อุบัติเหตุทางอากาศที่ส่งผลต่อการเมืองไทยอย่างลึกซึ้งที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง!!
ข่าวล่าสัตว์ที่ทุ่งใหญ่ นเรศวร เวอร์ชั่น 2561 ยังไม่จบ!
เรื่องราวของการล่าสัตว์ในทุ่งใหญ่เวอร์ชั่น 2516 ก็ยังไม่มีใครลืมง่ายๆ เพราะนั่นเป็นชนวนหนึ่งที่นำมาสู่อุบัติการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญของชาติ!!
ว่ากันตามจริง ผู้คนอาจจะจดจำไปที่วันเกิดเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์เบลล์ตกที่จังหวัดนครปฐม ช่วงปลายเดือน เม.ย. 2516 จนรู้จัก และเรียกขานกันว่า “กรณีล่าสัตว์ทุ่งใหญ่” หรือกรณี “บันทึกลับจากทุ่งใหญ่” ตามชื่อหนังสือที่พิมพ์ขึ้นเพื่อเปิดเผยรายละเอียดของเหตุการณ์นี้ทั้งหมด
โดยตามข้อมูลจาก http://wiki.kpi.ac.th/ สถาบันพระปกเกล้า เรียบเรียงโดย ชาติชาย มุกสง ระบุว่า
“ครั้งนั้น นับเป็นอุบัติเหตุทางอากาศที่ส่งผลต่อการเมืองไทยอย่างลึกซึ้งที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง เนื่องจากเป็นชุดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญคือเกิดการปฏิวัติ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ซึ่งมีนักศึกษาประชาชนเป็นผู้นำ”
เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบก ลำที่ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุ ภาพจากหนังสือ บันทึกลับจากทุ่งใหญ่
แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า วันที่ 20 เม.ย. 2516 หรือวันนี้เมื่อ 45 ปีก่อน เป็นวันที่กลุ่มนักศึกษาจาก ชมรมนิเวศวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล, ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสภาพแวดล้อม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกลุ่มอนุรักษ์สภาพแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดโครงการกลุ่มอาสาสมัคร ได้ใช้เวลาในภาคฤดูร้อนของปีการศึกษา 2516 ขออนุญาตเข้าไปทำงานในบริเวณป่าทุ่งใหญ่
ซึ่งวันที่ 20 เมษายน 2516 นั้น คณะชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติจาก 4 มหาวิทยาลัยข้างต้น ได้เข้าไปปฏิบัติงานสำรวจอยู่ในเขตป่าทุ่งใหญ่ และในขณะที่ทำการสำรวจอยู่นั้น ก็ต้องผงะ !! เพราะพวกเขาได้พบกับการลักลอบล่าสัตว์ป่ากันอย่างครึกโครม
ทางคณะนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จึงไปสังเกตการณ์และพบเห็นบุคคลกว่า 50 คน โดยตามข้อมูลระบุว่า เป็นนายทหาร นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พร้อมทั้งพลเรือนอีกส่วนหนึ่ง ได้นำพาหนะและอาวุธยุทโธปกรณ์ของทางราชการ รวมทั้ง เฮลิปคอปเตอร์ หมายเลข ทบ. 6102
จากหนังสือ ปฏิวัติแมลงวัน โดยสุมิตร เหมสถล
อย่างไรก็ดี จากข้อมูลไม่มีรายงานว่า หลังจากนั้น นศ.และเจ้าหน้าที่ชุดนี้ได้ดำเนินการอย่างไร จนกระทั่ง 9 วันต่อมาเมื่อเกิดเหตุ กรณีเฮลิคอปเตอร์เบลล์ตกซึ่งก็คือลำหมายเลข 6102 นั่นเอง ซึ่งข่าวคราวเรื่องนี้ถูกสื่อนำมาตีแผ่จนเป็นข่าวดัง ข่าวใหญ่ และอยู่ในความสนใจของสังคมเป็นวงกว้าง!!
ทุกคนล้วนอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!!
แน่นอน เมื่อถึงขนาดนี้แล้ว ใครละจะอยู่เฉย ที่สุดนอกจากหนังสือพิมพ์ที่เข้าไปร่วมสืบค้นเหตุการณ์ในป่าด้วยตัวเอง แล้วกลุ่มนักศึกษาชมรมอนุรักษ์สภาพแวดล้อม 4 สถาบัน พร้อมทั้งศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยก็ได้ร่วมกันเปิดโปงขบวนการทำผิดกฎหมายดังกล่าวต่อสาธารณชนอย่างดาหน้าท้าชน
ที่สำคัญ พวกเขามีหลักฐานทั้งบุคคลและภาพถ่ายยืนยันหนักแน่นชัดเจน ส่งผลให้เกิดกระแสความไม่พอใจในหมู่คนไทยเป็นอันมาก
ถึงตรงนี้ ขอเล่าย้อนเหตุการณ์ ฮ.เบลล์ 6102 ทวนความจำกันสักเล็กน้อย
สำหรับอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ยี่ห้อเบลล์ ตกที่กลางทุ่งนา อ.บางเลน จ.นครปฐม ในวันที่ 29 เม.ย.2516 นั้น ในที่เกิดเหตุนอกจากศพผู้เสียชีวิต 6 ศพแล้ว ยังพบซากสัตว์ป่าจำนวนมาก น่าสยดสยอง แถมยังมีเนื้อใส่กล่องกระดาษหลายกล่อง ปืนล่าสัตว์หลายกระบอก !!
โดยประเด็นที่สังคมรับไม่ได้ นอกเหนือจากการออกล่าสัตว์ในพื้นที่หวงห้ามแล้ว ในส่วนของบุคคล พวกเขากลับเป็นคนระดับที่ควรจะเคารพกฎหมายมากที่สุด!
แต่กลับทำตัวเป็น “พรานบรรดาศักดิ์” เสียเอง ซึ่งถ้าไม่เกิดเหตุร้าย อ.ตกจนโป๊ะแตก!! คนไทยก็คงไม่รู้อะไรอีกเยอะ
โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า ฮ.ลำที่ตกนั้น เป็น 1 ใน 2 ลำ ที่ขนนายทหาร และนายตำรวจ ไปตั้งแคมป์พักแรมฉลองวันเกิด และทำการ “ล่าสัตว์ป่า” ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.
และตามข้อมูลจากหลายแหล่ง หาอ่านได้ทั่วไป ระบุตรงกันว่า หนึ่งในผู้ร่วมคณะ มี พันเอกณรงค์ กิตติขจร บุตรชายของจอมพลถนอม กิตติขจร และดาราสาวคนหนึ่งรวมอยู่ด้วย
ที่ทำเอาคนไทยรับไม่ได้ยิ่งขึ้น เวลานั้น ครั้งนั้นผู้นำไทยอย่าง จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี และ จอมพลประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีมหาดไทยในขณะนั้น จึงออกมาแถลงว่า ขบวน ฮ.นั้น นั้นเป็นปฏิบัติราชการลับ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้นำพม่าคนหนึ่ง ซึ่งกำลังเดินทางมาเยือนประเทศไทยในตอนนั้น
ขณะที่บางแหล่งระบุว่า นายกรัฐมนตรีจอมพลถนอมได้ให้สัมภาษณ์ว่าคณะบุคคลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตกนั้นตายขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ อันเป็นราชการลับที่เปิดเผยไม่ได้ เนื้อสัตว์ที่อยู่ในเครื่องบินอาจเป็นของที่คนอื่นฝากมา ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปกป้องคนกระทำผิดของรัฐบาล
จอมพลถนอม กิตติขจร
นอกจากนี้ ข้อมูลยังระบุว่ารัฐบาลยังมีการแทรกแซง โดยสารวัตรแผนกหนังสือพิมพ์ทำหนังสือขอให้งดลงข่าวเฮลิคอปเตร์ตกจน 3 สมาคมสื่อมวลชน คือ สมาคมหนังสือพิมพ์ สมาคมนักหนังสือพิมพ์ และสมาคมนักข่าวต้องออกมาออกแถลงการณ์คัดค้านหนังสือดังกล่าวเพราะเป็นการลิดรอนเสรีภาพการเสนอข่าวเพื่อ สาธารณประโยชน์ตามหน้าที่ของหนังสือพิมพ์ ส่วนพนักงานป่าไม้และนักข่าวหนังสือพิมพ์ที่ทำข่าวเรื่องนี้ก็ถูกข่มขู่คุกคามอีกด้วย (สถาบันพระปกเกล้า http://wiki.kpi.ac.th)
แน่นอน คำตอบนี้ คนไทยมิอาจยอมรับได้ และที่สำคัญคือ เรื่องดังกล่าวยังถูกสื่อมวลชนพากันเปิดเผยเกี่ยวกับการนำงบประมาณ ยานพาหนะ และอาวุธสงครามของราชการไปใช้ในภารกิจที่ไม่ถูกไม่ควร
และยังมี การวิจารณ์ที่เผ็ดร้อนของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เห็นว่ากรณีดังกล่าวที่มีการใช้ทรัพย์สินทางราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตนและการละเมิดกฎหมายเป็นการกระทำของคนที่คิดว่าตนอยู่เหนือกฎหมาย จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเอาตัวคนทำผิดกฎหมายมาลงโทษ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วรัฐบาลก็อาจสนับสนุนคนทำผิดจนกลายเป็นรัฐบาลที่ไม่รักษากฎหมายบ้านเมือง และไม่เป็นรัฐบาลที่ยืนอยู่ข้างประชาชนซึ่งจะขาดความชอบธรรมในการเป็นรัฐบาล[8] ถือเป็นการเปิดประเด็นโจมตีรัฐบาลในการพยายามปกปิดและบิดเบือนเรื่องราวต่างๆ เพื่อเป็นการปกป้องคนทำผิดของรัฐบาล (สยามรัฐ, วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2516, หน้า 5.)
ที่สุดชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติ 4 สถาบันคือ จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ และมหิดล ได้พิมพ์หนังสือ “บันทึกลับจากทุ่งใหญ่” เปิดโปงพฤติกรรมดังกล่าว และนำมาสู่การจับกุมนักศึกษา เรื่อยไปจนถึงการประท้วงเรียกร้องให้ปล่อยตัวนศ.
และไม่น่าเชื่อว่าจะนำไปสู่การเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ในเพียง 45 เดือนต่อมา!! หรือที่เรียกกันว่าวันมหาวิปโยค
ภาพจาก http://http://siamesevisions.blogspot.com/2011/05/student-protests-14-october-1973.html
อย่างไรก็ดี ที่สุดกว่าเรื่องทุ่งใหญ๋จะจบ ก็ผ่านไปเป็นปี โดยภายหลัง มีการดำเนินการทางกฎหมายในเรื่องนี้ โดยเมื่อเห็นว่ากระแสสังคมที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ในท่วงทำนองว่า กรณีบันทึกลับจากทุ่งใหญ่ที่รัฐบาลไม่เพียงปกป้องผู้ละเมิดกฎหมายเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเท่ากับปกป้องพวกพ้อง ทำให้ขาดความชอบธรรมในการบริหารบ้านเมืองและก่อกระแสไม่พอใจไปทั่ว
รัฐบาลขณะนั้นจึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน 9 คน โดย 6 ใน 9 เป็นนายทหารและตำรวจ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน
ซึ่งในที่สุดผลปรากฏว่า กรรมการเชื่อว่าการนำเฮลิคอปเตอร์ไปใช้ เป็นไปตามคำสั่งของผู้บัญชาการทหารบกเพื่อปฏิบัติราชการลับ โดยถือเอาป่าทุ่งใหญ่เป็นฐานปฏิบัติการ แต่ภารกิจลับไม่ได้อยู่ที่ทุ่งใหญ่ แต่อยู่ห่างออกไปทางชายแดนที่ติดต่อกับพม่า
และเชื่อว่าได้มีบุคคลในคณะที่พักอยู่ในแคมป์ทุ่งใหญ่กระทำการล่าสัตว์และมีซากสัตว์ป่าอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจริง แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ทำให้ความจริงกระจ่างแก่สาธารณะแต่อย่างใด
ต่อมาคณะกรรมการได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังศาลกาญจนบุรี ซึ่งกระบวนการทางศาลใช้เวลาจนถึง 1 กันยายน 2517 ก็มีคำตัดสินโดยจำเลยทั้ง 9 คน ซึ่งเป็นนายทหาร ตำรวจ 6 คน ศาลยกฟ้อง มีแต่พรานแกละ หมื่นจำปา ที่ถูกตัดสินให้จำคุก 6 เดือนกลายเป็นแพะรับบาปแต่ผู้เดียว (http://wiki.kpi.ac.th)
บอกแล้วว่าทุ่งใหญ่ 2561 (คงจะ) ไม่เหมือนทุ่งใหญ่ 2516 แน่ๆ!!
////////////////
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
และภาพจาก
- http://http://siamesevisions.blogspot.com/2011/05/student-protests-14-october-1973.html
- หนังสือ ปฏิวัติแมลงวัน โดยสุมิตร เหมสถล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง