ปั้นเยาวชนภาคใต้สู่เส้นทางนักเตะอาชีพ
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) , พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมเป็นประธานแถลงข่าว การแข่งขันฟุตบอล กัลฟ์ เซาเทิร์น ซูเปอร์ลีก 2019 ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติการกีฬาแห่งประเทศไทย วันที่ 27 พฤษภาคม
การแข่งขันฟุตบอล กัลฟ์ เซาเทิร์น ซูเปอร์ลีก 2019 รอบแรก ทีมที่ชนะเลิศได้เป็นตัวแทนจาก 5 จังหวัด ได้รับเงินรางวัลชนะเลิศทีมละ 100,000 บาท ประกอบด้วย ทีมอำเภอเมืองยะลา (จังหวัดยะลา) ทีมอำเภอแว้ง (จังหวัดนราธิวาส) ทีมอำเภอสายบุรี (จังหวัดปัตตานี) ทีมอำเภอละงู (จังหวัดสตูล) ทีมอำเภอเมืองสงขลา (จังหวัดสงขลา)
ผลการจับสลากในรอบ ซูเปอร์ลีก ซึ่งจะใช้ระบบการแข่งขันแบบพบกันหมด (เหย้า-เยือน) ระหว่างวันที่ 7 มิถุนายน -7 กรกฎาคมนัดแรกนราธิวาส พบยะลา และสงขลา พบปัตตานี อนึ่ง ทีมชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 500,000 บาท ทีมรองชนะเลิศ รับเงินรางวัล 300,000 บาท ทีมอันดับ 3 รับเงินรางวัล 200,000 บาท ส่วน ทีมอันดับ 4 และ อันดับ 5 ได้รับเงินรางวัลทีมละ 100,000 บาท และ 50,000 บาท ตามลำดับ รวมเงินรางวัล 1,150,000 บาท
พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า “ ต้องขอบคุณ การกีฬาแห่งประเทศไทย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท มอลเทน (ไทยแลนด์) จำกัด ที่เล็งเห็นความสำคัญของกีฬา ในการใช้เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์แก่พี่น้องประชาชนใน 5 จังหวัดภาคใต้”
“ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ที่นำกีฬาฟุตบอลมาเป็นสื่อกลางในการสร้างความปรองดอง ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ รู้สึกเป็นเกียรติ ที่มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความสมานฉันท์ ด้วยการจัดแข่งขันฟุตบอล รายการ “กัลฟ์ เซาเทิร์น ซูเปอร์ลีก 2019” ขึ้น โดยมีการนำทีม จากแต่ละอำเภอ มาแข่งขันเพื่อหาตัวแทนจังหวัด ประกอบด้วย ยะลา, นราธิวาส, ปัตตานี, สงขลา และสตูล เพื่อนำตัวแทนแต่ละจังหวัด ไปเล่นในรอบซูเปอร์ลีกต่อไป”
“การแข่งขันฟุตบอล กัล์ฟ เซาเทิร์น ซูเปอร์ลีก 2019 ถือเป็นก้าวแรกของการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ และเยาวชนในการก้าวไปเป็นนักกีฬาฟุตบอลระดับอาชีพ หรือ ระดับชาติ ในอนาคต อีกทั้งเป็นการกระจายความนิยมสู่ระดับรากหญ้า นอกจากนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลยังมีนโยบายช่วยส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นโค้ชหรือผู้ตัดสินก็จะได้พัฒนาความรู้ต่อยอดสู่มาตรฐานสากล ตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ ต่อไป”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง