"จากแฟนบอลสู่แฟนบอล" 

เรื่องโดย - โสภณ เพชรแท้

ชื่อเสียงของ "แพท สเตเดี้ยม” คลองเตย รังเหย้าของ "สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี  ถือว่าโดดเด่นในเรื่องความหนาแน่นของแฟนบอลที่มีความผูกพันอยู่กับทีมฟุตบอลระดับตำนานของเมืองไทย สิ่งที่เห็นได้ชัดกับเกมในบ้านคือความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ถึงร้อยละ 90 ของบรรดาแฟนคลับสิงห์เจ้าท่า ที่นิยมใส่เสื้อทีม น้ำเงิน-แสด มาร่วมเชียร์ทีม สร้างบรรยากาศที่คึกคักได้ทุกครั้ง เมื่อเล่นในบ้าน 

หากพิจารณาจากจำนวน 16 ทีมในไทยลีกขณะนี้กล่าวได้ว่า การท่าเรือ เอฟซี เป็นเพียงทีมเดียวที่มีสนามแข่งขันอยู่ในกรุงเทพฯ ในขณะที่แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปใช้สนามแข่งขันอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตรังสิต ส่วน 14 ทีมที่เหลือ ล้วนเป็นทีมฟุตบอลที่มีสนามเหย้าอยู่ในภูมิภาคนั้นๆ 

ความน่าสนใจของทีมฟุตบอลการท่าเรือ เอฟซี ณ นาทีนี้แล้ว คือแนวคิดในการสร้างวัฒนธรรมอีกด้านระหว่างแฟนบอลสู่แฟนบอลด้วยกัน เพราะจากภาพที่คุ้นชินกับฟุตบอลทุกลีก คือการที่ฝ่ายจัดการแข่งขันจัดคิวให้ในช่วงพักครึ่งที่ตัวแทนของแฟนคลับทีมฟุตบอลจะมาทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างการพักครึ่งจากเกมในสนาม อันได้แก่การแลกเปลี่ยนของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอหรือเสื้อแข่ง แม้กระทั่งผลผลิตที่บ่งบอกความเป็นท้องถิ่นโดยตรง เช่น ผลไม้

อีกด้านที่น่าสนใจก็คือการสร้างความร่วมมือระหว่าง 3 ทีม ไทยลีก 1 คือ การท่าเรือ เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี และนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และหนึ่งทีมจากไทยลีก 3 กลุ่มบน คือ ขอนแก่น ยูไนเต็ด เพราะแฟนคลับทีมฟุตบอลเหล่านี้มีกิจกรรมที่เรียกกันว่าจาก "แฟนบอลสู่แฟนบอล" รูปแบบของกิจกรรมก็คือการจัดบริการอาหารเพื่อเลี้ยงรับรองแฟนบอลของทีมเยือนที่เดินทางมาพร้อมกับทีมที่จะอิ่มท้องเมื่อเดินทางมาถึง รังเหย้าของอีกฝ่าย

ตัวอย่างของกิจกรรมจากแฟนบอลสู่แฟนบอลที่จัดขึ้นไปแล้ว ก็คือการจัดอาหารของกองเชียร์ทีมฟุตบอลการท่าเรือ เอฟซี เพื่อต้อนรับกองเชียร์ของทีมฟุตบอลพีที ประจวบ เอฟซี เมื่อครั้งที่ การท่าเรือ เอฟซี เปิดรังเหย้ารับการมาเยือนของพีที ประจวบ เอฟซี ในเกมประจำวันเสาร์ที่ 6 เมษายน  กองเชียร์กลุ่มหนึ่งของการท่าเรือ เอฟซี นำโดย มิ่ง ค้าปลา หรือ “สไปเดอร์มิ่ง สิงห์สวาทแคท” ก็จัดซุ้มอาหารแบบเรียบง่ายให้บริการอาหารฟรีแก่แฟนบอลพีที ประจวบ เอฟซี รวมไปถึงแฟนบอลการท่าเรือ ด้วยกันเอง ที่สามารถมาใช้บริการฟรีที่ซุ้มอาหารแห่งนี้ โดยมีจุดให้บริการอยู่ที่ถนนด้านหลังแพท สเตเดียม  อัฒจันทร์ฝั่งประธาน 

อาหารที่นำบริการในมื้อนั้น ประกอบด้วย ข้าวสวย ขนมจีน แกงเขียวหวานไก่ ไข่ต้ม ไก่ทอด ทอดมัน ลาบไก่ ต้มยำซูเปอร์ตีนไก่ แตงโม และน้ำดื่ม แน่นอนว่าเมนูอาหารทุกอย่างเปิดกว้างให้แฟนบอลที่เป็นชาวมุสลิมสามารถร่วมรับประทานได้ กิจกรรมครั้งนี้มีผู้สนับสนุนสำคัญคือ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่มอบเงินสนับสนุนเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมอาหารรวม 10,000 บาท

มิ่ง ค้าปลา หรือ สไปเดอร์มิ่งสิงห์สวาทแคท แฟนคลับการท่าเรือ เอฟซี และผู้ประสานงานในกิจกรรมจากแฟนบอลสู่แฟนบอล ให้สัมภาษณ์ “ คมชัดลึก” ว่า กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเป็น ปีที่ 2 แล้ว เป็นสิ่งที่สามารถสร้างความมั่นใจระหว่างแฟนบอล พีทีประจวบ เอฟซี , นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และขอนแก่น ยูไนเต็ด โดยเมื่อทีม เหล่านี้ มาแข่งขันฟุตบอลที่ แพทสเตเดียม ก็มั่นใจได้ว่า แฟนบอลจะมีอาหารให้ทานฟรี ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง ที่สำคัญยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างแฟนบอลด้วยกัน ที่จะได้ตระหนักถึงความมีน้ำใจ และเห็นถึงความหมายของกีฬา ว่า คือ การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย

“ในสนามฟุตบอล นักฟุตบอลของทั้ง 2 ทีม เมื่อลงไปทำหน้าที่ แล้ว แน่นอนว่า ย่อมต้องการสร้างผลงานให้ดีที่สุด เช่นเดียวกับกองเชียร์ เมื่ออยู่ในเกมต่างฝ่าย ก็ส่งเสียงเชียร์ แต่เมื่อเกมจบแล้ว นกหวีดเป่าหมดเวลา ก็ถือว่าทุกอย่างสิ้นสุด ทุกคนล้วนเป็นคนไทย ล้วนเป็นกลุ่มคนที่รักฟุตบอล นี่คือสิ่งพวกเรา ต้องการสร้างเครือข่าย สร้างสายใยให้เกิดขึ้น วันนี้ความร่วมมือระหว่างกองเชียร์กลุ่มหนึ่ง อันมาจาก 4 ทีม อาจจะถูกมองว่าเป็นเพียงกิจกรรมเล็กๆ แต่ก็ให้หวังให้กิจกรรมนี้ได้รับการต่อยอดออกไป เพราะอย่างน้อยในมุมของแฟนคลับทีมการท่าเรือ เอฟซี แล้ว เราทุกคนต่างเชื่อว่า มุมมี้จะเป็นมุมที่แฟนบอลของทั้ง 2 ทีม ได้ พูดคุยกันอย่างมีความสุข มีข้าว มีน้ำ ไว้บริการ” ผู้ประสานงานในกิจกรรม จากแฟนบอล สู่แฟนบอล ระบุ

ภาพความดุดัน สู้กันตลอด 90 นาที ของเหล่านักเตะ และการส่งเสียงเชียร์แบบไม่สิ้นสุด คือภาพที่คุ้นตา กับทุกสนาม แต่กับบางสนามก็จะมีมุมนี้ให้เห็น มุมที่มีความหมายว่า “จากแฟนบอลสู่แฟนบอล”