วันนี้ในอดีต

17 พ.ย.2557 ฮ.ตก ปลิดชีพทหาร 9 นาย กับโพสต์สุดท้ายที่ทำขนลุก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันนั้น ซากเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ของกองทัพบก ถูกเพลิงไหม้ไฟลุกท่วมเสียหายทั้งลำ พร้อมศพทหารถูกไฟคลอกไหม้เกรียม รวม 9 ศพ!!

           ข่าวช๊อคคนไทยทั้งประเทศกับการสูญเสียถึง 9 ชีวิต จากเหตุ ฮ.กองทัพบก รุ่นเบล 212 ตกกลางทุ่งนา จนระเบิดไฟลุกท่วม ส่งผลให้รองแม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมลูกน้องและนักบิน รวม 9 ชีวิตดับสยองยกลำ

           เหตุสลดนี้เกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 3 ปีก่อนหรือในวันที่ 17 พ.ย. 2557 เมื่อเจ้าหน้าที่สภ.เมืองพะเยา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ทหารตกกลางทุ่งนา บ้านดอกบัว หมู่11 ต.ท่าวังทอง อ.เมืองพะเยา มีทหารเสียชีวิตหลายนาย

           เมื่อพากำลังไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่า จุดที่เฮลิคอปเตอร์ทหารตกนั้น อยู่ใกล้กับสระน้ำกลางทุ่งนาของชาวบ้าน โดยซากเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ของกองทัพบก ถูกเพลิงไหม้ไฟลุกท่วมเสียหายทั้งลำ เศษซากชิ้นส่วนเครื่องบินแตกกระจายเป็นวงกว้าง รัศมีราว 50 เมตร ที่น่าเศร้าใจ คือ ในซาก ฮ. ยังพบศพทหารถูกไฟคลอกไหม้เกรียม รวม 9 ศพ

          โดยเรื่องนี้ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น ก่อนจะเห็นเครื่องบินหมุนคว้างและตกลงมาในลักษณะควงสว่างหัวทิ่มปักพื้น

          สำหรับผู้เสียชีวิตภายในเครื่องทั้ง 9 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาค 3, พ.อ.กิตติ สุวรรณเจริญ รอง ผอ.กกบ.ทภ.3, พ.อ.ยุทธพงษ์ เพื่อนฝูง ฝยย.ทภ.3, พ.ท.วุฒิศักดิ์ สุนทรสุข ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุง ทภ.3, จ.ส.อ.อนันต์ ชมเชียงคำ ช่วยราชการฝ่ายยุทธการ ฝยย.ทภ.3, พ.ท.มานิต สุรเสนา นักบินที่ 1, ร.อ.วรพงษ์ ช่างสลัก นักบินที่ 2, จ.ส.อ.สมภพ มาลัยวงษ์ ช่างเครื่อง และ จ.ส.อ.พิรุณ แสนดอนคู่ ช่างเครื่อง

          ทั้งหมดต้องถูกส่งไปตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลที่ รพ.พะเยา เนื่องจากศพส่วนใหญ่อยู่ในสภาพไหม้เกรียมแทบจำเค้าเดิมไม่ได้

          อย่างไรก็ดี หากย้อนรอย ฮ.ตก ครั้งนี้ จะพบว่าครั้งนั้น มีเรื่องราวที่ชวนขนลุก เมื่อเจ้าหน้าที่ทหาร 1 ใน 9 นายที่เสียชีวิต ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุคของตนเอง ซึ่งเป็นเหมือนลางบอกเหตุว่า

          “ได้เวลา เย้ยฟ้า ท้าลมหนาว อีกแล้ว...ฮ.เก่า นักบินใหม่...อากาศปิด ประตูนรกเปิด...”

17 พ.ย.2557 ฮ.ตก ปลิดชีพทหาร 9 นาย กับโพสต์สุดท้ายที่ทำขนลุก

          ซึ่งเป็นข้อความสุดท้ายในเฟซบุ๊กของ จ.ส.อ. อนันต์ ชมเชียงคำ ผู้เป็น 1 ในเจ้าหน้าที่ทหารที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ 

          ซึ่งนอกจากจะทำให้หลายคนต้องเศร้าสลดแล้ว ยังสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ถึงปัญหาความเก่าแก่หมดสภาพ ของอาวุธยุทโธปกรณ์

          แต่มีเรื่องเล่ากันว่า คำพูดที่ว่า “อากาศปิด นรกเปิด” มาจาก พลโทชีวัน โหละบุตร ครั้งเป็น ผอ.กกบ.ทภ.3 และ รอง เสธ.ทภ.3 เวลาเดินทางโดย ฮ. เพื่อไปตรวจความต้องการด้านส่งกำลังบำรุง ท่านจะพูดคำนี้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับทุกคนที่ร่วมเดินทางไปด้วยเสมอๆ

          พูดง่ายๆ ว่าเป็นคำพูดแบบนักรบสมัยก่อน เมื่อเราทำความดีใยต้องกลัวกับนรก ซึ่งคนใน กกบ.ทภ.3 จะเข้าใจในความหมายของคำนี้ เพราะเป็นสิ่งเตือนใจให้กับการปฏิบัติภารกิจในฐานะจุดสูงสุดของการส่งกำลังบำรุง ตามสายการบังคับบัญชาในระดับกองทัพภาค

          นอกจากนี้ ในสังคมออนไลน์ยังมีการถกเถียงกันถึง ฮ.ลำนี้ ว่าถ้าเทียบตามรุ่นที่ประจำการยังไม่ถือว่าเก่า มี 2 เครื่องยนต์ ใช้เป็นฮ.หลักสำหรับภารกิจ vip ของกองทัพภาคที่ แถมสภาพอากาศในวันนั้นที่ ฮ.ยกตัวขึ้นจากค่ายขุนเจือง ก่อนประสบเหตุ ทัศนวิสัยปกติ ไม่ได้อากาศปิดแต่อย่างใด ทั้งนี้ ถ้าอากาศปิด นักบินซึ่งเป็นผู้บังคับอากาศยานไม่นำอากาศยานขึ้นบินอยู่แล้ว

          และนักบินที่ทำการบิน ก็ไม่ใช่นักบินใหม่แต่อย่างใด เพราะ พ.ท.มานิต (สุรเสนา) ครูการบินชั้น 1 ของ bell-212 มีประสบการณ์สูงเป็นนักบินชั้นยอดอันดับต้นๆ ของหน่วยบิน ความคิดการตัดสินใจดีเยี่ยม มีประสบการณ์การบินมากกว่า 20 ปี ขณะที่ ร.อ.วรพงษ์ (ช่างสลัก) มีความสามารถในการบินสูง ในภารกิจบินเข้าพื้นที่รับ-ส่ง ผู้บังคับบัญชา

          อย่างไรก็ดี หลังเหตุเศร้านี้ กองทัพบกมีการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น พร้อมเลื่อนยศให้ 9 นายทหารที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และทางกองทัพภาคที่ 3 ได้เข้าดูแลและอำนวยความสะดวกในทุกเรื่องให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต

          อนึ่ง เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกครั้งนี้ ไม่ได้เกิดครั้งแรก หากยังจำกันได้ ช่วงปี 2554 ราวกับโดนคำสาป เมื่อมีเฮลิคอปเตอร์ตกต่อเนื่อง 3 ลำในช่วงเวลาเพียง 8 วัน!!!

          โดยเป็นเหตุสลดที่เกิดระหว่างภารกิจจับกุมผู้บุกรุกป่าไม้ระหว่างตะเข็บชายแดนในพื้นที่อำเภอ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จนมีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตรวม 17 นายด้วยกัน!!

          แต่แล้ว คำถามเรื่อง ฮ.เก่า ก็ไม่ได้ถูกไฮไลท์มากมายนัก เมื่อข่าวเหล่านี้ค่อยๆ เงียบหายไปกับกาลเวลา ซึ่งทุกคนก็ได้แต่ภาวนา ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ