บางรายถึงกับแสดงอาการโกรธ แค้นให้เห็นต่อหน้าผู้สื่อข่าว ด้วยการใช้ปากกาขีดไปบนรูปนางเอกสาวแล้วฉีกรูปกบ-สุวนันท์เป็นชิ้นๆ .
วันนี้ เมื่อ 15 ปีก่อน อาจจะนานเกินไปกว่าที่ใครจะนึกออกว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่หากพูดว่า เหตุการณ์สำคัญระหว่างประเทศที่มีนักแสดงหญิงเบอร์ 1 ของเมืองไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง หลายคนจะต้องร้องอ๋อ
เพราะวันนี้เมื่อหลายปีก่อนได้เกิดเหตุเหตุจลาจลในกรุงพนมเปญ ถึงขนาดมีการบุกสถานทูตไทย เนื่องจากประชาชนชาวกัมพูชา ไม่พอใจนักแสดงไทยที่ชื่อ กบ สุวนันท์ คงยิ่ง
ถามว่าไม่พอใจเรื่องอะไร ตามขาวระบุว่า เพราะพวกเขาเชื่อตามบทความในหนังสือพิมพ์กัมพูชาฉบับหนึ่ง ที่กล่าวหาอย่างผิดๆ ว่านักแสดงหญิงไทยคนหนึ่ง อ้างว่านครวัดเป็นของประเทศไทย
ดังนั้น สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อวิทยุกัมพูชาอื่น ๆ จึงได้หยิบยกเอารายงานดังกล่าวและปลุกความรู้สึกชาตินิยมเพิ่มขึ้นไปอีกจนทำให้เกิดการจลาจลในพนมเปญเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2546
ที่สุด เวลานั้นเหตุการณ์ลุลามบานปลายหนักมา ถึงจนาดมีการบุกเผาสถานทูตไทย และมีการปล้นสะดมทรัพย์สินของธุรกิจไทยในกัมพูชา มีการมุงดูหนังสือพิมพ์กัมพูชาใหม่ ที่ลงรูปกบ-สุวนันท์ และวิจารณ์ข่าวที่เกิดขึ้นต่างๆ นานา บางรายถึงกับแสดงอาการโกรธ แค้นให้เห็นต่อหน้าผู้สื่อข่าว ด้วยการใช้ปากกาขีดไปบนรูปนางเอกสาวแล้วฉีกรูปกบ-สุวนันท์เป็นชิ้นๆ .
เหตุจลาจลดังกล่าวสะท้อนถึงความสัมพันธ์ในประวัติศาสตร์ที่ไม่แน่นอนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ตลอดจนปัจจัยทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการเมืองที่พัวพันกับทั้งสองประเทศ
ที่สุด พวกเราก็ด้รู้ว่า บทความนั้นเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์กัมพูชา “รัศมี อังกอร์” ที่ระบุตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2546 โดยมีเนื้อหากล่าวหาว่านักแสดงหญิงชาวไทย สุวนันท์ คงยิ่ง ได้กล่าวว่ากัมพูชาได้ขโมยนครวัดไปจากไทย และกล่าวว่าเธอจะไม่เดินทางมากัมพูชาจนกว่านครวัดจะกลับคืนเป็นของไทย
กระทั่งต่อมา บทความของหนังสือพิมพ์รัศมี อังกอร์ได้รับการเผยแพร่ จนมาถึงช่วงวันที่ 27 มกราคม 2546นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน เซน ได้ย้ำการกล่าวหานี้ และกล่าวว่าสุวนันท์ "ไม่มีค่าเทียบได้กับใบหญ้าใกล้กับเทวสถาน"จนวันที่ 28 มกราคม รัฐบาลกัมพูชาสั่งห้ามรายการโทรทัศน์ไทยทั้งหมดในประเทศ
ข่าวรายงานว่า บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ดังกล่าวได้อ้างแหล่งข้อมูลว่ามาจากเรื่องที่เขียนขึ้นโดยกลุ่มชาตินิยมเขมรผู้ซึ่งระบุว่าพวกเขามองเห็นสุวนันท์ทางโทรทัศน์ แต่ก็ไม่มีหลักฐานสนับสนุนการกล่าวอ้างของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว และดูเหมือนว่ารายงานดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกแต่งขึ้นหรือเกิดขึ้นนั่นเอง
ขณะที่บางแหล่งกล่าวว่า รายงานดังกล่าวมาจากกลุ่มคู่แข่งที่ต้องการสร้างความเสื่อมเสียแก่สุวนันท์ ผู้ซึ่ง "เป็นหน้าเป็นตา" ของบริษัทเครื่องสำอางแห่งหนึ่ง
ช่วงขณะเกิดเหตุ ผู้จัดการรายวัน ได้รายงานข่าวว่า ผู้สื่อข่าวพยายามติดตามสัมภาษณ์ กบ-สุวนันท์ ถึงเรื่องราวรุนแรงที่เกิดขึ้นข้ามชาติ โดยได้พบกบ-สุวนันท์ ที่กองถ่ายละครเรื่อง "แม่คุณเอ๊ย" ที่บึงช่อน บางนา กม.9 เมื่อค่ำวันที่ 27 ม.ค. ขณะกบกำลังเข้าฉากขี่เจ็ตสกี โดยดาราสาวกบ-สุวนันท์ กล่าวว่า ไม่เคยมีนักข่าวกัมพูชามาสัมภาษณ์กบเลยแม้แต่คนเดียว
“ถ้ามาสัมภาษณ์จริง ๆ กบต้องจำได้ เนื่องจากเขาคงพูดภาษาเขมร หรือแม้จะพูดภาษาไทย กบต้องฟังออก ส่วนใหญ่กบจะให้สัมภาษณ์ นักข่าวบันเทิงและนักข่าวกีฬาตอนที่แข่งไอซ์สเกต”
“ นอกจากนั้น ไม่เคยมีเลย ที่มีข่าวว่ากบบอกให้เอานครวัดมาแลก กบอยากรู้ว่าเอามาแลกกับอะไร กบไม่รู้เรื่อง ตอนนี้มีเพียงกระแสข่าว ทุกคนที่มาบอกก็บอกว่าได้ยินมาแต่ไม่มีใครบอกว่าละครเรื่องไหน รายการไหน กบได้พูดว่าอย่างไรบ้าง บางกระแสก็บอกว่ากบพูดในละคร ซึ่งมันกว้างมาก อยากเอาคนที่พูดนั้นมายืนยัน” (http://www.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=570&Mbrowse=6
อย่างไรก็ดีหลังจากเกิดการจลาจลขึ้น รัฐบาลไทย โดย อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งเครื่องบินทหารไปอพยพชาวไทย รวมไปถึงนักการทูตทั้งหมดออกจากกัมพูชา และขับนักการทูตกัมพูชาออกนอกประเทศเพื่อเป็นการตอบโต้ พร้อมกับสั่งปิดพรมแดนของประเทศที่ติดกับกัมพูชา แต่ก็ห้ามไม่ให้ผ่านเฉพาะชาวไทยและชาวกัมพูชาเท่านั้น
กระทั่งได้มีการเปิดพรมแดนอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2546 หลังจากรัฐบาลกัมพูชาจ่ายเงิน 6 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นค่าชดเชยสำหรับสถานทูตไทยที่ถูกทำลายไป
อย่างไรก็ดี ตั้งแต่มีข่าวออกมา ดาราสาวได้ออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการปฏิเสธทุกอย่างแล้วตั้งแต่ช่วงวันที่ 28 มกราคม 2546 แต่การที่ประชาชนชากัมพูชายังคงลุกฮือขึ้นในวันถัดมา จึงสะท้อนคำถามว่า มีความพยายามยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ ทั้งนี้เพราะ กบ สุวนันท์เอง ถือเป็นดาราที่ปังสุดๆเวลานั้น แม้มาจนถึงวันนี้คนไทยก็ยังรักชื่นชอบเธออย่างไม่เสื่อมคลาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง