัฐ และพยายามโค่นล้มรัฐบาล

20 มิ.ย.2560 ความตายที่ถูกลืมของ "ออตโต วอร์มเบียร์"

          และแล้วเรื่องราวของเขาก็เงียบไปอีกครั้ง ท่ามกลางกระแสข่าวว่า เรื่องราวยังคงดำเนินอยู่ในกระบวนการทางการทูต เพื่อเจรจาต่อรอง

          จนกระทั่ง เวลาผ่านไปราวปีครึ่ง ออตโต วอร์มเบียร์ ข่าวที่ได้รับการปล่อยตัว จากทางการเปียงยางซึ่งควรจะเป็นข่าวดี กลับกลายเป็นภาพของคนที่ป่วยอาการโคม่า!!
          ข่างอ้างครอบครัววอร์มเบียร์ว่า ออตโตถูกส่งกลับสู่มาตุภูมิเมื่อวันอังคารที่ 13 มิ.. คำอธิบายทางการแพทย์จากทางการเกาหลีเหนือระบุว่า เขาอยู่ในสภาพนี้มาตั้งแต่เมื่อราวเดือน มี.. 2559 หรือเพียงไม่นานหลังมีการพิพากษาโทษ โดยเป็นผลมาจากการได้รับยานอนหลับหลังเขาติดเชื้อโรคโบทูลิซึม

20 มิ.ย.2560 ความตายที่ถูกลืมของ "ออตโต วอร์มเบียร์"


          แต่ นายแพทย์แดเนียล คานเตอร์ จากศูนย์การแพทย์ซินซินเนติ ตรวจวินิจฉัยแล้วระบุว่า เนื้อเยื่อสมองได้รับความเสียหายรุนแรงในทุกส่วน เขาสามารถหายใจได้ด้วยตนเอง ลืมตาตื่น และกะพริบตาตามธรรมชาติ แต่ผู้ป่วยไม่เข้าใจภาษา และการสื่อสารของบุคคลรอบข้าง ไร้การตอบสนองต่อคำสั่งหรือสิ่งเร้ารอบตัว และมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและหดตัว

          ซึ่งความเสียหายของสมองเช่นนี้มักเป็นผลมาจากการหยุดหายใจซึ่งส่งผลให้ระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงานและไม่มีเลือดไปเลี้ยงสมอง ที่สำคัญ จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยของการติดเชื้อโบทูลิซึม

          ที่สุด ออตโต วอร์มเบียร์ เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 19 มิ.. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับวันที่ 20 มิ..ตามเวลาในไทย

          และแน่นอน ผู้นำสหรัฐ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ออกมาประณามความโหดร้ายของรัฐบาลเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง และแสดงความอาลัยต่อเหยื่อคนดังกล่าว

          ซึ่งเวลานั้น บรรยากาศยังคงความตึงเครียดในภูมิภาค ที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นจากการยิงทดสอบขีปนาวุธที่เพิ่มความถี่ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยฝ่ายสหรัฐก็กำลังเพิ่มความกดดันต่อรัฐบาลจีนให้เป็นคนกลาง ประสานไปทางเปียงยาง

          ทรัมป์กล่าวตอนหนึ่งว่า “การเสียชีวิตของนายอ็อตโต้ วอร์มเบียร์ นักศึกษาชาวอเมริกันที่เป็นอดีตนักโทษในเกาหลีเหนือ เป็นเรื่องที่ “น่าเสื่อมเสีย” และเหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้นหากนายอ็อตโต้ได้รับความช่วยเหลือที่รวดเร็วกว่านี้”

          จนโฆษกของอดีตประธานาธิบดีโอบามา ออกมาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ ลอสแองเจลีส ไทมส์ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายอ็อตโต้เป็นสิ่งที่เจ็บปวด และคณะทำงานของโอบามาไม่ได้นิ่งเฉยกับเรื่องนี้ และพยายามช่วยเหลือจนถึงที่สุดแล้ว แม้จะถึงช่วงท้ายของการบริหารประเทศก็ตาม

          เนื่องจาก ออตโตถูกจับกุมคุมขังในช่วงรัฐบาลของ บารัก โอบาม่า นั่นเอง กระทั่งช่วงปลายปีนั้นเอง ทรัมป์ ได้ประกาศให้สถานะเกาหลีเหนืออยู่ในบัญชีรายชื่อรัฐที่สนับสนุนการก่อการร้าย

          อย่างไรก็ดี เมื่อความตายของออตโตจบลง เวลาที่ผันผ่านมาจนถึงก่อนวันครบรอบการเสียชีวิต 1 ปีของออตโตไม่กี่วัน โลกเปลี่ยนไปเร็วกว่าที่คิด

20 มิ.ย.2560 ความตายที่ถูกลืมของ "ออตโต วอร์มเบียร์"

          สหรัฐอเมริกาเกาหลีเหนือ โดยสองผู้นำ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และ คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ได้มีการลงนามในเอกสารสำคัญถึง 4 ฉบับ ที่ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่เรียกว่า เป็นมิติใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ – เกาหลีเหนือ

          โดยมีการย้ำเรื่องความมุ่งมั่นที่จะทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ให้คำมั่นว่าให้การรับรองความปลอดภัยแก่เกาหลีเหนือ ไปสู่การ "ปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์แบบ"

20 มิ.ย.2560 ความตายที่ถูกลืมของ "ออตโต วอร์มเบียร์"

          ครั้งนี้ ว่ากันว่า เกาหลีเหนือและสหรัฐซึ่งเป็นคู่อริกันมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็น ต่างปฏิญาณว่าจะ "ทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง" "โลกจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่"

          จะเป็นจริงได้มากน้อยขนาดไหน เราต้องติดตามดูกันต่อไป

          เพราะก็ไม่แน่ว่า บางทีความตายของออตโต อาจเป็นแค่ฉากหนึ่งใน “อดีต” ที่พวกเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง และกำลังร่วมกันก่อร่างสร้างอนาคตใหม่ๆ ไว้อยู่

////////////

ขอบคุณภาพจากเดลิเมล อังกฤษ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ