วันนี้ในอดีต 19 ก.ย. 2519 “จอมพล ถนอม กิตติขจร” เดินทางกลับเข้าประเทศไทย ด้วยการบวชเป็น “สามเณร” หลังจากต้องเดินทางออกนอกประเทศหลังเหตุการณ์ “14 ตุลา 16”
วันนี้ในอดีต 19 ก.ย. 2519 จอมพล ถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวัย 65 ปี ได้เดินทางกลับเข้าประเทศไทยหลังจากได้รับอนุญาตจากรัฐบาล(ในขณะนั้น )ด้วยการบวชเป็น“สามเณร”มาจากประเทศสิงคโปร์ ผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมือง (ในขณะนั้น)นำ “เณรถนอม”นั่งรถเบนซ์ตรงไปยังวัดบวรนิเวศวรวิหาร มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยแจ้งให้รัฐบาลทราบทุกระยะ กระทั่ง“สามเณร ถนอม”เสร็จสิ้นพิธีอุปสมบทเป็นภิกษุที่วัดบวรฯ โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒนมหาเถร) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา ‘สุกิตติขจโรภิกขุ’
สำหรับการบวชในครั้งนั้น “จอมพลถนอม” อ้างว่าต้องการบวชให้บิดาที่กำลังจะเสียชีวิต หลังจากต้องเดินทางออกนอกประเทศหลังเหตุการณ์“14 ตุลา 16”
การกลับมาคราวนี้ส่งผลให้กลุ่มนิสิตนักศึกษาและประชาชนออกมาชุมนุมเพื่อขับไล่ “จอมพลถนอม”กลับนอกประเทศ และประท้วงคณะสงฆ์วัดบวรฯ
จากนั้นกลุ่มฝ่ายขวาที่ต่อต้านนักศึกษา เช่น กลุ่มกระทิงแดง, กลุ่มนวพล, กลุ่มลูกเสือชาวบ้าน, กลุ่มพิทักษ์ชาติไทย ก็ออกมาประณามกลุ่มนักศึกษาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ต้องการทำลายสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในที่สุดก็ยกกำลังมาปิดล้อมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝ่ายทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวณชายแดน ก็เข้ามาปิดล้อมและทำการปราบปรามนักศึกษากลายเป็นเหตุการณ์นองเลือด”6 ตุลา 19”ทางการระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 39 ศพ แต่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูระบุว่า 530 ศพ บาดเจ็บอีกจำนวนมาก
รัฐบาลพลเรือนของ ม.ร.ว .เสนีย์ ปราโมช ไม่อาจควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยได้ นำมาซึ่งเกิดการ "รัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519“ ซึ่งเกิดขึ้นในเวลา 18.00 น. โดยคณะนายทหาร 3 เหล่าทัพ นำโดย พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ รมว.กลาโหม(ในขณะนั้น) ซึ่งจำเป็นต้องยึดอำนาจการปกครองไว้เพื่อให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะสงบ โดยใช้ชื่อว่า”คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน“ และต่อมา ”คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน"ได้แต่งตั้งให้นายธานินทร์ กรัยวิเชียร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บริหารบ้านเมืองต่อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง