กอล์ฟดีพีเวิลด์ทัวร์ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" เงินรางวัลรวม 66 ล้านบาท เปิดฉากประชันวงสวิง 16-19 ก.พ. สุดคึก ก้านเหล็กไทย "โปรอาร์ม" กิรเดช อภิบาลรัตน์ อดีตแชมป์ดีพีเวิลด์ทัวร์, "โปรช้าง" ธงชัย ใจดี นำทัพนักกอล์ฟไทยลงหวด ฟากโปรต่างชาตินำโดย โธมัส บียอร์น จากเดนมาร์ก
กอล์ฟดีพีเวิลด์ทัวร์ (ยูโรเปี้ยนทัวร์ เดิม) รายการ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 66 ล้านบาท จะจัดขึ้นที่สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี ระหว่าง 16-19 กุมภาพันธ์ ถือเป็นการกลับมาจัดการแข่งขันในประเทศไทยของ"ดีพีเวิลด์ทัวร์" หลังจากจัดไปครั้งล่าสุดปี 2016 (พ.ศ.2559) การจัดการแข่งขัน "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" ครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้การสนับสนุนจาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, ดีพี เวิลด์, อมตะสปริง คันทรีคลับ, บีเอ็มดับเบิลยู และสายการบินเอมิเรตส์
กอล์ฟ"ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" ในส่วนของนักกอล์ฟไทยซึ่งจะลงแข่งขันนำโดย "โปรอาร์ม" กิรเดช อภิบาลรัตน์ อดีตแชมป์ดีพีเวิลด์ทัวร์ 5 รายการ, "โปรช้าง" ธงชัย ใจดี ซึ่งได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในดีพีเวิลด์ ทัวร์ เมื่อปี 2004 (พ.ศ.2547) ก่อนที่จะเป็นแชมป์ของดีพีเวิลด์ทัวร์ถึง 8 รายการ นอกจากนั้นปีที่ผ่านมาธงชัย ใจดี ยังเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่ได้แชมป์ในพีจีเอทัวร์แชมเปี้ยนส์ อีกด้วย ทั้งนี้ ในการแข่งขัน "ไทยแลนด์ คลาสสิก" ครั้งล่าสุดที่ประเทศไทยเมื่อปี 2016 (พ.ศ.2559) ทั้ง กิรเดชและธงชัย ต่างเข้าร่วมการแข่งขันด้วย
การแข่งขันกอล์ฟ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" ก้านเหล็กไทยจะดวลกับโปรกอล์ฟระดับชั้นนำของยุโรป คือ โธมัส บียอร์น จากเดนมาร์ก ดีกรีแชมป์ไรเดอร์คัพ ซึ่งเป็นโปรจากสแกนดิเนเวียคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่เคยได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่กัปตันทีมยุโรปคว้าแชมป์ไรเดอร์คัพ 2018 , โปรคู่แฝด นิโคไล และ ราสมุส ฮอยการ์ด จากเดนมาร์ก ที่ต้องการสร้างผลงานเพื่อติดทีมไรเดอร์คัพ ,โรเบิร์ต แมคอินไทร์ โปรสกอตติช ซึ่งคว้าแชมป์ ดีพีเวิลด์ ทัวร์ 2 รายการ และ ราฟา คาเบร์รา เบลโญ โปรชาวสเปน แชมป์ ดีพีเวิลด์ ทัวร์ 4 รายการ ที่ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขัน
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า
กอล์ฟ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" คือ การจัดอีเวนท์ที่เป็นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็จะสร้างความมั่นใจให้กับประเทศไทย ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ หลังผ่านวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 มาแล้ว ซึ่งขณะนี้กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งเรื่องของการท่องเที่ยวและกีฬาจะผนึกกำลังร่วมกัน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งได้ให้การสนับสนุนอีเวนท์ระดับโลกในประเทศไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเล่นกีฬา การพัฒนาการเล่นกีฬากอล์ฟไปสู่ระดับอาชีพ และเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาที่ประเทศไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
"ประเทศไทยถือว่าเป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟ เนื่องจากมีสนามกอล์ฟที่สวยงาม มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับโลก กระจายอยู่ทั่วประเทศไทยมากกว่า 315 สนาม จัดเป็นอันดับ 4 ของภูมิภาคเอเชีย มีอากาศที่ดีเหมาะกับการฝึกซ้อมกอล์ฟได้ตลอดทั้งปี และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับกลุ่มนักกอล์ฟและครอบครัวรวมถึงผู้ติดตาม ทั้งสนามบินนานาชาติ โรงแรมที่ได้มาตรฐานในระดับนานาชาติ ความหลากหลายด้านอาหาร กิจกรรมนันทนาการ ประเพณี วัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งการแข่งขันกอล์ฟ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" คือการประกาศความพร้อมที่จะทำให้ประเทศไทย เป็นจุดมุ่งหมายหลักด้านกีฬากอล์ฟของภูมิภาคเอเชีย (GOLF TOURISM HUB OF ASIA) ที่สำคัญการแข่งขันกอล์ฟรายการนี้จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง ยูโรเปี้ยนทัวร์ เน็ตเวิร์ค ไปยัง 167 ประเทศทั่วโลก" พิพัฒน์ ระบุ
สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะใช้ในการแข่งขันกอล์ฟดีพีเวิลด์ทัวร์ (ยูโรเปี้ยนทัวร์ เดิม) รายการ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 67 ล้านบาท ระหว่าง 16-19 กุมภาพันธ์
กิรเดช อภิบาลรัตน์ ( โปรอาร์ม) อดีตแชมป์ดีพีเวิลด์ทัวร์ 5 รายการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง