วันนี้ในอดีต

 วันนี้ในอดีต 21 มิ.ย. 2547 ‘เจริญ วัดอักษร’ ถูกยิงเสียชีวิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันนี้ในอดีต 21 มิ.ย. 2547 ‘เจริญ วัดอักษร’ แกนนำต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินบ่อนอก ถูกยิงเสียชีวิต ชาวบ้านเชื่อว่าสาเหตุน่ามาจากการคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้า

 

          วันนี้ในอดีต เมื่อ 13 ปีที่แล้ว 21 มิ.ย. 2547 ‘เจริญ วัดอักษร’ ประธานกลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก  ต.บ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และแกนนำต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินบ่อนอก  ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต 

           เหตุในคดีนี้เกิดขึ้น หลังจากที่‘เจริญ’ กลับจากการยื่นเอกสารและให้การต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีที่เขาได้ยื่นร้องเรียนเรื่องการบุกรุกที่ดินสาธารณะคลองชายธงในเขต อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปรากฏว่า เมื่อ‘เจริญ’ลงจากรถทัวร์เพื่อเดินทางเข้าบ้านพัก ได้มีคนร้ายบุกกระหน่ำยิงเขา 9 นัด ที่บริเวณสี่แยกบ่อนอก จนเสียชีวิต!

           ต่อมาตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา  5 คน คือ 1.นายเสน่ห์ เหล็กล้วน  2.นายประจวบ หินแก้ว  ซึ่งทั้งสองคนถูกกล่าวหาว่าเป็นมือปืน  3.นายธนู หินแก้ว ทนายความ 4.นายมาโนช หินแก้ว อดีต ส.จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ 5.นายเจือ หินแก้ว อดีตกำนัน ต.บ่อนอก  ทั้งสามคนถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จ้างวาน    ผู้ต้องหาทั้งห้าคนถูกตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันจ้างวานฆ่าผู้อื่น

           สำหรับชาวบ้านเชื่อว่า สาเหตุที่ ‘เจริญ’ถูกสังหาร มาจากการที่เขาเป็นแกนนำคัดค้านการออกเอกสารสิทธิ์บริเวณที่ดินสาธารณะบริเวณทุ่งเลี้ยงสัตว์คลองชายธง และเรื่องการคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินบ่อนอก ซึ่งส่งผลให้ต้องล้มเลิกโครงการ ทำให้ผู้มีอิทธิพลสูญเสียผลประโยชน์ การเสียชีวิตของเขาก่อให้เกิดการตื่นตัวในเรื่องการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของประชาชนในท้องถิ่นต่อนโยบายการพัฒนาของรัฐในเวลาต่อมา

          สำหรับการดำเนินคดีกับจำเลยทั้งห้า ระหว่างที่คดีอยู่ในชั้นศาล  นายเสน่ห์ เหล็กล้วน และนายประจวบ หินแก้ว ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือปืนเกิดป่วยตายในเรือนจำก่อนที่จะได้ขึ้นเบิกความในศาล  และเมื่อทั้งสองคนเสียชีวิต ศาลจึงจำหน่ายคดีในส่วนที่เกี่ยวกับคนทั้งสองออกไป แต่คดีในส่วนของผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ว่าจ้างฆ่า อีก 3 คน คือ นายธนู หินแก้ว, นายมาโนช หินแก้ว และนายเจือ หินแก้ว ซึ่งเป็นพ่อของนายธนูและนายมาโนชนั้น ยังคงดำเนินต่อไป

         ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2551  ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาว่า นายธนู หินแก้ว จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานจ้างวานให้ฆ่าผู้อื่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) ให้ประหารชีวิต ส่วนนายมาโนช และนายเจือ จำเลยที่ 4-5 ยกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานนำสืบไม่ชัดเจนไม่มีน้ำหนักเพียงพอ

         ต่อมาศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2556 พิพากษากลับยกฟ้องนายธนู หินแก้ว จำเลยที่ 3 โดยศาลอุทธรณ์ให้เหตุผลว่า พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่เพียงพอให้เอาผิดจำเลยได้ นอกจากนี้ยังพิพากษายืนยกฟ้องนายมาโนช และนายเจือ จำเลยที่ 4-5 โดยระหว่างฎีกาจำเลยทั้งสามได้รับการปล่อยตัวจากการถูกควบคุม 

         และต่อมา 13 ต.ค. 2558 ศาลฎีกาพิพากษาว่า  ที่ นายเสน่ห์ และนายประจวบ จำเลยที่ 1 และ 2 ให้การซัดทอดในชั้นสอบสวนว่า นายธนู นายมาโนช และ นายเจือ จำเลยที่ 3 ถึง 5 จ้างวานฆ่านายเจริญ นั้น มีความขัดแย้งกันเองและเป็นเพียงพยานบอกเล่า และโจทก์ก็ไม่ได้นำสืบว่าจำเลยที่ 3 ถึง 5 ได้ประโยชน์อย่างไรจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้า จึงไม่มีพยานหลักฐานว่า นายธนู นายมาโนช และ นายเจือ จ้างวานฆ่านายเจริญ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืนยกฟ้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ