วันนี้ในอดีต

วันนี้ในอดีต 28 ส.ค. 2520 ‘พะเยา’ จังหวัดที่ 72

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันนี้ในอดีต 28 ส.ค. 2520  อำเภอพะเยา ได้ยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดพะเยา เป็นจังหวัดที่ 72 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ 6,335 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 4 แสนกว่าคน

           วันนี้ในอดีต 28 ส.ค. 2520 เป็นวันตั้งจังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นจังหวัดในภาคเหนือตอนบน บริเวณที่ตั้งของตัวเมืองพะเยาในปัจจุบันอยู่ติดกับกว๊านพะเยา เดิมเป็นที่ตั้งของเมือง ภูกามยาว หรือ พะยาว ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่ 16 โดยมีผู้ปกครองคือ พญางำเมือง ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจ และตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรล้านนา

           เมื่อถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองพะเยาอยู่ภายใต้การปกครองของจังหวัดเชียงรายในฐานะ‘ อำเภอพะเยา’ และเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ปี 2520 อำเภอพะเยาได้ยกฐานะขึ้นเป็น ‘จังหวัดพะเยา’ นับเป็นจังหวัดที่ 72 ของประเทศไทย โดยมีนายสัญญา ปาลวัฒน์วิไชย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนแรก

          ‘พะเยา’เป็นจังหวัดในกลุ่มล้านนาตะวันออกร่วมกับ‘เชียงราย’ มีสำเนียงภาษาถิ่นเหนือเป็นเอกลักษณ์ต่างจากภาษาถิ่นเหนือในจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากความสัมพันธ์กับ‘เชียงราย’ในแง่ของสำเนียงภาษาและวัฒนธรรมแล้ว ‘พะเยา’และ‘เชียงราย’ยังมีความสัมพันธ์กันในลักษณะบ้านพี่เมืองน้องฉันท์เครือญาติ

         จังหวัดพะเยามีเนื้อที่ประมาณ 6,335 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 15 ของภาคเหนือ  มี 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอจุน อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงม่วน อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง และอำเภอแม่ใจ มีประชากร 4 แสนกว่าคน

         สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงและภูเขา มีระดับความสูงตั้งแต่ 300-1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีเทือกเขาอยู่ทางทิศตะวันตก-ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้และตอนกลาง และมีพื้นที่ป่าไม้ (จากภาพถ่ายดาวเทียม ปี 2542) ประมาณ 1,503,174 ไร่ หรือร้อยละ 37.96 ของพื้นที่ สภาพเป็นป่าดงดิบและป่าไม้เบญจพรรณ

         ตอนเหนือมีพื้นที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ทิศตะวันออกติดกับประเทศลาวและจังหวัดน่าน ส่วนทางตะวันตกติดกับจังหวัดลำปาง และทางด้านใต้ติดกับจังหวัดแพร่

         ส่วนพืชผลทางด้านเกษตรของจังหวัดพะเยานั้น ข้าวหอมมะลิของจังหวัดพะเยาจัดอยู่ในสินค้าระดับ Premium Grade เพราะจะมีเพียงฤดูนาปีเท่านั้น จังหวัดพะเยามีดินดีที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูก กล่าวคือ ดินเหนียวใกล้เชิงภูเขาไฟและเป็นดินจากภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ทำให้ข้าวมีรวงแข็งแรง เมล็ดสมบูรณ์ใหญ่ยาว เมื่อสีข้าวแล้ว จะได้ข้าวเมล็ดเรียวยาว ขาวเป็นมัน เมื่อหุงสุกแล้วจะเหนียวนุ่มกลิ่นหอมตามธรรมชาติคล้าย ๆ กับกลิ่นใบเตย แม้ทิ้งไว้นานก็ยังคงสภาพกลิ่นหอม หุงแล้วนุ่ม

          นอกจากนี้ยังมี ‘ลำไย’ ซึ่งลำไยส่วนใหญ่ที่ปลูกในจังหวัดพะเยา คือ พันธุ์อีดอ ลักษณะผลใหญ่ รูปทรงแป้นเบี้ยว เนื้อหวานสีขาวขุ่นค่อนข้างเหนียว รสหวาน มีปริมาณน้ำตาลประมาณร้อยละ 18.7 ผลจะแก่เร็วกว่าผลพันธุ์อื่น ต้นเดือนกรกฎาคมก็เก็บผลผลิตได้ นิยมปลูกในทุกอำเภอ แหล่งที่ปลูกมาก คือ อำเภอเชียงคำและอำเภอจุน ผลผลิตส่วนใหญ่จะผลิตเป็นลำไยอบแห้งทั้งเปลือก

          และผลไม้สำคัญของจังหวัดนี้อีกชนิดหนึ่งก็คือ‘ลิ้นจี่’ เนื่องจากสวนลิ้นจี่ส่วนใหญ่ของจังหวัดพะเยาปลูกอยู่ระหว่างหุบเขาที่มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี และปลูกในดินที่มีปริมาณธาตุโพแทสเซียมสูง ส่งผลให้ลิ้นจี่ของจังหวัดพะเยามีลักษณะเด่น คือ ลูกใหญ่ สีผิวสวยตามชนิดพันธุ์ รสชาติหวาน เนื้อแห้งกรอบ ไม่มีน้ำมากเมื่อแกะรับประทานสด สามารถเก็บเกี่ยวได้ก่อนจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ