ข่าว

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และดิวอค โอริกี ทำคนละ 1 ประตูช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สเปอร์ส ไปได้ 2-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นสมัยที่ 6 ของสโมสร

    การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2018-19 นัดชิงชนะเลิศ วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่สนามว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน กรุงมาดริด ประเทศสเปน ทอตแนม ฮอทสเปอร์ ที่ยังไม่เคยคว้าแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่ได้เลย ทำศึกสายเลือดกับ ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป 5 สมัย

    การจัดทีม "ไก่เดือยทอง" ของผู้จัดการทีม เมาริซิโอ โปเชตติโน มาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบไปด้วย อูโก ยอริส - คีแรน ทริปเปียร์, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ทองเกน, แดนนี่ โรส - มุสซา ซิสโซโก, แฮร์รี วิงส์ - คริสเตียน อิริคเซน, เดเล อัลลี, ซน เฮือง มิน และแฮร์รี เคน ที่ฟิตลงสนามในเกมนี้

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

     ด้าน "หงส์แดง" ของเทรนเนอร์ เจอร์เกน คลอปป์ มาในระบบ 4-3-3  ประกอบไปด้วย อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม - โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และโรแบร์โต ฟีร์มีโน

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

 

     ก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้นมีการแสดงพิเศษของ วง อิมเมจิน ดรากอนส์ วงดนตรีชื่อดังจากสหรัฐ

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6
 
    โดยเกมเริ่มมาไม่ถึง 1 นาที ลิเวอร์พูล มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ มาเน เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และไปโดนมือของซิสโซโก ซึ่งผู้ตัดสิน ดาเมียร์ สโคมินา ตัดสินใจให้จุดโทษทันที และเป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ทีมออกนำอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 2 ของเกมเท่านั้น

    หลังจากนั้นเป็น สเปอร์ส ที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ยังหาจังหวะเข้าทำไม่ได้แบบถนัด ขณะที่ "หงส์แดง" ใช้บอลสวน และมีโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่า แต่ยังทำอะไรเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

 

    เข้าสู่ครึ่งหลังยังเป็น สเปอร์ส ที่เทเกมบุกอย่างหนัก โดยหวังประตูตีเสมอ แต่ เบคเกอร์ ยังโชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟได้หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะโอกาสของ อิริคเซน ที่ปั่นฟรีคิกจากบริเวณกรอบเขตโทษด้ายซ้าย แต่นายด่านทีมชาติบราซิลปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด

   และในนาทีที่ 87 โจเอล มาติป จับบอลได้ในกรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายออกทางซ้ายให้ โอริกี กดบอลด้วยซ้ายเสียบเสาผ่านมือ ยอริส เข้าไปอย่างสวยงามให้ ลิเวอร์พูล ออกนำไป 2-0

  มาถึงช่วงต่อเวลา 5 นาที ไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันเพิ่มได้ ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะไปได้ 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6 ของสโมสรต่อจากปี 1976–77, 1977–78, 1980–81, 1983–84, 2004–05 ขณะที่ สเปอร์ส ยังต้องอกหักด้วยการยังไม่สามารถคว้าแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่ได้ต่อไป

   ขณะที่ คลอปป์ สามารถล้างอาถรรพ์ของตัวเองด้วยการพาทีมคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกในการพาทีมเข้าชิงฯ 7 ครั้งหลังสุด หรือนับตั้งแต่

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

"ลิเวอร์พูล"อัด"สเปอร์ส" 2-0 คว้าแชมป์ยูซีแอลสมัยที่ 6

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ