ดึงสนามชิงตั๋วมาตบที่ไทย
ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 สิงหาคม โดยมีนายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ หลังจากที่ ทีมตบลูกยางสาวไทย เสร็จศึกวอลเลย์บอลหญิง โอลิมปิกเกมส์ 2020 รอบคัดเลือก โซนรวมทวีป ด้วยผลงาน แพ้เซอร์เบีย 0-3 เซต, แพ้โปแลนด์ 2-3 เซต และชนะเปอร์โตริโก 3-1 เซต ยังไม่ได้ตั๋วไป “โตเกียวเกมส์”
นายสมพร กล่าวว่า ผลงานของทีมตบลูกยางสาวไทย ถือว่าพอใจ และทำได้ดีกว่าที่คาดหวังเอาไว้ สามารถเก็บแต้มจากการเจอกับโปแลนด์ แม้จะแพ้อย่างหวุดหวิด แต่ก็สร้างความประทับใจ โดยเฉพาะกองเชียร์เจ้าภาพได้เห็นในความตั้งใจ จนเกมสุดท้ายจะเห็นว่ามีชาวโปแลนด์เข้ามาเชียร์ทีมชาติไทยด้วย หลังจากนี้คงจะปล่อยนักกีฬาให้ไปพักก่อน แต่คงไม่นานเพราะมีโปรแกรมชิงแชมป์เอเชียรออยู่ นอกจากนี้ปลายปีจะมีซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ด้วย
สำหรับรายการสำคัญที่สุดคือการคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ รอบคัดทวีป โซนเอเชีย โดยสมาคมฯ กำลังรอรายละเอียดจากสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (เอฟไอวีบี) และสมาพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย (เอวีซี) ในการกำหนดหลักเกณฑ์การเป็นเจ้าภาพ คิดว่าน่าจะมีการคุยกันหลังจากคัดโอลิมปิกเกมส์ ของทีมชาย โซนรวมทวีปจบลง ซึ่งสมาคมจะได้วางแผนในการดึงการแข่งขันมาตบที่ไทย แม้จะต้องใช้งบประมาณ พอสมควร แต่สมาคมฯ มีความพร้อม เบื้องต้นมีติดต่อกับผู้สนับสนุนบางรายไว้แล้ว
“นักกีฬารุ่นเก๋าของเรา ต้องพลาดจากฝันในการไปโอลิมปิกเกมส์หลายครั้ง มันเป็นเหมือนกับสิ่งที่ติดอยู่ในใจทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา, ผู้ฝึกสอน, สมาคม หรือคนไทยทุกคนอยากเห็นทีมวอลเลย์บอลหญิงของไทยได้ไปโอลิมปิกเกมส์ เพราะถือเป็นรายการระดับโลกรายการเดียวที่ไทยเรายังไม่ได้ไป” นายกฯ สมพรกล่าว
นายสมพร กล่าวต่อไปอีกว่า เกาหลีใต้ที่พลาดจากโควต้า โซนรวมทวีป เช่นเดียวกับไทย ยังไม่รู้ว่าจะเสนอตัวเข้ามาร่วมชิงเป็นเจ้าภาพด้วยหรือไม่ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ได้เป็นเจ้าภาพชิงแชมป์เอเชีย ก็เคยมีสัญญาใจกันเอาไว้ อย่างไรก็ตามจะพยายามทำทุกทางให้ไทยเป็นเจ้าภาพคัดโอลิมปิกเกมส์ให้ได้
ทั้งนี้ รายการต่อไปของทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย จะลงแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ที่เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 18-25 สิงหาคม ซึ่งจะต้องติดอันดับ 1-8 เพื่อได้สิทธิ์เข้าแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เพื่อชิงตั๋วเพียงใบเดียว ในเดือนมกราคม ปี 2563 ต่อไป ซึ่งในโซนเอเชีย ทีมจีน และ ญี่ปุ่น ได้โควต้าไปแล้ว ดังนั้นจะเหลือคู่แข่งสำคัญของทีมไทย ได้แก่ “โสมขาว” เกาหลีใต้ และ คาซักสถาน ที่จะต้องแย่งโควต้าใบสุดท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง