พม่า ดันสุดตัว บรรจุขี่ม้ามาราธอนชิงทองซีเกมส์ ครั้งที่ 27 หลังมีลุ้นเหรียญ ล่าสุดชาติสมาชิกขานรับเกินครึ่งหนึ่ง แค่ขอดูรายละเอียดขั้นตอน ในการผลักดันอีกที "เสี่ยปั้น" พฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อุปนายกสมาคมขี่ม้าไทย มั่นใจไม่น่ามีปัญหา เพราะเวลานี้
นายพฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อุปนายกสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของประเทศไทยในการรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันขี่ม้ามาราธอน รายการ "มาเลเซีย-ไทยแลนด์ โอเพ่น เอ็นดูรานซ์ ชาลเลนจ์ โทรฟี่" เมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งประเภทบุคคล และประเภททีม (3-4 คน) ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท โดยการรับรองของสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ หรือ เอฟอีไอ ล่าสุดปีนี้ไทยจะรับเป็นเจ้าภาพรายการดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 25-27 มีนาคมนี้ ระยะทาง 80 กม. ที่สนามไทยโปโล คลับ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยจะมีม้าฝีเท้าดีจาก มาเลเซีย และสิงคโปร์ เข้าร่วมเกือบ 20 ม้า รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก เพื่อเป็นการโปรโมทและเผยแพร่กีฬาชนิดนี้ให้เป็นที่นิยมแพร่หลายมากยิ่งขึ้น แถมยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศไทยไปในตัวด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นักขี่ม้าจากประเทศพม่าแจ้งความประสงค์อยากเดินทางมาร่วมการแข่งขันด้วย แต่ติดขัดปัญหาเรื่องการขอม้าจากไทยที่มีจำนวนจำกัด จึงขอเลื่อนไปเป็นปีหน้าแทน ล่าสุดกลุ่มชาติสมาชิกเอฟอีไอจากอาเซียน ประกอบด้วย ไทย, อินโดนีเซีย, พม่า, บรูไน, สิงคโปร์ และมาเลเซีย ได้รวมตัวกันที่จะให้การแข่งขันขี่ม้ามาราธอนบรรจุชิงชัยเหรียญทองในกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า เป็นเจ้าภาพ เพราะในระดับเอเชี่ยนเกมส์ก็บรรจุมาแล้ว ที่สำคัญนักขี่ม้ามาราธอนในอาเซียนมีความสามารถมากมาย หากได้รับการพัฒนาที่ดีอย่างต่อเนื่องน่าจะเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่คนเอเชียไม่แพ้ชาติยุโรป
อุปนายกสมาคมขี่ม้าไทยยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวได้พูดคุยกับนายกสมาคมขี่ม้าของประเทศพม่าเรียบร้อยแล้วว่า จะพยายามทุกวิถีทางให้บรรจุกีฬาชนิดนี้ให้ได้ เพราะตอนนี้ชาติที่ให้การสนับสนุนเกินครึ่งหนึ่งแล้ว ที่สำคัญนักขี่ม้าจากประเทศพม่าก็มีศักยภาพความพร้อมในการคว้าเหรียญรางวัลรายการนี้ด้วย ส่วนขั้นตอนรายละเอียดต่างๆ ต้องรอสรุปอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทั้งที่จริงก่อนหน้านี้ได้หวังว่า ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย น่าจะบรรจุเข้าไป แต่เป็นเพราะเจ้าภาพมองว่า นักกีฬาของตนเองไม่มีความหวังจึงตัดออก และเป็นเรื่องสิ้นเปลืองงบประมาณ เนื่องจากซีเกมส์หนนี้จัดชิงเหรียญทองเกือบ 600 เหรียญ
"ส่วนตัวเท่าที่เห็นการพัฒนาของนักกีฬาแต่ละชาติเวลานี้มีทิศทางที่ดี หากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังนักขี่ม้ามาราธอนเรามีโอกาสคว้าเหรียญทองได้ เพราะในการแข่งขันขี่ม้ามาราธอน รายการมาเลเซีย-ไทยแลนด์ โอเพ่น เอ็นดูรานซ์ ชาลเลนจ์ โทรฟี่ ครั้งที่ 1 ที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองจาก "น้องผึ้ง" วิภาวรรณ พาวิทยลาภ ในประเภทบุคคล ส่วนเหรียญเงินก็ยังได้จากดาวรุ่งไฟแรง วริศ คุณธารธรณ์ เช่นเดียวกัน ซึ่งในปีนี้สมาคมก็ยังหวังว่าทั้งคู่จะเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยต่อไป"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง