ข่าว

"หงส์แดง"ดวลเดือด"ไก่เดือยทอง"ศึกยูซีแอลนัดชิงฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ลิเวอร์พูล วาง 3 ประสานเกมรุก ทั้ง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และโรแบร์โต ฟีร์มีโน ดวล สเปอร์ส ที่ได้ แฮร์รี เคน จับคู่ ซน เฮือง มิน ศึกยูซีแอล นัดชิงฯ

     การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2018-19 วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่สนามว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน กรุงมาดริด ประเทศสเปน ทอตแนม ฮอทสเปอร์ ที่ยังไม่เคยคว้าแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่ได้เลย ทำศึกสายเลือดกับ ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป 5 สมัย ในเวลา 02.00 น.

"หงส์แดง"ดวลเดือด"ไก่เดือยทอง"ศึกยูซีแอลนัดชิงฯ  

    ความพร้อมเกมนี้เริ่มที่ "ไก่เดือยทอง" ของผู้จัดการทีม เมาริซิโอ โปเชตติโน หวังจะพาทีมคว้าโทรฟีแรกของตนเอง รวมถึงเป็นการซิว "บิ๊กเอียร์" เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

    เกมนี้มีข่าวดีเมื่อ แฮร์รี เคน หัวหอกตัวเก่งสามารถฝึกซ้อม ได้อย่างเต็มรูปแบบ และพร้อมจะกลับเป็นตัวเลือกของทีมแล้ว ทว่าต้องมาดูอีกครั้งว่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงหรือไม่ เช่นเดียวกับ แยน แฟร์ทองเกน, ดาวินซอน ซานเชซ และแฮร์รี่ วิงค์ส ที่พร้อมกลับมาช่วยทีมเช่นกัน
 
    โดย สเปอร์ส มาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบไปด้วย อูโก ยอริส - คีแรน ทริปเปียร์, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ทองเกน, แดนนี่ โรส - มุสซา ซิสโซโก, วิคเตอร์ วานยามา - คริสเตียน เอริคเซน, เดเล อัลลี, ซน ฮึง-มิน และลูคัส มูรา

"หงส์แดง"ดวลเดือด"ไก่เดือยทอง"ศึกยูซีแอลนัดชิงฯ

    ด้าน "หงส์แดง" ของเทรนเนอร์ เจอร์เกน คลอปป์ พาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งปีนี้พวกเขาหวังจะคว้าแชมป์มาครองให้ได้ หลังฤดูกาลที่แล้วพ่าย เรอัล มาดริด 1-3 โดยก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้นเฮดโค้ชชาวเยอรมนีได้พาลูกทีมไปเก็บตัวที่มาเบลญา ประเทศสเปน เพื่อให้ชินกับสภาพอากาศ

    ส่วนการจัดทีมพวกเขาจะไม่มีมแค่ นาบี เกอิตา กองกลางร่างเล็กที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ และฟิตไม่ทันในเกมนี้ส่วนแข้งหลักรายอื่นๆ พร้อมลงสนามช่วยทีมทั้งหมด โดยเฉพาะ โรแบร์โต ฟีร์มีโน กองหน้าคนสำคัญที่หายกลับมาทันในนัดนี้พอดี

     ลิเวอร์พูล จะมาในระบบ 4-3-3  ประกอบไปด้วย อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม - โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และโรแบร์โต ฟีร์มีโน
 

สถิติที่น่าสนใจ

   การพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีมในทุกรายการ เป็น ลิเวอร์พูล ชนะ 3 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 1 นัด แล ลิเวอร์พูล ทำสถิติเอาชนะ สเปอร์ส ได้ในการพบกันทั้ง 2 นัดในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ด้วยสกอร์ 2-1 

    ลิเวอร์พูล ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปมาแล้ว 8 ครั้ง นับว่าเป็นสโมสรจากอังกฤษ ที่มีโอกาสดังกล่าวมากที่สุด ซึ่ง "หงส์แดง" สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ทั้งหมด 5 ครั้ง ก่อนอกหักในนัดชิงฯ 2 ครั้งหลังสุด (2007 และ 2018)

    ​สเปอร์ส ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์ของพวกเขา โดยสถิติบ่งชี้ว่าทีมที่สามารถเข้าชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในนัดชิงฯยูซีแอล 5 ครั้งหลังสุดตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ (เชลซี 2008, อาร์เซนอล 2006, โมนาโก 2004, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2002 และ บาเลนเซีย 2000)

"หงส์แดง"ดวลเดือด"ไก่เดือยทอง"ศึกยูซีแอลนัดชิงฯ

    นี่เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นการพบกันระหว่างสองทีมจากอังกฤษ โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2008 ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบียดเอาชนะ เชลซี ได้จากการดวลจุดโทษ

    ครั้งล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล ดวลกับ สเปอร์ส ในนัดชิงชนะเลิศถ้วยใหญ่เกิดขึ้นในศึกลีกคัพ เมื่อปี 1982 และเป็น "หงส์แดง" ที่เอาชนะไปได้ 3-1 ในช่วงการต่อเวลาพิเศษ

    คลอปป์ มีสถิติการคุมทีมในรอบชิงชนะเลิศไม่ดีนัก หลังพาทีมเข้าชิงได้ 7 ครั้งตลอดอาชีพการเป็นผู้จัดการทีม แต่ได้แชมป์เพียงครั้งเดียว คือ พ.ค. 2012 ที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค 5-2 ในศึกเดเอฟเบ โพคาล

"หงส์แดง"ดวลเดือด"ไก่เดือยทอง"ศึกยูซีแอลนัดชิงฯ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ