วันนี้ในอดีต

15 มิ.ย.2555 17 ปีไม่สาย รวบสาวกคนสุดท้าย อาชญากรรมโหด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลับหลบหนีมานานถึง 17 ปี ในที่สุดก็หนีไม่พ้น และคงต้องก้มหน้ารับโทษทัณฑ์กันต่อไป เพราะกฎหมายแดนซามูไน ยังไงก็เด็ดขาด!!

          จะว่าเป็นสาวกคนสุดท้ายของ ลัทธิมรณะ “โอมชินรีเกียว” ก็คงไม่ได้

          เพราะแทบขนลุก ขนตั้ง เมื่อได้รู้ว่า ทุกวันนี้ ลัทธิและสาวกของลัทธินี้ ยังมีอยู่ โดยมีข้อมูลว่า

          ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “ลัทธิอเลป” และยังระดมมวลมหาสมาชิกหน้าใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ!!

15 มิ.ย.2555  17 ปีไม่สาย รวบสาวกคนสุดท้าย  อาชญากรรมโหด

          ทั้งนี้ ไม่นานมานี้ สำนักงานข่าวกรองความมั่นคงสาธารณะของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า กลุ่มเหล่านี้มีสมาชิกใหม่ๆ ปีละประมาณ 100 คน ผ่านการเรียนโยคะ,หมอดู และกิจกรรมต่างๆ

          กลุ่มเป้าหมายสำคัญ คือ เน้นไปที่ คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่เกิดไม่ทันเหตุการณ์โจมตีระบบรถไฟใต้ดินเมื่อปี 2538!!

          อย่างไรก็ดี สำหรับสาวกแห่งลัทธิโอมชินรีเกียวที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ นั่นคือ “คัตสึยะ ทาคาฮาชิ” เขาก็คือสาวกคนสุดท้ายที่ทางการไล่ล่ามาเป็นเวลาถึง 17 ปี นั่นเพราะสาวกคนอื่นๆ ที่ร่วมกันก่อนเหตุอันสุดเลวร้าย ทยอยถูกจับกุมไปหมดแล้ว ขณะที่บางคน เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เอง!

          สำหรับเหตุการณ์เลวร้ายที่ว่านั้นคือ กลุ่มสาวกและผู้นำลัทธินี้ ได้ทำการปล่อยแก๊สพิษซาริน โจมตีสถานีรถไฟใต้ดินกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.. 2538 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน บาดเจ็บมากกว่า 6,000 คน!!

15 มิ.ย.2555  17 ปีไม่สาย รวบสาวกคนสุดท้าย  อาชญากรรมโหด

จาก http://www.facts.org.cn/Recommendations/201604/22/t20160422_3745806.htm

          เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลก ชาวญี่ปุ่นต่างพากันอกสั่นขวัญแขวนกันไปทั่ว!

          และวันนี้ของ 6 ปีก่อน คือวันที่ “คัตสึยะ ทาคาฮาชิ” ต้องติดบ่วงกรรมที่เขาทำไว้ โดยไม่อาจหนีได้อีกต่อไป

          เล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์หลังเกิดโศกนาฏกรรม ซึ่งคมชัดลึกได้นำเสนอไว้ เมื่อช่วงวันที่ 10 มิ..2555 (ในลิงค์ http://www.komchadluek.net/news/foreign/132388) หรือก่อนที่เจ้าหน้าที่จะจับกุม คัตสึยะ ทาคาฮาชิได้เพียง 5 วัน

          ก่อนหน้านั้น มีสาวกในกลุ่มนี้ ที่ทยอยถูกจับเรือยมา ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ก่อนเหตุ คือ นับแต่ปี 2538-2555

          โดยช่วงแรก ตำรวจมีการจับกุม “โชโกะ อาซาฮารา” หรือชื่อจริงว่า “ชิตสุโอะ มัตสุโมโตะ” เจ้าลัทธิได้ก่อนพร้อมด้วยสาวกอีก 12 คน ก่อนที่ศาลจะตัดสินเมื่อปี 2549 ให้ประหารชีวิตเจ้าลัทธิอาซาฮารา (แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประหารชีวิต)

15 มิ.ย.2555  17 ปีไม่สาย รวบสาวกคนสุดท้าย  อาชญากรรมโหด

15 มิ.ย.2555  17 ปีไม่สาย รวบสาวกคนสุดท้าย  อาชญากรรมโหด

โชโกะ อาซาฮารา

          อย่างไรก็ดี ปรากฏว่า มีสาวกโอม ชินริเกียว 3 คนที่หนีรอดจากการกวาดล้างครั้งนั้นไปได้

          ได้แก่ นาโอโกะ คิคุจิ (ขณะก่อเหตุอายุ 24 ปี), มาโกโตะ ฮิราตะ (ขณะก่อเหตุอายุ 30) และ คัตสึยะ ทาคาฮาชิ (ขณะก่อเหตุอายุ 37 ปี) โดยตำรวจได้ตั้งรางวัล 6 ล้านเยนแก่ผู้ที่ให้เบาะแสนำจับผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ทั้ง 3 คน

15 มิ.ย.2555  17 ปีไม่สาย รวบสาวกคนสุดท้าย  อาชญากรรมโหด

จาก  sott.net

          3 รายชื่อนี้ต้องใช้ชีวิต หลบๆ ซ่อนๆ และย้ายที่อยู่ เปลี่ยนรูปโฉมโนมพรรณไปเรื่อยๆ เพื่อให้หลุดร้อนจากสายตาของทางการมาเป็นเวลาถึง 17 ปี!

          หากแต่ที่สุดแล้ว ช่วงเวลาเที่ยงคืน ของวันที่ 31 มกราคม 2555 มาโกโตะ ฮิราตะ ในวัย 47 ปี ได้ตัดสินจบการเดินทางอย่างทุกข์ทรมาน ด้วยการเข้ามอบตัวกับตำรวจ!

15 มิ.ย.2555  17 ปีไม่สาย รวบสาวกคนสุดท้าย  อาชญากรรมโหด

 http://www.religionnewsblog.com/26425/aum-shinrikyo-cult-leader-shoko-asahara-to-be-grilled-over-hirata-slaying-role

          โดยรายนี้ ตามรายงานระบุว่า เขานั้นถูกตำรวจโตเกียวออกหมายจับในข้อหาสมคบคิดกับเพื่อนร่วมลัทธิลักพาตัว, กักขัง และทรมาน คิโยชิ คาริยะ เจ้าหน้าที่วัย 68 ปี เมื่อปี 2538 เพื่อบีบบังคับให้พูดบางอย่าง จนคาริยะเสียชีวิตจากการให้ยาสลบเกินขนาด

          อย่างไรก็ดีเจ้าตัว ให้การปฏิเสธว่า ตนเองแค่เป็นคนขับรถพานายคาริยะไปยังอาคารหลังหนึ่ง แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการทรมานใดๆ แต่ทางการยังคงตั้งข้อสงสัยว่า ผู้ต้องหารายนี้อาจเป็นคนลอบยิงนายตำรวจใหญ่คนหนึ่งจนบาดเจ็บสาหัส แต่น่าเสียดายที่คดีหมดอายุความไปแล้ว!

          ทั้งนี้ เขายังสารภาพว่าที่ต้องมามอบตัว ก็เพราะ "ต้องการลืมความหลังในอดีตเสียให้หมด" หลังจากต้องนอนฝันร้ายและทุกข์ทรมานกับการหลบหนีมานาน!

          เช่นเดียวกับ คนร้ายคนต่อมาที่ยังคงลอยนวลอยู่ถึง 17 ปี เช่นเดียวกัน รายนี้เป็นผู้หญิง เธอคือ “นาโอโกะ คิคุจิ”

          แต่จะเรียกว่าอยู่อย่างลอยนวลก็คงไม่ใช่ เพราะว่ากันว่า ทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับเธอได้ถึงหน้าประตูห้องในอพาร์ตเม้นท์แห่งหนึ่ง ขณะกำลังจะไขประตูเข้าไป

          นาโอโกะ คิคุจิ ขณะที่อยู่ในวัย 41 ไม่ได้มีทีท่าตกใจ หลบหนี ปฏิเสธ ใดๆ นอกจากยอมรับว่าตนเองคือ “นาโอโกะ คิคุจิ”

          ในรายงานของคมชัดลึก เปิดโลกวันอาทิตย์ : เมื่อบ่วงกรรมเริ่มถามหา 3 สาวกลัทธิมรณะ 'โอม ชินริเกียว' : โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์ ยังระบุว่า

          เมื่อตำรวจกลุ่มหนึ่งเดินตรงเข้าไปหาสาวใหญ่วัย 40 ปีคนหนึ่งขณะกำลังจะเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ที่เมืองซากะมิฮาระ ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกประมาณ 30 กิโลเมตร โดยมือหนึ่งหิ้วถุงจากร้านสะดวกซื้อพร้อมกับถามสั้นๆ แต่ตรงประเด็นที่สุดว่าชื่อ นาโอโกะ คิคุจิ ใช่หรือไม่ เธอก็ใจเด็ดตอบตรงๆ ว่า "ใช่"” ทั้งๆ ที่ตนเองเปลี่ยนใหม่เป็น “จิซูโกะ ซากุราอิ” มาเป็นระยะเวลานานแล้ว

15 มิ.ย.2555  17 ปีไม่สาย รวบสาวกคนสุดท้าย  อาชญากรรมโหด

ภาพช่วงก่อเหตุกับหลังถูกจับ จาก http://latimesblogs.latimes.com/world_now/2012/06/sarin-gas-fugitive-tokyo-subway-captured.html

          นั่นย่อมแสดงว่าเธอพร้อมแล้วสำหรับชะตากรรมหลังจากนี้!

          สำหรับ “คิคุจิ” นั้นเป็นอดีตนักเคมีมือหนึ่ง โดยเธอยอมรับกับตำรวจว่า เธอมีส่วนร่วมในการผสมสารเคมีที่ประกอบขึ้นเป็นแก๊สซารินจริง แต่ในขณะนั้นเธอไม่ทราบว่ากำลังผลิตอะไรอยู่!

          สำหรับเบาะแสของเธอนั้น เจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งมาจาก เพื่อนบ้านคนหนึ่งของเธอเอง

          อย่างไรก็ดี เชื่อว่า การพบ “คิคุจิ” นี่เอง ที่ทำให้สามารถขยายผลจนสามารถตามจับกุม ผู้ร้ายคนสุดท้ายได้

          นั่นเพราะเธอสารภาพว่า เธอกับ “คัตสึยะ ทาคาฮาชิ” มาเจอกัน และพากันหลบหนีไปด้วยกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันร่วม 10  ปี

         ก่อนที่ตนเองมีคนรัก จึงได้แยกย้ายจากกันไป โดยสามีของ “คิคุจิ” ภายหลังได้รู้เบื้องหลังทุกอย่าง ก็ไม่รังเกียจคิคุจิเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้เขายังเคยพบกับ “คัตสึยะ ทาคาฮาชิ” อีกด้วย

15 มิ.ย.2555  17 ปีไม่สาย รวบสาวกคนสุดท้าย  อาชญากรรมโหด

จาก http://www.facts.org.cn/Recommendations/201604/22/t20160422_3745806.htm

          อย่างไรก็ดี ที่สุด ตำรวจเพิ่งจะได้ร่องรอยของ คัตสึยะ ทาคาฮาชิ ว่าเคยอยู่ที่เมืองคาวาซากิ จังหวัดคานากาวะ โดยทำงานที่บริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งแต่เพิ่งจะหลบหนีก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน

          โดยหลังจากนาโอโกะ คิคุจิ ถูกจับกุมได้เพียงวันเดียว เจ้าหน้าที่ก็ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่จับภาพชายคนหนึ่ง ลักษณะรูปพรรณ คล้ายกับ คัตสึยะ ทาคาฮาชิ ขณะกำลังกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่ง

15 มิ.ย.2555  17 ปีไม่สาย รวบสาวกคนสุดท้าย  อาชญากรรมโหด

ภาพจาก http://www.france24.com/en/20120615-japan-police-arrest-last-cult-fugitive-deadly-1995-tokyo-subway-gas-attack

          และได้ข้อมูลที่เชื่อได้ นาโอโกะ คิคุจิ เป็นคนให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ คัตสึยะ ทาคาฮาชิ นั่นเอง เนื่องจากเธอ มีงานทำและมีรายได้ทุกเดือน ว่ากันว่าประมาณ เดือนละ 1.8 แสนเยน

          ในที่สุด วันที่ 15 มิ..2555 หลังการจับกุม นาโอโกะ คิคุจิ เจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้าจับกุม ผู้ร้ายคนสุดท้ายคนนี้ได้ โดยข่าวระบุว่า เขาถูกจับกุมตัวได้ที่ร้านหนังสือการ์ตูน ในเขตโอตะ ของกรุงโตเกียว

       เป็นอันปิดฉากการไลล่าที่ยาวนานถึง 17 ปี!! ของขบวนการแก๊สพิษซาริน!

          อนึ่ง ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีรายงานข่าวว่า โชโกะ อาซาฮาระ เจ้าลัทธิโอม ชินริเกียว และสาวกอีก 9 คน ที่ถูกจับกุม ศาลตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิต โดยกระบวนการทางกฎหมายที่ดำเนินมาหลายปีเพิ่งจะได้ข้อสรุปในเดือน ม.. ที่ผ่านมา ว่าให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 10 คน ด้วยวิธีการแขวนคอ

           โดยหากจำเลยคดีนี้ถูกแขวนคอทั้ง 10 คน   จะเป็นการประหารชีวิตหมู่จำนวนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของญี่ปุ่น หลังการแขวนคอนักโทษการเมือง 11 คน เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2454 จากความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดวางแผนลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระจักรพรรดิ (ข้อมูลจาก https://www.dailynews.co.th/foreign/633513)

/////////////////////

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

วิกิพีเดีย

www.dailynews.co.th/foreign/633513

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ