วันนี้ในอดีต

21 ต.ค.2528 กำเนิดวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สมเด็จย่า"พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายและเวลา มิได้ทรงเห็นแก่ความเหนื่อยยาก เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย

         วันนี้ในอดีตเมื่อ 32 ปีมาแล้ว ในพ.ศ.2528 คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ“คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนางานสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ” ให้กำหนดวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งเป็น“วันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จย่า”เป็น“วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ” ด้วยเหตุผลที่ว่าพระองค์ทรงอุทิศพระวรกายและเวลา เพื่อประโยชน์ให้บังเกิดแก่ประชาชนตลอดมา โดยมิได้ทรงเห็นแก่ความเหนื่อยยาก สมควรเป็นปูชนียบุคคลที่นักสังคมสงเคราะห์ควรถือเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติงานของตนต่อไป

          วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ภาครัฐบาลและภาคเอกชน จึงได้ร่วมกันจัดงานแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการสังคมสงเคราะห์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ“สมเด็จย่า” ที่ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่าโดยไม่เลือกเชื้อชาติศาสนา

         การสังคมสงเคราะห์คือการช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้ทุกคนอยู่ในสังคมไทย ได้อย่างมีความสุขและให้ทุกคนมีความสามารถ รวมถึงพัฒนาสังคมให้มีความเจริญก้าวหน้าด้วย

        การสังคมสงเคราะห์มีในประเทศไทยเป็นเวลานานมาแล้ว สมัยก่อนนี้“วัด” เป็นศูนย์กลางของการสังคมสงเคราะห์ ปัจจุบันนี้มีทั้งภาครัฐบาล และภาคเอกชน ทางฝ่ายรัฐนั้นมีหน่วยงานที่ร่วมรับผิดชอบเกี่ยวกับความผาสุกของประชาชนชาวไทย คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)

        ส่วนภาคเอกชนนั้นกระทำการสังคมสงเคราะห์  โดยการจัดตั้งเป็น สมาคมและมูลนิธิเพื่อการกุศล ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นองค์การที่ตั้งขึ้นโดยประชาชน เป็นของประชาชนและทำงานเพื่อประชาชนโดยแท้ ในปัจจุบันนี้มีจำนวน ประมาณกว่า 10,000 องค์การ ที่ช่วยรัฐและหน่วยงานของรัฐให้บริการสังคม- สงเคราะห์

       สมาคมและมูลนิธิหลายองค์การได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริ หรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมและมูลนิธิเหล่านี้ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติ เป็นเอนกประการ ทั้งในการสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อน ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคม รวมทั้งการพัฒนาสังคมด้านต่างๆ เช่น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิอานันทมหิดล เป็นต้น

       มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ และสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ เป็นองค์การที่ทำงานเพื่อการสังคมสงเคราะห์โดยแท้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ หมายถึงมูลนิธิที่พระมหากษัตริย์และประชาชนร่วมกันจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยผู้ ที่ประสบสาธารณภัยทั่วประเทศ มูลนิธินี้ถือกำเนิดขึ้น เนื่องมาจากการเกิดวาตภัยและอุทกภัยขึ้นในจังหวัด ภาคใต้เมื่อ พ.ศ. 2505 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ทรงนำประชาชนให้ช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติ ผู้ประสบเคราะห์กรรมเหล่านั้น ได้รับการบริจาคเฉพาะเงินสดถึง 11 ล้านบาท หลังจากที่พระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหล่านั้นแล้ว ยังเหลือเงินอยู่อีกถึง 3 ล้านบาท จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้จัดตั้งเป็น “มูลนิธิราชประชานุเคราะห์”ขึ้น

       สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ได้พระราชทานเงินจำนวนหนึ่งล้านบาทเป็นทุนริเริ่มการสร้างตึกทำงานของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ และได้พระราชทานนามตึกนี้ว่า“ตึกมหิดล” เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณในด้านสังคมสงเคราะห์ของสมเด็จพระบรมราชชนก

         โครงการที่สำคัญที่สุดของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ คืออุดมการณ์ที่รัฐรับเป็นอุดมการณ์ของชาติ คือ “โครงการแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” ซึ่งมีที่มาจากพระบรมราชปณิธานในพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” โดยพระราชดำรัสที่ว่า“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม”เป็นที่มาแห่ง“แผ่นดินธรรม”ส่วนพระราชดำรัสที่ว่า “เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เป็นที่มาแห่ง “แผ่นดินทอง”

----------//----------

ขอบคุณที่มาข้อมูล

-http://www.todayth.com

-https://th.wikipedia.org/wiki

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ