เปิดเงื่อนไขลงชิงตำแหน่ง 'นายกสมาคมฟุตบอล' พร้อมเช็กสิทธิ์ออกเสียง

หลังจาก "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะหมดวาระสมัยที่ 2 และแสดงความประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งภายในวันที่ 8 ก.พ.67 เวลา 12.30 น. ซึ่งจะทำให้สภากรรมการทั้งหมดพ้นจากตำแหน่งไปด้วยนั้น สภากรรมการ จึงได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 66 กำหนดให้มีการเลือกตั้งสภากรรมการชุดใหม่ภายในวันที่ 8 ก.พ. 67 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ณ ชั้น 2 ของที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

 

 

โดยล่าสุด ได้มีประกาศทางเพจ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย หรือ FA Thailand เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจสมัครหรือเสนอชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งให้สามารถดำเนินการได้ ดังนี้ จัดส่งด้วยตนเอง ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ หรือส่งมายังอีเมล [email protected] ตั้งแต่วันนี้ (24 พ.ย.) ถึงวันที่ 9 ธ.ค. เวลา 09.00-17.00 น. สามารถดาวน์โหลดเอกสารเกี่ยวกับการสมัครรับเลือกตั้งได้จากเว็บไซต์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ www.fathailand.org

ทั้งนี้ระเบียบข้อบังคับปกครองของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พ.ศ.2558 แก้ไขเพิ่มเติม (ครั้งที่ 7) พ.ศ.2565 ข้อ 37.1.ระบุว่า สภากรรมการ มีองค์ประกอบ ดังนี้ นายกสมาคม 1 คน , อุปนายกสมาคม 5 คน และกรรมการกลาง 13 คน รวมทั้งสิ้น 19 คน มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

1. ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ ในวันเลือกตั้ง

2. ต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ในกีฬาฟุตบอลอย่างแท้จริง

3. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

4. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

5. ไม่เคยได้รับโทษคดีอาญา โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเว้นแค่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

6. ไม่เคยถูกนายทะเบียนสั่งให้พ้นตำแหน่งกรรมการสมาคม ตามมาตรา 86 (4) แห่ง พรบ.การกีฬาแห่งประเทศไทย เว้นแต่จะพ้นกำหนด 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง

7. ต้องไม่เคยกระทำการอันใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่สมาคม

8. ต้องไม่เคยกระทำการหรืองดเว้นการทำการในการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้เสื่อมเสียประโยชน์ของสมาคม

9. ต้องไม่เคยกระทำการทุจริตต่อสมาคม

10. ต้องไม่เคยถูกสมาคมฟ้องร้อง ไม่ว่าฐานความผิดใดและไม่ว่าศาลจะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วหรือไม่ก็ตาม

11. ต้องไม่เคยถูกลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการกีฬาฟุตบอลจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหรือสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน

ทั้งนี้ ในใบสมัครมีการเพิ่มขึ้นมา 2 ข้อ คือ เป็นบุคคลที่สมาชิกของสมาคมเสมอชื่อให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง กับ เป็นบุคคลทั่วไปหรือตัวแทนของสมาชิกสมาคม (รวม 13 ข้อ)

สำหรับผู้ที่มีสิทธิลงคะแนน หรือ voter ประกอบไปด้วย 

1. สโมสรไทยลีก รวม 16 เสียง

2. สโมสรไทยลีก 2 รวม 18 เสียง

3. สโมสรไทยลีก 3 ที่ได้อันดับ 1-5 ในแต่ละโซน รวม 30 เสียง

4. แชมป์ลีกสมัครเล่น 1 เสียง

5. อันดับ 1-2 ฟุตซอลลีกชาย รวม 2 เสียง

6. อันดับ 1-2 ฟุตบอลลีกหญิง รวม 2 เสียง

7. แชมป์ฟุตซอลลีกหญิง รวม 1 เสียง

8. แชมป์ฟุตบอลชายหาด รวม 1 เสียง

9. สมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ที่สมาคมและสหพันธ์สมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพรับรอง 1 เสียง

(ข้อ 3-8 นับผลงานฤดูกาลที่จบไปล่าสุด) รวม 72 เสียง 

ทั้งนี้การประชุมใหญ่ ต้องมีโหวตเตอร์ มากกว่ากึ่งหนึ่ง จึงเป็นองค์ประชุม

 

การเลือกตั้ง

ลงคะแนนด้วยวิธีลับ ประธานกกต.ลูกหนัง จะขานชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง ทีละคน ให้ไปรับบัตรเลือกตั้ง จากนั้นผู้ถูกขานชื่อ จะลงรายมือชื่อ เพื่อรับบัตรเลือกตั้ง เดินเข้าสู่คูหาลงคะแนน ที่ต้องจัดไว้มิดชิด บุคคลอื่นมองเห็นไม่ได้ และห้ามนำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด กล้องถ่ายรูปเข้าไป ลงคะแนนด้วยการกากบาท แล้วนำบัตรเลือกตั้งไปหย่อนลงในหีบบัตรเลือกตั้ง

 

การนับคะแนน จะเริ่มหลังจาก โหวตเตอร์หย่อนบัตรครบถ้วน

 

การนับคะแนน

การนับคะแนนให้กระทำโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง อย่างเปิดเผยต่อหน้าผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน การเลือกตั้งนายกสมาคม และ อุปนายก จะต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนโหวตเตอร์(ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง) ซึ่งอยู่ในที่ประชุม

หากการเลือกตั้ง มีผู้สมัครมากกว่า 2 คน และไม่มีใครได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ให้ดำเนินการลงคะแนนต่อไป โดยผู้ที่ได้คะแนนน้อยสุด จะถูกตัดออก จนเหลือผู้สมัคร 2 คน แล้วใช้วิธีลงคะแนน จนกว่าจะมีผู้ได้เกินกึ่งหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม แคนดิเดตลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่มีการเปิดเผยพร้อมลงสมัครแน่นอน ได้แก่ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ CEO บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานสโมสร สิงห์เจ้าท่า การท่าเรือ เอฟซี และผู้จัดการทีม ฟุตบอลชาย ชุดใหญ่ และ พอลลีน พาลินี (พินิจ) งามพริ้ง อดีตประธานชมรมเชียร์ไทย และ วรงค์ ทิวทัศน์ อดีตเลขานุการบริษัท ไทยลีก จำกัด ที่พร้อมลงชิงตำแหน่งประมุขลูกหนังไทยด้วยเช่นกัน 

 

ขณะเดียวกัน บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ ที่ยังมีโอกาสลงต่ออีกสมัยหนึ่ง คงต้องรอลุ้นว่า พล.ต.อ.สมยศ จะลงชิงตำแหน่งนี้อีกหรือไม่