ตำนานเล่าว่า ขณะที่พระเจ้าเจมส์ทรงประชวรหนัก ได้ทรงทราบว่าพระชายาได้ให้กำเนิดพระราชธิดา ก็ทรงอุทานว่า "มันเกิดมาแต่หญิง มันก็จะฉิบหายไปกับผู้หญิง"
พระนางแมรี่ออฟสก๊อต หรือ สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 หรือ แมรี สจวต ที่คนชอบเรื่องราวของราชวงศ์ฝั่งสหราชอาณาจักรชื่นชอบ และรู้จักกันดี
และในมุมหนึ่ง หลายคนบอกว่าพระนางคือราชินีที่อาภัพมากที่สุด!
ลองอ่านเรื่องราวของพระองค์แล้วจะรู้!
พระนางแมรี่ ประสูติเมื่อวันที่ 7 หรือ 8 ธันวาคม ปี 1542 ณ พระราชวังลินลิธโกว ประเทศสก็อตแลนด์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ระหว่าง ค.ศ. 1542 ถึง 1567 ทรงเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าเจมส์ที่ 5 แห่งสกอตแลนด์ และ พระชายาชาวฝรั่งเศส มารีแห่งกีซ (Mary de Guise)
แต่แล้วพระราชบิดาของพระนางเสด็จสวรรคต เนื่องจากพระอาการประชวรหลังการรบที่สมรภูมิโซลเวย์มอส โดยสวรรคตในวันที่ 14 ธันวาคม 1542 หรือหลังจากที่พระนางแมรี่ประสูติได้เพียง 6 วัน เท่านั้น เหตุการณ์นี้เลยทำให้พระนางก็ได้กลายเป็นกษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ตั้งแต่ยังทารก!
ขณะที่บางแหล่งระบุว่า พระบิดาของแมรี่ตรอมใจตาย เพราะทรงทราบข่าวว่าทรงได้ลูกผู้หญิงตัวเล็กๆ ผอมๆ บัลลังก์สก๊อตแลนด์อ่อนแอลงไปอีก ตำนานเล่าว่าขณะที่พระเจ้าเจมส์ทรงประชวรใกล้จะเสด็จสวรรคตนั้น ได้ทรงทราบว่าพระชายาได้ให้กำเนิดพระราชธิดา ก็ทรงอุทานว่า "มันเกิดมาแต่หญิง มันก็จะฉิบหายไปกับผู้หญิง!"
ในขณะที่ยังทรงเป็นทารก สก็อตแลนด์ถูกปกครองโดยผู้แทนพระองค์ ซึ่งมีการแย่งชิงอำนาจกันระหว่างเดวิด บีตัน ผู้เป็นคาร์ดินัลของนิกายคาทอลิค กับเจมส์ แฮมิลตัน เอิร์ลแห่งอาร์ราน (Earl of Arran) โดยแฮมิลตัน หรือเอิร์ลแห่งอาร์รานสามารถขึ้นสู่อำนาจได้จากการใช้เส้นสายในพระราชสำนักและคงเป็นผู้แทนพระองค์อยู่จน ปี 1554
เคยมีนักประพันธ์กล่าวไว้ว่า ชีวิตของสตรีสูงศักดิ์ยุคสมัยหนึ่ง ล้วนต้องทำเพื่อความเจริญของวงศ์ตระกูล พระนางแมรี่ก็เช่นกัน ที่ใช้ชีวิตในวัยเยาว์ส่วนมากในฝรั่งเศส ในขณะที่สกอตแลนด์ถูกปกครองโดยผู้สำเร็จราชการ ซึ่งพระองค์ทรงถูกส่งตัวไปฝรั่งเศสเพื่อให้ได้รับการเลี้ยงดูจนกว่าที่จะทรงเสกสมรส
ข้อมูลหลายแหล่งระบุตรงกันว่า ขณะที่อยู่ฝรั่งเศส เธอสามารถพูดภาษาฝรั่งเศส เต้นรำ ร้องเพลง เล่นพิณ เรียนสรรพวิชาต่างๆ เท่าที่เจ้าหญิงแห่งฝรั่งเศสต้องเรียน
แต่ที่น่าตกใจคือ การจัดการเสกสมรสของพระองค์กับ เจ้าชายฟร็องซัว โดแฟ็ง แห่งฝรั่งเศส เป็นการสมรสแบบจับคู่ที่การแต่งงานได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1548 หรือฟรองซัวส์มีพระชนมายุได้ 4 พรรษา และพระราชินีนาถแมรีมีพระชนมายุได้ 6 พรรษา
กระทั่ง พระนางได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟร็องซัว ในปี 1558 หรือขณะที่พระนางเป็นเพียงเจ้าหญิงน้อยวัยเพียง 16 เท่านั้น! ขณะเดียวกันข้างพระราชสวามี ก็มีอายุเพียง 14 เท่านั้น
และแน่นอน ต่อมาเมื่อพระราชสวามีได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าฟร็องซัวที่ 2 แห่งฝรั่งเศส พระนางจึงมียศเป็นพระราชินีแห่งฝรั่งเศส
แต่หลังจากที่พระราชสวามีเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ.1560 ที่ออร์เลอองส์ ด้วยหูอักเสบที่ทำให้เป็นฝีในสมอง หรือเพียงพระชนมายุ 16 พรรษา พระนางจึงเสด็จกลับสกอตแลนด์ในปี 1561
และในอีกสี่ปีต่อมา พระนางก็สมรสกับ “เฮนรี สจวต ลอร์ดดาร์นลีย์” ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้อง แต่ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 1567 เกิดการระเบิดขึ้นที่คฤหาสน์ของลอร์ดดาร์นลีย์โดยพบร่างของท่านอยู่ที่สวน พระนางต้องสูญเสียพระสวามีไปในวันนั้นเอง!
จะว่าไปนี่นับเป็นครั้งที่สอง ที่พระนางแมรี่ต้องสูญเสียพระสวามีอย่างไม่คาดฝัน ก่อนวัยอันควร จนหลายคนกล่าวว่า พระนางเป็นหนึ่งในราชินีผู้โชคร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ แต่ด้านหนึ่งกลับระบุราวกับหนังอย่างคนละม้วน
คือ ต่อมาเอิร์ลแห่งโบธเวล สามีคนต่อมาของพระนาง ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการสังหารลอร์ดดาร์นลีย์ แต่ก็พ้นข้อกล่าวหาในอีกสองเดือนถัดมา และทำการสมรสกับพระนางแมรี จนประชาชนรับไม่ได้กิดการลุกฮือเพื่อต่อต้านทั้งสองขึ้น พระนางแมรีถูกนำตัวไปจองจำที่ปราสาทลอชเลเวน
พระนางถูกบังคับให้สละราชสมบัติในวันที่ 26 กรกฎาคม 1567 เพื่อเปิดทางให้เจ้าชายเจมส์ โอรสวัยขวบเศษที่เกิดกับลอร์ดดาร์นลีย์ขึ้นครองราชย์ พระนางได้วางแผนเพื่อขึ้นสู่ราชบัลลังก์อีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ พระนางจึงหลบหนีลงใต้ไปอังกฤษ
ชีวิตที่ต้องลี้ภัย พระนางไปอยู่ในความคุ้มครองของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ นั่นเพราะที่จริงแล้ว พระนางแมรีและพระนางเอลิซาเบธ ที่ 1 มีทวดร่วมกัน คือพระเจ้าเฮนรีที่ 7 ทำให้ทั้งสองมีศักดิ์เสมือนเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆ
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวทั่วไปหลังจากนี้ ซึ่งระบุว่า การที่พระนางมาลี้ภัยในอังกฤษได้ทำให้อังกฤษเข้าสู่ความวุ่นวายกระทั่งถึงขนาดวางแผนลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ผู้สนใจต้องหาข้อมูลจากหลายแหล่ง เพราะยังมีเรื่องเล่าแตกต่างกันในรายละเอียดอีกมากมาย
มุมหนึ่งระบุว่า พระนางแมรี่ สจ๊วตแห่งสก๊อตผู้นี้ เป็นความหวังของกลุ่มคาทอลิกในอังกฤษ จึงพยายามอ้างสิทธิในราชบัลลังก์อังกฤษแก่พระนางแมรี พูดง่ายๆ ว่าจะดันพระนางแมรี่ขึ้นสู่ราชบัลลังก์อังกฤษแทนสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 โดยอ้างว่าพระนางคือทายาทอันชอบธรรมแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ
เพราะตอนนั้น พระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 หลังขึ้นครองราชย์มาก็สถาปนาโปรแตสแต้นท์กลับมาเป็นศาสนาประจำชาติ ขณะที่แมรี่เป็นคาทอลิกผู้เคร่งครัด
ที่สุด ฝ่ายคาทอลิกในอังกฤษได้ทำการลุกฮือขึ้นในภาคเหนือของอังกฤษ ราชสำนักอังกฤษ ซึ่งเป็นนิกายโปรแตสแต๊นท์มองพระนางแมรีเป็นภัยคุกคามจึงมีคำสั่งให้กักบริเวณพระนางไว้
แต่แล้วหลังอยู่ในความคุ้มครองของอังกฤษเป็นเวลากว่า 18 ปีครึ่ง คือนับแต่ อายุ 26 จนถึง 45 ปี พระนางกลับมามีความผิดฐานเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน ในแผนลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 นำไปสู่การตัดศีรษะของพระนางในปีถัดมา ณ ปราสาทฟอธริงเฮย์ มณฑลนอร์แทมป์ตันเชอร์
หรือวันที่ 8 ก.พ. ค.ศ. 1587 หรือวันนี้ของ 434 ปีก่อน!!
มีการสรุปช่วงชีวิตของพระนางแม่รี่ไว้ว่า
“หากจะนับตั้งแต่เกิดถึงหกขวบ ทรงประทับอยู่สก๊อตแลนด์ในฐานะพระราชินี จากหกขวบถึง 18 ปี ประทับที่ราชสำนักฝั่งเศสอย่างแสนหรูหราแสนสุข หลังจากนั้นกลับมาอยู่สก๊อตแลนด์ได้ประมาณ 14ปี อยู่อย่างต่อสู้ดิ้นรนเสี่ยงภัย ส่วนปั้นปลายชีวิตเป็นเวลานานถึง 18-19 ปี พระนางแมรี่แห่งสก๊อตแลนด์ ประทับอยู่ภายใต้การอารักขาดูแลของพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 1 บนแผ่นดินอังกฤษ” (ข้อมูลจาก เฟซบุค Kor.Nikar)
และ ว่ากันว่าในระยะสุดท้ายของชีวิตแมรี่แก่ตัวลง อ่อนแอและอาจจะเจ็บป่วย แต่เหตุการณ์ที่ทำให้แมรี่ต้องโดนประหารคือ มีการจับได้ (โดยสายลับ) ว่ามีจดหมายติดต่อ (เป็นรหัสลับ) กับขุนนางคาทอลิกคนหนึ่งผู้มีแผนลอบปลงพระชนม์พระนางอลิซาเบธแล้วจะสถาปนาแมรี่ขึ้นครองราชย์
ขณะที่ พระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 ไม่ลงพระนามในคำสั่งประหารชีวิต พระนางคิดอยู่หลายวันมากจนถูกนายกรัฐมนตรีบังคับ
อย่างไรกีดีที่สุดแล้ว หลังจากที่พระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 สวรรคตในปี พ.ศ. 2146 พระมหากษัตริย์สกอตแลนด์ในขณะนั้น คือพระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ ได้ทรงขึ้นครองราชบัลลังก์อังกฤษเป็นสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ หรือที่รู้จักกันว่า Union of the Crowns ในปี พ.ศ. 2147(ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช)
ซึ่งพระองค์ก็คือพระราชโอรสของพระนางแม่รี่ สจ๊วตนั้นเอง!
/////////////
ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย
และ เฟซบุค Kor.Nikar
ข่าวที่เกี่ยวข้อง