ไทยยึดผู้นำเจ็ตสกีโลก

นายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเมนท์เจ็ตสกีเวิลด์คัพฯ และเจ็ตสกี เวิลด์ซีรี่ส์ บริษัท เอเชี่ยน มัลติสปอร์ต แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ในฐานะผู้พัฒนาทัวร์นาเมนท์เจ็ตสกีโลก ที่มีเป้าหมายคือ  ทำให้ทัวร์นาเมนท์กีฬาเจ็ตสกีไทยมีความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน ไม่อ่อนแอ และถูกนักกีฬาโลกมองข้าม หรือมองไม่เห็นคุณค่เหมือน 10 ปีที่แล้ว ต้องจ่ายเงินจ้างนักกีฬามาแข่งขันแบบไม่จริงจัง ทำให้สื่อกีฬาระดับโลกไม่ยอมรับ

ทั้งนี้ ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน การจะพัฒนางานให้เป็นเกมระดับโลกมี 2 ทางเลือก ได้แก่ ซื้อลิขสิทธิ์ชาวต่างชาติมาจัดแข่ง ซึ่งง่ายกว่า เปรียบเหมือนการซื้อเฟรนไชนส์ แต่ข้อเสียคือ เหมือนไทยถูกต่างชาติล่าอาณานิคมกีฬา เมื่อหยุดซื้อก็หมดสิทธิ์ ทัวร์นาเมนท์กีฬาไทยก็กลับมาอ่อนแอเหมือนเดิม จึงทำให้เราเลือกที่จะต่อสู้ด้วยการสร้างให้ทัวร์นาเมนท์เจ็ตสกีไทยเป็นหนึ่งของโลกเช่นทุกวันนี้

สำหรับ 2 ทัวร์นาเมนท์ ที่เป็นกลยุทธ์สำคัญ คือ  เจ็ตสกี เวิลด์คัพ และ เจ็ตสกี เวิลด์ ซีรี่ส์ ขณะนี้ สมาคมเจ็ตสกีโลก  สหรัฐอเมริกา และสมาคมเจ็ตสกีแห่งทวีปยุโรป ก็เข้ามาอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์กีฬาไทยแล้ว จึงเตรียมเดินหน้าแผนงานปี 2020-2022 (2563-2565) เชื่อมต่อเป้าหมาย 4 ด้าน ได้แก่ ไทยเป็นหนึ่ง–สื่อประชาสัมพันธ์โลก–นำเข้านักท่องเที่ยว-ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกีฬา ซึ่งมั่นใจว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับชาติไทยอย่างมาก

เมื่อเป็นเจ้าของสิทธ์ทัวร์นาเมนท์โลก วงการกีฬาเจ็ตสกีไทยจะแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน มีชื่อเสียงในฐานะชาติผู้นำในการบริหารงานกีฬาเจ็ตสกีของโลก สามารถปกป้องสิทธิ์ให้นักกีฬาไทยได้ทุกกรณี นอกจากนั้น เรามีเป้าหมายที่จะประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ในสื่อโลกที่ให้การยอมรับทัวร์นาเม้นท์ฯ ขยับจากประมาณ 500 ล้านคน เป็น 1,000 ล้านคน ( 1 ใน 7 ของประชากรโลก) ภายใน 3 ปี พร้อมการจัดทัวร์นาเม้นท์โรดโชว์ เพื่อนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติมาที่ทัวร์นาเมนท์ใหญ่สุดคือ เวิลด์คัพ เมืองไทย ขั้นต่ำ 5,000 คนต่อปี 

นอกจากนี้ ไทยมีการผลิตอุปกรณ์เจ็ตสกีส่งออกแล้ว ซึ่งจะนำไปสู่เป้าหมายที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกีฬาเต็มระบบ โดยนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ การกีฬาแห่งประเทศไทยและรัฐบาล ก็กำลังให้ความสำคัญกับนโยบายในทิศทางเดียวกันนี้เช่นกัน