วันนี้ในอดีต

27 พ.ย.55 เศร้า ผล DNA ตรง 2 นักบินสาบสูญที่เขาใหญ่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 ที่น่าตกใจคือ คนไทยไม่มีใครคาดคิดว่า ทีมค้นหาจะใช้เวลานานมาก จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน และจากเดือนเป็นปี จากปี เป็น 5 ปี ยากที่ใครจะเชื่อ!!!

          วันนี้เมื่อ 5 ปีก่อน คือวันที่น้ำตาของ 2 ครอบครัวต้องหลั่งไหลอีกครั้ง เมื่อที่สุดได้มีการแถลงผลตรวจ DNA ว่าตรงกับ 2 นักบินหายตัวเขาใหญ่เมื่อปี 2550 ซึ่งแปลว่า 5 ปีก่อนหน้านั้นพวกเขาต้องทนอยู่กับความทุกข์ทรมาน และคำถามว่าคนในครอบครัวของพวกเขาหายไปไหน

          สำหรับ การแถลงผลเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 27 พ.ย.55 โดย พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.นต. แถลงผลการตรวจดีเอ็นเอชิ้นส่วนกระดูกที่คาดว่า เป็นของ นายภาคิน ไทยถนอม ครูฝึกการบินของบริษัท บางกอก เอวิเอชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด และ นายรณพ เหลืองวิลาวัณย์ นักบินฝึกหัด ซึ่งเครื่องบินตกบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งแต่ปี 2550

          พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบชิ้นส่วนกระดูกทั้งหมด สามารถตรวจดีเอ็นเอได้ 7 ชิ้น เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอบิดา-มารดาของทั้งสองศพ ยืนยันได้ว่า ชิ้นส่วนกระดูกเป็นของ 2 นักบินที่หายสาบสูญไป โดยกระดูกที่สามารถตรวจดีเอ็นเอได้นั้น 6 ชิ้น เป็นของนายรณพ 1 ชิ้น เป็นของนายภาคิน 5 ชิ้น

          ด้านนายรังสี เหลืองวิลาวัณย์ บิดาของนายรณพ กล่าวว่า เชื่อมั่นในผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และยังหวังว่า จะได้ชิ้นส่วนกระดูกที่เหลือเพิ่ม เพื่อนำมาบำเพ็ญกุศลต่อไป

27 พ.ย.55 เศร้า ผล DNA ตรง 2 นักบินสาบสูญที่เขาใหญ่

          สำหรับนายเตชทัต ไทยถนอม น้องชายของนายภาคิน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ผลการตรวจสอบยืนยันตัวพี่ชายได้ และยอมรับผลการตรวจสอบ พร้อมคาดหวังว่า จะสามารถค้นหาชิ้นส่วนที่เหลือของพี่ชายได้ แต่ไม่ได้คาดหวังไว้มากนัก เนื่องจากระยะเวลาก็ล่วงเลยมากว่า 5 ปีแล้ว

          อนึ่งหากย้อนไปก่อนหน้านั้น 5 ปี หลายคนคงจำกันได้กับเรื่องราวที่ 2 นักบิน คือ นายภาคิน ไทยถนอม อายุ 26 ปี และนายรณพ เหลืองวิลาวัณย์ อายุ 27 ปี นักบินฝึกหัดบริษัท บางกอก เอวิเอชั่นเซ็นเตอร์ จำกัด (บีเอซี) ขับเครื่องบินเล็กฝึกบินปีกหมุน แบบ 4 ที่นั่ง ยี่ห้อเซสน่า รุ่นสกายฮอว์ค 172 รหัสประจำเครื่องเอชเอส-บีเออี ออกจากสนามบินเล็ก ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 9 ส.ค.50 มุ่งหน้าสู่สนามบินดอนเมือง

          แต่โชคร้าย เหมือนถูกขีดเส้นให้เกิดขึ้น อยู่ๆ หลังขึ้นบินได้เพียง 40 นาที ปรากฏว่าพวกเขาขาดการติดต่อ และสัญญาณได้หายไปจากจอเรดาร์ ที่ ลอส ละติจูดที่ 14-31-44 องศาเหนือ ลองติจูดที่ 101-11-06 องศาตะวันออก ขณะบินอยู่เหนือผืนป่าเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี รอยต่อพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

          ที่สุดเมื่อสภาพอากาศดีขึ้น หลังเกิดเหตุจึงมีการระดมเจ้าหน้าที่นับร้อยคนออกค้นหา ที่น่าตกใจคือ คนไทยไม่มีใครคาดคิดว่า ทีมค้นหาจะใช้เวลานานมาก จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน และจากเดือนเป็นปี รวมเวลาถึง 5 ปี!!! กว่าจะพบซากเครื่องบิน และเศษชิ้นส่วนจากศพ 2 นักบินดังกล่าว ซึ่งรอยต่อของเวลาช่วงระหว่างนั้น มีข้อสันนิษฐานไปต่างๆ นานา ทั้งเรื่องสภาพป่าที่หนาทึบ สัตว์ดุร้าย ฯลฯ

27 พ.ย.55 เศร้า ผล DNA ตรง 2 นักบินสาบสูญที่เขาใหญ่

          ในที่สุดความพยายามตามหาซากเครื่องบินดังกล่าวที่หายสาบสูญไปกว่า 5 ปี ก็ประสบความสำเร็จ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2555 ญาติของ 2 นักบินผู้สูญหายได้เดินทางมาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า สำนักอนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เข้าพบกับนายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า เพื่อขอดูภาพนิ่ง ซึ่งเป็นหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ 3 คน คือ นายบุญเรือน กองคำฟู อายุ 48 ปี นายปริญญา กองคำฟู อายุ 28 ปี และนายชาติชาย ทาสีคำ อายุ 35 ปี เดินเท้าลาดตระเวนสำรวจผืนป่าซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯ ไปประมาณ 4 กม. และพบซากเครื่องบินปริศนาตกแหลกละเอียดอยู่กลางป่าลึกบริเวณหุบเขาคลองอดอยาก หมู่ 10 ต.ชำผักแพว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จึงถ่ายภาพออกมาให้ผู้บังคับบัญชาดู

          และทันทีที่เห็นภาพถ่ายที่ปรากฏตัวอักษรบีเออีสีน้ำเงินบนซากเครื่องบินและหมายเลขเครื่องบิน พร้อมภาพถ่ายรองเท้าหนังสีดำ 2 ข้างคนละขนาดกัน รวมไปถึงชุดหมีสีเทาของนักบินที่อยู่ในสภาพขาดรุ่งริ่งตามกาลเวลา ญาติของ 2 นักบินผู้สูญหายต่างยืนยันตรงกันว่า เป็นซากเครื่องบินลำที่พวกเรากำลังตามหากันอยู่นี้เอง

          เพียงแต่ในการค้นพบนี้ จะไม่สามารถเรียกว่า เป็นความยินดี เพราะทุกคนเชื่อมั่นว่านักบินทั้ง 2 คน น่าจะเสียชีวิตแล้ว!!

          อย่างไรก็ดี หลังจากพบซากเครื่องบินแล้ว แต่ยังไม่พบศพในทันที แม้จะค่อนข้างมั่นใจว่าพวกเขาไม่น่าจะมีชีวิตรอด แต่หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า ในเมื่อยังไม่เห็นศพ ก็อาจยังมีชีวิตอยู่

          โดยระหว่างนั้น มีการสันนิษฐานไปต่างๆ นานา เช่น 1.นักบินยังไม่ได้เสียชีวิตทันทีหลังเครื่องบินตกเขาใหญ่ จึงไม่พบศพในเครื่อง คาดหนีออกมาจากเครื่องได้

          โดยสาเหตุที่สันนิษฐานเช่นนี้ เนื่องจากในตัวเครื่องเจอชุดนักบินเพียงชุดเดียว ซึ่งคาดว่าเป็นชุดของนักบินภาคิน ไทยถนอม เพราะเป็นคนตัวเล็ก และชุดที่พบก็ตรงกับตำแหน่งที่นั่งของนักบินภาคิน

          ขณะที่ชุดของนักบินรณพ เหลืองวิลาวัณย์ ยังไม่พบ จึงเชื่อกันว่าในตอนแรกที่เครื่องบินตก นักบินรณพอาจจะยังไม่เสียชีวิต จึงพยายามเอาชีวิตรอดออกมาจากตัวเครื่อง เพราะในจุดที่อยู่ห่างจากเครื่องบินไปประมาณ 10 เมตร เจอรองเท้า และกระเป๋าซึ่งไม่มีสิ่งของภายในตกอยู่ และคาดว่าจะเป็นรองเท้าของนักบินรณพ เพราะเป็นคู่ใหญ่

          ทั้งนี้ คาดกันว่า สัตว์ที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้น ซึ่งมีทั้งช้าง เม่น กระทิงอาจจะกินซากศพไปแล้ว แต่ถึงกระนั้น ก็มีคำยืนยันว่า หากซากศพถูกสัตว์กินไปจริง ยังไงก็ต้องเจอกระดูกหลงเหลืออยู่แน่นอน

          อย่างไรก็ดี หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะกระจายกำลังค้นหาศพตามจุดต่างๆ ท่ามกลางฝนที่ทะยอยกรำหน่ำซ้ำลงมา จนการค้นหาล่าช้าไปหลายวัน

          จนในที่สุด วันที่ 16 พ.ย.2555 คำตอบก็กระจ่าง เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปบริเวณที่พบเครื่องบินเล็กอีกรอบในวันนั้น โดยนำสุนัขตำรวจและเครื่องมืออุปกรณ์เข้าไปค้นหาร่างของ 2 นักบินฝึกหัด เริ่มจากบริเวณจุดเครื่องบินตก เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด

          จากจุดเกิดเหตุเดินหน้าหาหลักฐานในระยะ 2 กม. กำลังส่วนหนึ่งได้นำเครื่องมือและอุปกรณ์ตัดถ่างและยกสิ่งของ พลิกซากเครื่องบินเพื่อค้นหาหลักฐานอีก

          ปรากฏว่าพบเศษชิ้นส่วนกระดูกคาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิตทั้งสอง มีขนาดยาวประมาณ 1-2 ซม.จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้นำใส่ตะแกรงร่อนเพราะมีเศษดิน เศษหินปะปนจำนวนมาก

          นอกจากนั้นยังพบกระเป๋าใส่สตางค์ โทรศัพท์ 2 เครื่อง รองเท้าหนังสีดำข้างซ้าย 2 ข้าง นาฬิกาข้อมือ แว่นตา บัตรการ์ดของ 2 นักบิน เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาการค้นหา 8 ชม.เศษ

27 พ.ย.55 เศร้า ผล DNA ตรง 2 นักบินสาบสูญที่เขาใหญ่ 27 พ.ย.55 เศร้า ผล DNA ตรง 2 นักบินสาบสูญที่เขาใหญ่

          โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ชิ้นส่วนกระดูกดังกล่าว ทางญาติจะได้นำให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง ส่วนหลักฐานต่างๆ ได้นำมอบให้กับญาติผู้เสียชีวิตไว้ทั้งหมด ในการเก็บกู้ชิ้นส่วนเครื่องบินเชสน่า 172P 4 ที่นั่งที่สองนักบินฝึกหัด ทางบริษัทบางกอกเอวิเอชั่น เซ็นเตอร์ จะเป็นผู้ขนย้ายชิ้นส่วนทั้งหมด เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทฯ โดยคาดว่าการค้นหาต้องยุติลงโดยสิ้นเชิง เพียงแต่รอการพิสูจน์หลักฐานต่างๆ อีกครั้ง

          ที่สุดก็นำมาสู่วันนี้เมื่อ 5 ปีก่อนที่ครอบครัวของ 2 นักบินต้องน้ำตาไหลรินอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่มีใครรู้ แต่เชื่อว่าคงมากเกินกว่าจะนับจำนวนได้ เมื่อมีผลยืนยันว่าดีเอ็นเอตรงกันกับ 2 นักบืนที่หายไป!!

          แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การที่พวกเขาสามารถนำชิ้นส่วนของคนที่รัก กลับมาบำเพ็ญกุศลทางศาสนาได้! ก็ถือว่าได้ส่งสองนักบินขึ้นสวรรค์ได้แล้วในที่สุด!!

          ขอไว้อาลัยแต่ 2 นักบินผู้จากไปอีกครั้ง

//////////////////////

ขอบคุณภาพจาก ผู้ใช้ใน เวบไซต์ www.pantip.com ชื่อ สมนึก-TING Bloggang

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ