เช้าวันนี้ในอดีต ท้องฟ้าสีแดงส้มๆ อากาศเงียบสงัด แม้แต่ลมยังไม่พัด ก่อนพายุไต้ฝุ่นเกย์เคลื่อนเข้าถล่มจังหวัดชุมพร ด้วยความเร็ว 185 ก.ม./ชม.
ช่วงปิดภาคเรียน ก่อนหน้าพายุหนึ่งสัปดาห์“กรมอุตุนิยมวิทยา”ประกาศเตือนจังหวัดทางภาคใต้ว่าจะมีพายุไต้ฝุ่นพัดเข้าที่จังหวัดแถวๆอ่าวไทย คาดว่าจะเป็นสุราษฎร์หรือชุมพร โดยมีประกาศทางวิทยุอยู่เป็นระยะๆ ให้ประชาชนเตรียมตัวรับพายุลูกนี้
เมื่อ 28 ปี ช่วงเช้าของวันที่ 4 พ.ย.2532 "ท้องฟ้ามีสีแดงส้มๆ" ตามตำนานโบราณเคยบอกไว้ว่า“จะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น”แต่วิถีชีวิตของ่ชาวบ้านที่ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ยังดำเนินไปตามปกติ รถยนต์ประจำทางแวะรับชาวบ้านเพื่อไปซื้อของที่ตลาด ไม่มีใครสนใจคำประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาในครั้งนั้นเลย
ประมาณ 8 โมงกว่าๆ อากาศ เงียบสงัด แม้แต่ลมยังไม่พัดเลยสักนิด ต้นไม้ไม่ไหวเอน มีเพียงนกน้อยใหญ่บินส่งเสียงร้องดังลั่น เหมือนกับกำลังตกใจ หนีอะไรสักอย่าง แต่มีเสียงวิทยุที่ประกาศเตือนว่าพายุจะขึ้นฝั่งที่จังหวัดชุมพรแล้ว จู่ๆสัญญาณการถ่ายทอดเสียงทางวิทยุก็หายไป สักพักใหญ่ๆลมก็เริ่มพัดจากบนภูเขาค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ท้องฟ้ามืดครึม พร้อมกับฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา
เวลา 08.30 น. พายุไต้ฝุ่นเกย์เคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ตอนบนด้วยความเร็วถึง185กิโลเมตรต่อชั่วโมง(ก.ม./ชม.) เป็นความเร็วของพายุไต้ฝุ่นในระดับ 3 ถล่มอำเภอเมืองชุมพรอำเภอท่าแซะ และอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร รวมถึงอำเภอบางสะพานน้อย และบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เสียงกิ่งไม้ลั่นหักดังเปรี๊ยะๆอยู่บนภูเขา พร้อมกับเศษกระเบื้องและสังกะสีที่ปลิวว่อน ท้องฟ้ามืดเหมือนตอนกลางคืน เกลียวคลื่นลมพัดหมุนควงสว่านอย่างน่ากลัว เสียงต้นไม้ล้มยังดังสนั่นพร้อมกับคลื่นพายุ เวลายิ่งผ่านไป พายุไม่มีวี่แววว่าจะหยุด ยังคงพัดหมุนเปลี่ยนทิศเข้ามาเรื่อยๆ บ้านเรือน พัง ต้นไม้โค่นล้ม ชาวบ้านและสัตว์เลี้ยงหนีตาย เวลาผ่านไปหลา่ยชั่วโมง สายลมเริ่มเบาลง แต่ฝนยังตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น
นั่นคือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่พายุไต้ฝุ่นเกย์ เคลื่อนเข้าถล่มจังหวัดชุมพร ด้วยความเร็ว 185 ก.ม./ชม.นับเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกแรกที่พัดเข้าสู่ประเทศไทย โดยเริ่มก่อตัวขึ้นเป็น"พายุดีเปรสชั่น" ในอ่าวไทยตอนล่าง เริ่มจาก ในวันที่ 1 พ.ย.2532
จากนั้นก็เคลื่อนตัวขึ้นเหนือ และมีกำลังรุนแรงขึ้นเป็น "พายุโซนร้อน" และกลายเป็น "พายุไต้ฝุ่น" ตามลำดับ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 วัน คือใน วันที่ 4 พ.ย.2532 เวลา 08.30 น. พายุไต้ฝุ่นเกย์เคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ตอนบน ด้วยความเร็วถึง 185 ก.ม./ชม.ซึ่งเป็นความเร็วของพายุ
ไต้ฝุ่นเกย์ถล่มไทย! ที่อำเภอเมือง ประจวบคีรีขันธ์ บางสะพานน้อย และบางสะพาน ก่อนขึ้นฝั่งที่อำเภอ ท่าแซะ และปะทิว จังหวัดชุมพร ทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งที่อำเภอบางสะพานน้อย บางสะพาน ท่าแซะ และ ปะทิว พายุเกย์เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกอย่างรวดเร็ว ผ่านประเทศพม่า ก่อนจะพัดออกสู่ทะเล อันดามัน มหาสมุทรอินเดีย และอ่อนกำลังลงเป็น"พายุโซนร้อน"
พอถึงวันที่ 6 พ.ย.2532 ก็ทวีกำลังขึ้นใหม่อีกครั้ง พัดถล่ม"หมู่เกาะอันดามัน" และเคลื่อนขึ้นสู่ชายฝั่ง "ประเทศอินเดีย" ในวันที่ 8 พ.ย.ด้วยความรุนแรงสูงสุดระดับที่ 5 สูงกว่า 250 ก.ม./ชม. และสลายตัวไปในวันที่ 10 พ.ย. 2532
ภัยพิบัติครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 446 คน บาดเจ็บ 154 คน บ้านเรือนเสียหาย 38,002 หลังประชาชนเดือดร้อน 153,472 คน เรือล่ม 391 ลำ ถนนเสียหาย 579 เส้น สะพาน 131 แห่งทำนบและฝาย 49 แห่ง โรงเรียนพัง 160 โรง วัด 93วัด มัสยิด 6 แห่ง พื้นที่การเกษตร 80,900,105 ไร่สัตว์เลี้ยงตาย 83,490 ตัว ประเมินความเสียหาย 11,257,265,265 บาท
“พายุไต้ฝุ่นเกย์”ถือเป็น“พายุหมุน”เป็นพายุหมุนเขตร้อนทรงพลัง เกิดขึ้นในคาบสมุทรมลายูรอบ 35 ปีสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยมากที่สุดนับตั้งแต่"พายุโซนร้อนแฮเรียต" ถล่มแหลมตะลุมพุก ในปีพ.ศ. 2505 เป็นพายุลูกเดียวในประวัติศาสตร์ที่พัดเข้าสู่ประเทศไทยในระดับไต้ฝุ่นและยังเป็นพายุที่มีความเร็วลมสูงสุดขณะขึ้นฝั่งเท่าที่เคยมีมาในคาบสมุทรมาลายู
ฝันร้าย!!ของพี่น้องแดนใต้ผ่านพ้นไป หลังจากน้ำใจของคนไทย หลั่งไหลมาช่วยเหลือไม่ขาดสาย เพราะ“คนไทยไม่เคยทิ้งกัน”
--------//------------
ขอบคุณที่มาข้อมูล
-https://th.wikipedia.org
-youtube
ข่าวที่เกี่ยวข้อง