วันนี้ในอดีต

วันนี้ในอดีต‘เสก โลโซ’ยอมจ่าย 5 แสน‘คดีทำร้ายเพื่อนอดีตเมีย'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันนี้ในอดีต 12 ก.ย. 2559 ‘เสก โลโซ’ยอมจ่าย 5 แสน‘ คดีทำร้ายเพื่อนอดีตเมีย’ ส่วนคดีอาญา ศาลรอลงอาญา

           วันนี้ในอดีต 12 ก.ย. 2559  ่ศูนย์สมานฉันท์ชั้น 8 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดประนอมข้อพิพาท คดีหมายเลขดำ อ.2745/2559 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ ร็อกเกอร์ชื่อดัง และนายสหชาติ หรือชาติ พูลศรี ลูกน้องคนสนิท เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นอันตรายแก่กายและจิตใจ และข่มขู่ผู้อื่นให้เกิดความกลัว 

          กรณีเมื่อวันที่ 13 เม.ย.59 เวลากลางคืน จำเลยทั้งสอง ร่วมกันทำร้าย น.ส.ชนกชล หรือทอมบี บุญเพ็ง และ น.ส.วิรังรอง สายแสงทิม ผู้เสียหายซึ่งเป็นเพื่อนคนสนิทและน้องสาวของนางวิภากร หรือกานต์ สายแสงทิม อดีตภรรยาของเสก โลโซ จน น.ส.ชนกชล กรามซ้ายหัก ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณร้านอาหาร แม็คโดนัลด์ ย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ซึ่งอัยการยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา

           ทั้งนี้นายเสกสรรค์ หรือเสก โลโซ และ นายสหชาติ  ได้เจรจากับ น.ส.ชนกชล หรือทอมบี คู่กรณี โดยมีนางวิภากร หรือกานต์ สุดท้ายการไกล่เกลี่ยในวันดังกล่าว ก็จบลงด้วยดี เนื่องจากนางวิภากร อดีตภรรยา เป็นคนกลางช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยด้วย  โดย ‘เสก’ยอมรับสารภาพและยินยอมชดใช้เป็นเงิน 500,000 บาทซึ่งคู่กรณีก็พอใจ

           ส่วนคดีอาญานั้น  ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสกโลโซ และนายสหชาติ เป็นจำเลยที่1-2ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นอันตรายแก่กายและจิตใจ และข่มขู่ผู้อื่นให้เกิดความกลัว กรณีทำร้าย น.ส. ชนกชล และ น.ส. วิรังรอง  ซึ่งคดีนี้จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

          ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามฟ้อง ฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ จึงพิพากษาให้จำคุกนายเสกสรรค์หรือเสกโลโซ เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน และปรับ 4,000 บาท ส่วน นายสหชาติ จำคุก 2 ปี ซึ่งจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกนายเสกสรรค์หรือเสกโลโซ เป็นเวลา 1 ปี 3 เดือน และปรับ 2,000 บาท ส่วนนายสหชาติจำคุก 1 ปี โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาคนละ 2 ปี และมีคำสั่งให้จำเลยทั้งสอง ทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ด้วยอีกคนละ 3 ครั้ง ภายในเวลา 1 ปี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ