"การเมืองไทยในขณะนี้ อยู่ในภาวะล้มเหลว สืบเนื่องกระบวนการประชาธิปไตยถูกบิดเบือน ทำให้พี่น้องประชาชนขาดความศรัทธา"
เชื่อว่าคอการเมือง จะยังไม่ลืมเหตุการณ์หนึ่งของวันนี้ เมื่อ 4 ปีก่อน คือ ในวันที่ 21 ธ.ค.2556 ในการประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ทั้งชุดเก่าและชุดใหม่ รวมถึงอดีต ส.ส.ของพรรค ที่มีข้อสรุปว่า ในการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557 พวกเขาได้ตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง!!
โดยในการแถลงข่าววันนั้น ซึ่งมีบรรดาแถวหน้าของพรรคมากับคับคั่ง ทั้ง นายหัวชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ ในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาพรรค, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ในฐานะกรรมการที่ปรึกษาพรรค, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกรรมการบริหารพรรค และอดีต ส.ส.พรรค
พวกเขาร่วมกันแถลงต่อหน้าพระแม่ธรณีบีบมวยผม ด้านหน้าที่ทำการพรรค ปชป. โดย “หัวหน้ามาร์ค” แถลงว่า ทุกฝ่ายมีความเห็นพ้องกันที่จะไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557 ซึ่งเป็นความเห็นพ้องจากทั้งสาขาพรรค รองหัวหน้าพรรค ที่ได้สอบถามสมาชิกพรรคทุกภาค
"เหตุผลสำคัญคือ ความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตย ที่การเมืองไทยในขณะนี้ อยู่ในภาวะล้มเหลว สืบเนื่องกระบวนการประชาธิปไตยถูกบิดเบือน ทำให้พี่น้องประชาชนขาดความศรัทธา บ้านเมืองไม่มีการปฏิรูป พรรค ปชป.มองภาวะการเมืองในปัจจุบันว่าอยู่ในภาวะที่ล้มเหลว"
"ขณะที่ตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมา พรรคและตนเองได้พยายามหาแนวทางแก้ปัญหาทางการเมืองที่ล้มเหลว อย่างนี้มาตลอด ประเทศไทยต้องสูญเสียโอกาส ทั้งเป็นการตัดโอกาสการพัฒนาประเทศของไทย ในภาพรวม เป็นปัญหาเพราะรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นผู้ทำให้เกิดวิกฤตขึ้นมา"
"ทั้งที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งในปี 2554 แต่กลับใช้โอกาสนั้นภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี กลับใช้อำนาจที่ประชาชนให้มามาใช้ช่วยตนเอง ครอบครัว และพวกพ้อง โดยเฉพาะการยอมให้มีการล้างความผิดให้กับคนทุจริตคอร์รัปชัน มีการแก้ รธน. หวังใช้อำนาจนั้นให้กับพวกพ้องตนเอง แม้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าผิด รัฐบาลกลับประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ"
"ที่ผ่านมา พรรค ปชป.ได้พยายามทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มความสามารถ จนมีผลงานที่สามารถชะลอ ยั้บยั้ง ความเสียหายได้หลายอย่าง เช่น กฎหมายนิรโทษกรรม กฎหมายกู้เงินอาจผ่านสภาไป อาจทำความเสียหายให้ประเทศมากมายขณะที่วิกฤติศรัทธาการเมืองที่เกิดขึ้น มองว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ไม่อาจนำพาประเทศไปสู่การพัฒนา หรือการแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองที่แท้จริงได้"
"ขอกราบเรียนว่า ความลุกลามของวิกฤติศรัทธา แม้พรรค ปชป.ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ก็ไม่สามารถคลี่คลายวิกฤตินี้ได้ ไม่สามารถบอกประชาชนให้มีความศรัทธาในการเมืองได้ เพราะประชาชนมองว่า ความขัดแย้งในครั้งนี้ เป็นเพียงการแย่งชิงทางการเมืองแบบเดิมๆ ที่ผ่านมา ตนได้ใช้ความพยายามหาทางแก้ปัญหาแล้ว แต่วันนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถเริ่มต้นให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 ได้"
นี่คัดมาเพียงส่วนหนึ่ง แต่ก็ทำให้เราเห็นภาพว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีจุดยืนเสมอ และมีเหตุผลที่ให้เราได้พินิจพิเคราะห์ตามทุกครั้ง
และที่สุดพวกเขาก็พิสูจน์ด้วยปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 2 ก.พ. 2557 เมื่อการเลือกตั้งในวันนั้น ไปไม่ถึงปลายทาง เพราะเกิดการขัดขวางจาก กลุ่ม ลุงกำนัน หรือ กปปส. จนคนที่อยากเลือกตั้ง ต้องปีนรั้วไปเข้าคูหาก็มี
ขอบคุณภาพจาก https://news.mthai.com/social-news/306601.html
แต่ในที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าในเมื่อการเลือกตั้งไม่สามารถแล้วเสร็จทั่วประเทศภายในวันดังกล่าว พระราชกฤษฎีกาจึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 วรรคสอง ที่กำหนดให้การเลือกตั้งต้องเป็นวันเดียวกันทั่วประเทศ และเมื่อพระราชกฤษฎีกาในส่วนที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งนี้จึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญไปด้วย เอวัง!
แต่เอาเถิด นั่นเป็นอดีต แต่เวลานี้ พรรคประชาธิปัตย์เขามีจุดยืนใหม่ แต่ก็ชัดเจนเหมือนเดิมว่า พรรคเราแน่วแน่ทีจะเดินตามระบอบประชาธิปไตย
โดยช่วงเดือน ก.ย.60 ที่ผ่านมา หัวหน้ามาร์คเจ้าเก่า ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ว่า ความกังวลปัญหาของชาติ เป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ทั้งพรรคการเมือง นักการเมือง ผู้มีอำนาจในปัจจุบันที่ต้องช่วยกันคิดว่า เมื่อเราเดินตามโรดแมพกลับคืนสู่กระบวนการประชาธิปไตยแล้ว จะทำอย่างไรไม่ให้สถานการณ์กลับไปเหมือนเดิม
พร้อมกับจี้รัฐบาลทหารให้จัดการเลือกตั้งในปี 2561 ตามที่พูดไว้ให้ได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องบอกสหรัฐให้ชัดเจนว่า ภาวะปัจจุบันในประเทศไทยเป็นเพียงภาวะชั่วคราว และจะสิ้นสุดลงอย่างไร
"สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์เคยระบุว่าถ้าไม่มีปัญหาขัดข้องด้านกฎหมายก็จะเลือกตั้งประมาณปลายปี 2561 นั้น ซึ่งความจริงน่าจะพูดว่าจะดูแลไม่ให้มีข้อขัดข้อง หากนายกฯยังมีคำว่า “ถ้า” จะทำให้คนตีความได้อีก อย่างไรก็ตาม ตนต้องการให้นายกฯบอกเรื่องวันเลือกตั้งกับประชาชนไทยเสียก่อน จากนั้นจึงนำความนี้ไปบอกแก่สหรัฐ"
ก็แปลง่ายๆ ว่ามีเลือกตั้งตามโรดแมพเมื่อ่ไหร่ พรรคใหญ่ ปชป.ก็พร้อมลุย!!
อ้าวก็เพราะตอนนี้บริบทบ้านเมืองมันเปลี่ยนไปแล้วนี่นา คนละเรื่องกับตอน 4 ปีก่อนเลย!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง