และเคล็ด (ไม่) ลับจากโค้ชมือโปร
การแข่งขันกอล์ฟหญิง LPGA Tour พักแข่ง 2 สัปดาห์ หลังจบศึก LPGA MEDIHEAL Championship ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม เพื่อเตรียมข้ามจากฝั่งตะวันตกไปปักหลักแข่งขันยังฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา กับศึก Pure Silk Championship presented by Visit Williamsburg ที่รัฐเวอร์จิเนีย ระหว่างวันที่ 23-26 พฤษภาคมนี้
ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวจัดแข่งขันมาแล้ว 14 ครั้ง แฟนกอล์ฟบ้านเราอาจจะคุ้นชื่อเก่า Kingsmill Championship มากกว่า เนื่องจากเป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญที่ "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวมือ 1 ของไทยซึ่งรั้งอันดับ 4 ของโลกในปัจจุบัน คว้าแชมป์ได้ถึง 2 สมัยในปี 2016 และปี 2018 แต่เนื่องจากได้ Pure Silk มาเป็นสปอนเซอร์ในปีนี้ จึงเปลี่ยนชื่อการแข่งขันดังกล่าว
ในช่วงของการพักเบรกนั้น นอกเหนือจากการชาร์จไฟให้พร้อมก่อนศึกใหม่แล้ว นักกอล์ฟชั้นแนวหน้าแต่ละคนก็จะหมั่นขัดเกลาฝีมือของตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการแข่งขันภายใต้สภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่แตกต่างไปจากเดิม
สำหรับพี่น้องจุฑานุกาล แม้ปีนี้จะยังไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ แต่ผลงานโดยภาพรวมยังถือว่าดีสม่ำเสมอ โดย "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาลนั้น ลงแข่งขัน 10 รายการ ไม่ผ่านตัดตัวเพียงครั้งเดียว นอกนั้นติดอันดับท็อป 20 ได้ถึง 6 รายการ ขณะที่ "โปรเม" เอรียา รักษาสถิติผ่านการตัดตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว อีกทั้งยังจบอันดับท็อป 20 ได้ถึง 5 รายการในปีนี้
ในส่วนทีมสต๊าฟโค้ชของสองพี่น้องยอดโปรชาวไทยนั้น นอกเหนือจากลีนน์ แมร์ริออตส์ และเพีย นิลส์สัน แห่ง "Vision54" ทีมโค้ชจิตวิทยาชื่อดังแล้ว ยังมีทีมงานที่ดูแลในส่วนอื่นควบคู่กันไปด้วย
สำหรับโค้ชวงสวิง แม้จะไม่ได้ว่าจ้างเต็มเวลาเหมือนกับสมัย แกรี่ กิลคริสต์ แต่สองพี่น้องก็จะขอคำแนะนำจาก คริส เมย์สัน โค้ชสวิงดาวรุ่งของสหรัฐอยู่เป็นระยะๆ โดยล่าสุด เมย์สันเพิ่งกล่าวชมโปรโมผ่านอินสตาแกรมของตัวเองว่า ทุกครั้งที่ได้พบกัน โปรโมจะทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
เมย์สัน บอกว่า ตอนที่ร่วมงานกันใหม่ๆ ช็อตไดรฟ์ของโปรโมมักจะเป็นลูกเฟดวิถีต่ำ แต่สิ่งที่น่าประทับใจคือ โปรโมจะตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง ว่าต้องตีลูกให้สูงขึ้น และต้องบังคับลูกให้โค้งได้ทั้งซ้ายและขวา เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมุ่งมั่นทำให้ได้ตามที่หวังไว้ ถึงตอนนี้โปรโมก็สามารถไดรฟ์ลูกได้สูงขึ้นและบังคับทิศทางได้ดีขึ้นตามที่ต้องการได้แล้ว
เมื่อไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ ก็ได้เวลาตั้งเป้าหมายใหม่ ซึ่งกรณีของโปรโมนั้นคือการหวดลูกให้ไกลกว่าเดิม เพื่อเพิ่มเขี้ยวเล็บให้กับเกมที่ปกติแม่นยำสม่ำเสมอนั่นเอง
โค้ชอีกคนที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลสองโปรสาวชาวไทย คือ แกเร็ธ ราฟลีฟสกี้ โค้ชลูกสั้นฝีมือเยี่ยมที่เสริมอาวุธให้โปรเมจนได้รับการยอมรับในวงการว่าเป็นคนที่เล่นลูกสั้นได้ดีที่สุดคนหนึ่งของ LPGA Tour
ราฟลีสกี้เผยว่า เคล็ดลับการสอนของเขานั้นมาจากการหล่อหลอมประสบการณ์จากอดีต เนื่องจากแต่ก่อนนั้นเขามักตั้งคำถามกับตัวเองว่า เหตุใดนักกอล์ฟในความดูแลของตนถึงมักจะทำผลงานดีตอนซ้อมแต่เวลาแข่งจริงกลับทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ในที่สุดเขาก็พบคำตอบว่า การเตรียมพร้อมก่อนแข่งแต่ละทัวร์นาเมนต์เริ่มต้นช้าเกินไป โดยแต่ก่อนนั้นกิจวัตรประจำสัปดาห์จะเริ่มจากพักในวันจันทร์ เริ่มซ้อมตีลูกวันอังคาร แล้วมาซ้อมพัตต์วันพุธ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ การซ้อมลูกสั้นแค่วันเดียวไม่สามารถทำความคุ้นเคยกับสภาพสนามหรือการเตรียมแผนการเล่นให้เหมาะสมได้ทันเวลา
เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงต้องปรับแผนการซ้อมใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าพี่น้องจุฑานุกาลก็ต้องเข้าคอร์สในลักษณะเดียวกันเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับแต่ละสนามก่อนแข่ง
บ่อยครั้งแม้จะเพิ่งคว้าแชมป์ช่วงสุดสัปดาห์ก่อนหน้า เมื่อถึงเช้าวันจันทร์ของสัปดาห์ถัดมา โปรเม จึงต้องไปซ้อมเกมสั้นกับราฟลีฟสกี้ อย่างขะมักเขม้น โดยวันจันทร์เน้นเรื่องเทคนิคการตี การจับไม้ให้ทุกอย่างเป๊ะที่สุด ส่วนอังคารและพุธจึงหันมาซ้อมเรื่องสปีดบอลและทำความคุ้นเคยกับสนาม
และเช่นเดียวกับหลายๆ ชนิดกีฬา การวางแผนของโค้ชนั้นไม่ใช่แค่ดูเรื่องเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่ต้องวางแผนล่วงหน้าด้วยว่าทำอย่างไรจะให้ฟอร์มของนักกีฬาที่ตัวเองดูแลนั้นพีกขึ้นมาถูกที่ถูกเวลาในช่วงสำคัญของการแข่งขันพอดี ถือเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งของราฟลีฟสกี้ จนได้รับความไว้วางใจร่วมงานกับนักกอล์ฟหญิงใน LPGA Tour มากถึง 32 คน เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา
โปรเมสรุปถึง ราฟลีฟสกี้ อย่างสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า "เขาทำให้ทุกอย่างเข้าใจง่ายค่ะ"
ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกุญแจความสำเร็จของสองพี่น้องจนถึงปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง