วันนี้ในอดีต

“สมเด็จพระนโรดมสีหนุ”เสด็จสวรรคตที่ปักกิ่ง (มีคลิป)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันนี้ในอดีต15 ตุลาคม 2555“สมเด็จพระนโรดมสีหนุ”อดีตกษัตริย์ผู้ทรงนำพากัมพูชาให้เป็นอิสระจากการตกเป็นอาณานิคมเสด็จสวรรคตด้วยโรคชราที่ปักกิ่ง

     สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า“พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ” อดีตพระมหากษัตริย์และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาหลายสมัยเสด็จสวรรคตด้วยโรคชรา ขณะทรงมีพระชนมพรรษา 90 พรรษา ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างทรงให้แพทย์ถวายการรักษา

     ทั้งนี้ เป็นคำแถลงยืนยันของ “นายนิก บันเจย” รองนายกฯกัมพูชา เมื่อวันจันทร์ที่15 ตุลาคม 2555 ว่า“สมเด็จพระนโรดม สีหนุ”เสด็จสวรรคตเมื่อเวลา 02:00 น.วันที่15 ตุลาคม 2555

     “เป็นเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่ของกัมพูชา ทุกคนโศกเศร้ามาก อดีตพระมหากษัตริย์เป็นพระมหาราชาผู้ยิ่งใหญ่ ชาวกัมพูชาเคารพและรักพระองค์ท่าน”

     พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชา เสด็จพระราชดำเนินไปยังกรุงปักกิ่ง ในเช้าวันที่ 15 ตุลาคม 2555 เพื่อทรงรับพระศพพระวรราชบิดา กลับมายัง กรุงพนมเปญ

     การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ไม่เพียงแต่ยังความเศร้าโศกเสียใจของราชวงศ์กัมพูชาเท่านั้น แต่เป็นโศกสลดสำหรับชาวกัมพูชาทุกคน เนื่องจากสมเด็จพระนโรดมสีหนุทรงเป็นพระบิดาของประเทศ 

     ธงชาติทั่วกัมพูชาถูกลดลงครึ่งเสา บรรยากาศในกรุงพนมเปญเงียบสงัดแม้อยู่ในช่วงเทศกาลสารทเขมร สถานีทีวีกัมพูชาแพร่ภาพพระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ขณะที่เครือข่ายสังคม เช่น เฟซบุ๊ก เต็มไปด้วยข้อความแสดงความอาลัยและพระบรมฉายาลักษณ์ของอดีตกษัตริย์พระองค์นี้

      ภาพจำ..สมเด็จพระนโรดมสีหมุนี กษัตริย์องค์ปัจจุบันของกัมพูชา ซึ่งเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระนโรดมสีหนุ และนายกรัฐมนตรีฮุน เซน โอบกอดกันร่ำไห้ ก่อนเสด็จและขึ้นเครื่องบินเดินทางไปอัญเชิญพระบรมศพที่ปักกิ่ง ครานั้นอัญเชิญพระบรมศพตั้งที่พระบรมมหาราชวังเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อให้พสกนิกรชาวกัมพูชาได้ถวายบังคมแสดงความไว้อาลัย

     พสกนิกรกัมพูชาจำนวนเรือนแสน เข้าแถวเรียงรายตามท้องถนนสายต่างๆ ในกรุงพนมเปญ ในระหว่างการอัญเชิญพระบรมศพกลับมา ซึ่งถือเป็นการเสด็จนิวัติสู่กัมพูชาครั้งสุดท้าย

      ชาวกัมพูชารวมตัวกันหน้าพระราชวังในพนมเปญ ด้วยคราบน้ำตาหลังทราบข่าวการสวรรคตของ“พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ” ถึงแม้ในช่วงปีหลังๆ นี้ สมเด็จพระนโรดมสีหนุ พร้อมสมเด็จพระชายาโมนิก ซึ่งเป็นพระชายาองค์ที่ 6 เสด็จไปประทับที่กรุงปักกิ่งเป็นส่วนใหญ่ เพื่อทรงรับการรักษาโรคมะเร็ง เบาหวาน และอื่นๆ 

คลิปจากเฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen, Cambodian Prime Minister       

      ขณะที่พระสุขภาพ“พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ”อ่อนแอลงมาก สวนทางกับอิทธิพลทางการเมืองของพระองค์ที่ลดทอนลง ทำให้การเสด็จไปจีนเสมือนเป็นการเนรเทศพระองค์เองกลายๆ แต่พระองค์ยังคงเป็นที่เคารพรักของชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ และยังเป็นที่จดจำในฐานะองค์พระประมุขของประเทศผู้ทรงนำพากัมพูชาให้เป็นอิสระจากการตกเป็นอาณานิคม ในช่วงเวลาหลายทศวรรษแห่งความปั่นป่วนผันผวนยิ่ง

     สมเด็จพระนโรดมสีหนุทรงขึ้นสู่อำนาจหลังได้รับเลือกจากเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส ให้เป็น "กษัตริย์หุ่นเชิด" สืบต่อจากพระราชปิตุลา คือ "กษัตริย์สีโสวัฒน์มณีวงศ์" ในปี 1941 ขณะทรงมีพระชนมายุเพียง 18 พรรษา ทว่าหลังจากนั้นไม่นานพระองค์ก็ทรงพยายามผลักดัน เพื่อปลดแอกกัมพูชาจากปารีส และทรงดำเนินการสำเร็จ 12 ปี ต่อมา หรือในปี 1953

     กษัตริย์นักรัก ผู้กำกับภาพยนตร์มือสมัครเล่น และนักพูดเจ้าเสน่ห์ที่ตรัสคล่องแคล่วทั้งภาษาเขมร ฝรั่งเศส และอังกฤษ กลายเป็นที่รักใคร่ของปวงประชาชน

     ปลายทศวรรษ 1960 หลังจากสละราชสมบัติมาเกือบ 10 ปีเพื่อเข้ามาสร้างสมอิทธิพลทางการเมืองโดยตรง สมเด็จพระนโรดมสีหนุไม่สามารถหยุดยั้งประเทศจากการถลำเข้าสู่สงครามเวียดนาม และ “ทุ่งสังหาร” ภายใต้การปกครองของ"เขมรแดง"ในทศวรรษ 1970 ที่มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 1.8 ล้านคน ในช่วงปฏิวัติ"ลัทธิเหมาอิสต์"สุดโต่งของ“พอลพต”

     ยุคเรืองอำนาจทางการเมืองสูงสุด สมเด็พระนโรดมสีหนุทรงจัดการกับผู้ต่อต้านและฝ่ายซ้ายอย่างรุนแรง รวมทั้งพยายามพะเน้าพะนอเอาใจทั้ง“สหรัฐอเมริกา”สลับกับเอาใจ“มอสโก”ในยุคสงครามเย็น

     สมเด็จพระนโรดมสีหนุทรงได้สร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มอนุรักษนิยม ด้วยการยุติการรับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาในปี 1963 และช่วยจีนส่งอาวุธให้"คอมมิวนิสต์เวียดนาม" รบกับ "สหรัฐอเมริกา"

     แต่แล้ว "นายพลลอน นอล" ที่ได้รับการสนับสนุนจาก"สหรัฐอเมริกา"ที่ต้องการขัดขวาง "ลัทธิคอมมิวนิสต์"ในกัมพูชาและเวียดนาม ก็ได้ทำรัฐประหารยึดอำนาจระหว่างสมเด็จพระนโรดมสีหนุเสด็จเยือนมอสโกในปี 1970 และต่อมาในปี 1973 สมเด็จพระนโรดมสีหนุ ทรงทำข้อตกลงกับ "กลุ่มเขมรแดง" เพื่อร่วมกันต่อต้าน "ระบอบปกครองหุ่นเชิด"ของสหรัฐอเมริกา

     ภายหลัง"เขมรแดง"ได้รับชัยชนะยึดครองประเทศได้ในปี 1975 ซึ่งตามมาด้วยช่วงเวลาแห่งความโหดร้ายทารุณยาวนาน 4 ปี ทำให้ประชาชนเกือบ 1 ใน 4 เสียชีวิตจากการขาดอาหาร โรคภัยไข้เจ็บ การประหารชีวิต หรือ ทรมาน สมเด็จพระนโรดมสีหนุทรงมีฐานะไม่ผิดอะไรกับ "หุ่นเชิด" และทรงถูกกักขังเป็นนักโทษภายในพระราชวัง พระองค์ไม่สามารถรอดพ้นโศกนาฏกรรมจากความเหี้ยมโหดของ"พอลพต" โดยทรงเสียพระโอรสและพระธิดารวม 5 องค์จากที่ทรงมีทั้งสิ้น 14 พระองค์

     เมื่อ"เวียดนาม"บุก"กัมพูชา"และโค่นล้มระบอบปกครองเขมรแดงในปี 1979 สมเด็จพระนโรดมสีหนุซึ่งใกล้ชิดกับผู้นำปฏิวัติของจีน คือ "เหมาเจ๋อตง" และ"โจวเอินไหล"พระองค์ทรงหนีไปยังประเทศจีน จากนั้นทรงตัดสินพระทัยกลับมาร่วมมือกับกลุ่มเขมรแดง ทำสงครามกองโจรกับรัฐบาลของ"ฮุนเซน"ที่เป็นหุ่นเชิดของ "ฮานอย"

     ภายหลังสนธิสัญญาสันติภาพที่สหประชาชาติเป็นแม่งาน แม้จะนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ทว่า"ฮุน เซน"กลับมีอำนาจเพิ่มขึ้นทุกทีๆ ขณะที่สมเด็จพระนโรดม สีหนุทรงกลายเป็นกษัตริย์ที่มีอำนาจจำกัด ชะตากรรมของราชวงศ์รวมทั้งชะตากรรมของกัมพูชาตกอยู่ในมือ"ฮุน เซน" แทบจะเบ็ดเสร็จ

     สมเด็จนโรดมสีหนุทรงสละราชสมบัติอีกครั้งในปี 2004 และเสด็จพำนักในกรุงปักกิ่ง โดย"เจ้าชายสีโสวัฒน์" ระบุว่า สาเหตุการสละราชสมบัติครั้งสุดท้ายก็เพื่อรักษาราชวงศ์และทำให้กัมพูชามีเสถียรภาพ

     พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่าง พ.ศ.2484 - 2498 และพ.ศ.2536-2547

     ทรงได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยว่า “พระกรุณา พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ราชหริวงษ์ อุภโตสุชาติ วิสุทธิวงษ์ อัคคมหาบุรุษรัตน์ นิกโรดม ธัม มิกมหาราชาธิราช บรมนาถ บรมบพิตร พระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดี”

     ทรงสละราชสมบัติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2547 ขณะทรงมีพระชนมพรรษา 82 พรรษา ก่อนสวรรคตทรงดำรงพระราชอิสริยยศ “พระกรุณา พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระมหาวีรกษัตริย์ พระวรราชบิดา เอกราช บูรณภาพดินแดน และความเป็นเอกภาพแห่งชาติเขมร”

----------------//----------------

ขอบคุณข้อมูล.... 

https://th.wikipedia.org/wiki/

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ