วันนี้ในอดีต

13 มี.ค.2424 นาทีสังหารโหดจักรพรรดิรัสเซีย!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังจากนั้นมีคนได้โยนกระเป๋า ซึ่งบรรจุระเบิดมาที่พระองค์ หากแต่คราวนี้ ระเบิดใส่จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 แห่งรัสเซียเต็มๆ

 

 

****************************

 

 

                วันนี้ในอดีต ประจำวันที่  13 มีนาคม 2561 ขอพาผู้อ่านเข้าสู่บรรยากาศของรัสเซียยุคที่เรียกกันว่า “จักรวรรดิรัสเซีย” หรืออดีตประเทศรัสเซีย ก่อนหน้าที่จะมีการปฏิวัติการปกครองของซาร์นิโคลัสที่ 2 เป็นสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตในปี 1917

               

         จักรวรรดิรัสเซียสถาปนาขึ้นในปี 1721 โดยจักรพรรดิซาร์ปีเตอร์มหาราช สถาปนาขึ้นแทนที่อาณาจักรซาร์แห่งรัสเซีย และเป็นที่รู้กันว่า ยุคหนึ่ง จักรวรรดิรัสเซียมีพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมยุโรปตะวันออก, เอเชีย จนไปถึงทวีปอเมริกา

 

                นับได้ว่าเป็นหนึ่งในจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในโลก!! และเป็นจักรวรรดิหนึ่งที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์รัสเซีย

 

                และสำหรับเรื่องราวที่จะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของ “จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2” แห่งราชวงศ์โรมานอฟ ประเทศรัสเซีย ที่ครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2398 หรือ ค.ศ. 1855

 

                พระองค์เป็นพระราชโอรสของ จักรพรรดินิโคลัสที่ 1 แห่งรัสเซีย ทรงได้รับสมัญญานามว่า “จักรพรรดินักปฏิรูป” เนื่องจากทรงทำการปฏิรูปหลายๆ อย่างที่ยังผลให้รัสเซียเจริญรุดหน้าตามสมัย เช่น การปฏิรูปด้านการศึกษา การปฏิรูปด้านทหาร การปฏิรูปด้านการคมนาคม และการปลดปล่อยทาส ก็ทำให้ทรงได้รับอีกฉายาว่า ผู้ปลดปล่อย!!

 

                ทั้งนี้ จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 แห่งรัสเซีย ขึ้นครองราชย์หลังจากรัสเซียพ่ายแพ้จากสงครามไครเมีย และจักรพรรดินิโคลัสที่ 1 ได้เสียชีวิตลงจากพระอาการปอดบวม

 

                และด้วยเหตุที่ช่วงนั้น มีข่าวลือเกี่ยวกับการปฏิวัติ จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 แห่งรัสเซีย จึงต้องทำการแก้ไขประเทศอย่างหนัก

 

                หากแต่ความขัดแย้งภายในยังคงมีอยู่ตลอด นับแต่สมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 (หรือ ค.ศ.1801- 1825) ที่ในช่วงปลายรัชกาล เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบบรัฐสภา จนปี 1825 เกิดกบฏต่อต้านราชวงศ์ขึ้น ในเดือนธันวาคม เรียกกบฏธันวาคม แต่พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1 หรือกษัตริย์องค์ต่อมา (ค.ศ. 1825-1855) ก็ทรงปราบกลุ่มผู้ต่อต้านไว้ได้

 

                แต่พอมาในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ความรุนแรงมีมากขึ้น โดยมีข้อมูลเล่าว่า  ในยุคของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 โลกก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม

 

                รัสเซียเองก็ต้องมีการพัฒนาประเทศโดยการสร้างทางรถไฟไปยังทะเลดำ ทรงเริ่มนำแนวความคิดเสรีนิยมมาใช้ มีการให้อิสระภาพแก่นักโทษการเมืองในปี ค.ศ. 1861 มีการเลิกทาสก่อนสหรัฐอเมริกาถึง 2 ปี

 

                แต่แทนที่ทุกอย่างจะดีขึ้น ปรากฏว่า  ชาวนากลับยากจนลงกว่าเดิม ต้องซื้อที่ดินแพงขึ้น แถมยังต้องเสียภาษีสูงขึ้นอีก ในขณะที่เศรฐกิจกำลังย่ำแย่ไปทั่วโลก จึงเกิดเป็นกระแสล้มล้างการปกครอง

 

                นำมาสู่ เหตุการณ์ที่พระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 1881 หรือ พ.ศ. 2424 หรือวันนี้เมื่อ 137 ปีก่อน

 

                ว่ากันว่า กลุ่มที่ปลงพระชนม์พระองค์คือ คณะ People' s Will โดยการปาระเบิดใส่ราชรถระหว่างการเดินทางกลับพระราชวังฤดูหนาวในนครเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่พระองค์มาสวรรคตที่พระราชวังฤดูหนาว

 

                อย่างไรก็ดี ยังมีเรื่องเล่าถึงเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์ว่า การลอบปลงซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 1881 ขณะพระองค์ทรงประทับนั่งรถพระที่นั่ง ได้มีคนโยนระเบิดมา

               

                ครั้งแรกแรงระเบิดได้แต่สังหารทหารหนึ่งคน และทำให้อีกคนบาดเจ็บสาหัส จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 แห่งรัสเซีย ได้ทรงพยายามจะช่วยทหารที่เจ็บ แต่ขณะเดียวกัน ทรงได้ยินมือสังหารตะโกนบางอย่าง ในกลุ่มคน หลังจากนั้นมีคนได้โยนกระเป๋า ซึ่งบรรจุระเบิดมาที่พระองค์

 

                หากแต่คราวนี้ ระเบิดใส่จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 แห่งรัสเซียเต็มๆ จนพระวรกายขาดไปครึ่งท่อน!!

 

                ที่สุด ตำรวจสามารถจับมือสังหารทั้งสองคนได้ และยังรู้ว่ามีมือสังหารคนที่สาม ที่เตรียมคอยสังหารจักรพรรดิอีกหากว่า ครั้งแรกทำพลาด โดยเขาโดนจับได้ทีหลัง

 

                แต่จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสด็จสวรรคตที่พระราชวังฤดูหนาวในคืนนั้น ต่อหน้าพระราชวงศ์ทั้งปวง เหลือไว้เพียงอนุสรณ์สถานที่สร้างอุทิศแด่พระองค์ ณ จุดที่ถูกลอบปลงพระชนม์

 

                อย่างไรก็ดี ซาร์องค์ต่อมาคือ อเล็กซานเดอร์ที่ 3 ที่ครองราชย์เมื่อ ค.ศ. 1881 แต่ประวัติศาสตร์รัสเซีย และราชวงศ์โรมานอฟ ก็ยังมีเรื่องราวอีกนับพันหมื่นเรื่องทั้งก่อนหน้า และหลังจากนั้น ซึ่งพูดถึงกี่ครั้ง ก็ยังขนลุก!!

 

 

****************************************

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ