วันนี้ในอดีตเกิดเหตุการณ์‘ดอกเตอร์’ ยิง‘2 ดอกเตอร์‘ซึ่งเป็นคดีสะเทือนขวัญและนำมาซึ่งความสลดหดหู่ ขณะเดียวกันสื่อมวลชนก็ได้บทเรียนราคาแพงจากการนำเสนอข่าว
วันนี้ในอดีตย้อนไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว.. วันที่ 18 พ.ค. 2559 ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญ ในขณะเดียวกันก็เป็นความสลดหดหู่ใจไปพร้อมๆกัน และเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เมื่อเกิดคดี ’ดอกเตอร์’คนหนึ่ง ยิง’ 2 ดอกเตอร์’ เสียชีวิต
โดย ช่วงเวลาประมาณ 9 นาฬิกาของวันที่ 18 พฤษภาคม 2559 เกิดเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดภายในห้องประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครบางเขน และพบว่า ผู้เสียชีวิต คือ ดร.พิชัย ไชยสงคราม อายุ 56 ปี และ ดร.ณัฐพล ชุมวรฐายี อายุ 54 ปี ส่วนมือปืน คือ ดร.วันชัย ดนัยตโมนุท อายุ 60 ปี
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพื้นที่พบปลอกกระสุนกว่า 10 นัดตกอยู่ในที่เกิดเหตุพร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบภาพของ ดร.วันชัย มือปืน หลังก่อเหตุสังหารได้ขับรถหลบหนีไป ส่วนสาเหตุ เชื่อว่าน่าจะเกิดจากความเครียดสะสมทั้งเรื่องงาน และเพื่อนร่วมงาน
ต่อมาในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ศาลอาญา รัชดาฯ ได้ออกหมายจับ ดร.วันชัย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, มีและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและเกือบทั้งวันเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุม ดร.วันชัย อย่างต่อเนื่อง แต่ไร้เงา
ล่วงมาจนถึงวันรุ่งขึ้น วันที่ 19 พ.ค. เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดคอมมานโด ของกองบังคับการปราบปราม ได้แกะรอย จนทราบว่า ดร.วันชัยหนี มาซ่อนตัวอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านสะพานควาย จึงนำกำลังปิดล้อม แต่เมื่อตำรวจแสดงตัวจะเข้าจับกุม ดร.วันชัย กลับใช้ปืนขึ้นมาจ่อที่ศีรษะ พร้อมขู่จะฆ่าตัวตาย ทำให้ตำรวจต้องวางมาตรการอย่างรัดกุม
ตลอดระยะเวลาเกือบ 7 ชั่วโมง ของการเจรจา มีทั้ง ตำรวจ รวมทั้งญาติ และเพื่อนอาจารย์ที่คอยผลัดเปลี่ยนกันเจรจาและเกลี้ยกล่อมอยู่ไม่ห่าง ซึ่งทำให้เจ้าตัวมีท่าทีที่คลายกังวลลง และเตรียมวางอาวุธปืนอยู่หลายครั้ง สลับกับการขึ้นนั่งบนรถและลงจากรถ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาค่อยๆ เกลี้ยกล่อม พร้อมกับการปรบมือให้กำลังใจ แต่สุดท้ายไม่เป็นผล เวลา 18 นาฬิกา 43 นาที ขณะที่ญาติและคนสนิทของ ดร.วันชัย กำลังเจรจา เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ ดร.วันชัย ตัดสินใจใช้ปืนยิงตัวเอง
หลังเกิดเหตุหน่วยแพทย์กู้ชีพ และหน่วยกู้ภัย เข้าช่วยเหลือด้วยการนำร่างของ ดร.วันชัย ส่งโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล พหลโยธิน ทันที
ต่อมาเวลา 21.00 น. ทางโรงพยาบาลเปาโลเมมโมเรียล สะพานควาย ได้เปิดเผยว่า ดร.วันชัย ได้เสียชีวิตแล้ว โดยเสียชีวิตก่อนที่จะมาถึงโรงพยาบาลเนื่องจากกระสุนทำลายสมอง
จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ตามมาถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวชนโดยเฉพาะกรณีสถานีโทรทัศน์หลายช่องถ่ายทอดสดเหตุการณ์ตำรวจเจรจาให้ ดร.วันชัย มอบตัวแต่ไม่เป็นผล โดยสื่อถูกตั้งคำถามว่า รายงานข่าวอย่างล้ำเส้นความเหมาะสมและจริยธรรมหรือไม่ โดยมุ่งแต่การแข่งขันรายงานข่าวแต่เพียงอย่างเดียว
และ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์หรือ กสท. ได้มีการประชุมด่วน โดยกำหนดให้ทุกสถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศรายการสดระมัดระวังการนำเสนอ รวมถึงระงับการถ่ายทอดภาพความรุนแรง เนื่องจากกรณีดังกล่าวเข้าข่ายขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ รวมทั้งเรื่องของจรรยาบรรณด้วย
ขณะที่ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ทราบว่า ดร.วันชัย เปิดวิทยุในรถฟังตลอดเวลา เป็นความผิดพลาดอย่างมากที่ทำให้คนที่กำลังจะตัดสินใจบางอย่างรู้บทบาทตัวเอง ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจ
ส่วนทางด้านญาติของ ดร.วันชัย ซึ่งเดินทางมารับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา ได้แสดงความไม่พอใจสื่อมวชนอย่างมาก โดยหญิงสาวที่เป็นญาติคนหนึ่งดึงสมุดจดข่าวของผู้สื่อข่าวรายหนึ่งที่พยายามจะขอทราบชื่อและนามสกุลของญาติ พร้อมทั้งกล่าวว่า “ไม่โอเคตั้งแต่คุณถ่ายทอดสด”
ขณะที่ โฆษกรัฐบาล บอกว่า หลายฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่า การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในครั้งนี้ ควรต้องมีการปรับปรุง หาความสมดุลเหมาะสม ระหว่างการทำหน้าที่สื่อกับการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าข่ายรุนแรง สร้างผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนในสังคม สร้างแรงกดดันให้แก่ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์หรือไม่ รวมทั้งเคารพต่อความเป็นมนุษย์ของผู้ร่วมในเหตุการณ์เพียงพอหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง