ข่าว

"จุฑาธิป" จ่อได้ตั๋วไปโอลิมปิก 2020

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อันดับโลกอยู่ที่ 83 โอกาสคว้าโควต้าสูงมาก

“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชาเหมกระศรีนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เปิดเผยว่าตามที่สมาคมฯได้วางเป้าหมายในการผลักดันนักกีฬาจักรยานของไทยคว้าโควต้าไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่24 ก.ค.-9 ส.ค. 2563 ให้ได้อย่างน้อย1-2 คนซึ่งนักกีฬาจักรยานไทยประเภทถนนที่มีโอกาสสูงมากในการได้ตั๋วไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ก็คือ“บีซ” จุฑาธิปมณีพันธุ์เพราะตอนนี้มีคะแนนสะสม“โอลิมปิกแรงกิ้ง” ประเภทบุคคลอยู่ในอันดับ83 โดยหลักเกณฑ์ที่สหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือยูซีไอได้กำหนดไว้สำหรับคัดเลือกนักกีฬาไปแข่งขันค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร

สำหรับประเภทหญิงยูซีไอกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ว่าชาติที่มี “โอลิมปิกแรงกิ้ง” อันดับ 1-22 จะได้โควต้าจำนวนนักกีฬาลดหลั่นกันลงมาคืออันดับ 1-5 ได้ 4 คน, อันดับ 6-13 ได้ 3 คน, อันดับ 14-22 ได้ 2 คนรวมเป็น 62 คนแต่ก็จะต้องมาดูคะแนนประเภทบุคคลประกอบด้วยซึ่งในอันดับ 1-100 หากมีนักกีฬาที่ไม่ซ้ำกับ 22 ชาติก็จะได้ที่นั่ง 1 คนโดยไปตัดโควต้าออกจาก 22 ชาติ อย่างเช่นทีมหญิงไทยเวลานี้ “โอลิมปิกแรงกิ้ง” อยู่อันดับที่ 24 แต่ว่าจุฑาธิป มีอันดับบุคคลอยู่ที่ 83 ก็จะมีสิทธิไปตัดโควต้าในจำนวน 62 คนนั้นมา 1 ที่นั่ง กล่าวคือชาติที่อยู่อันดับ 14-22 โอกาสที่จะเหลือโควต้าแค่ 1 คนก็มีสูง ทั้งนี้ ยังมีโควต้าแชมป์ทวีปอีก 3 คนคือเอเชีย, แอฟริกาและโอเชียเนียรวมทั้งโควต้าของประเทศเจ้าภาพอีก 2 คนรวมนักกีฬาหญิงที่จะได้ไปโอลิมปิกเกมส์ มีทั้งสิ้น 67 คน

พล.อ.เดชา กล่าวอีกว่า นักปั่นไทยเรายังมีโอกาสเก็บแต้มจาก 3 รายการใหญ่ได้แก่ การแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2019 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน วันที่ 23-28 เมษายน , การแข่งขัน “ทัวร์ออฟจงหมิง” ที่ประเทศจีน วันที่ 9-11 พฤษภาคม และ “ทัวร์ออฟ ตราด”  วันที่ 24-26 พฤษภาคม ที่ จ.ตราด ซึ่งแต่ละรายการจะมีคะแนนให้เก็บมากมาย โดยเฉพาะ “ทัวร์ออฟตราด” มีทั้งประเภทสเตจเรซและวันเดย์เรซ ประเภทละ 125 คะแนน ตอนนี้ทีมหญิงของไทยอยู่อันดับ 24 มี 171 คะแนน หากนักกีฬาไทยสามารถคว้าแชมป์ได้ทั้ง 2 ประเภท ก็จะได้แต้มสะสมเพิ่มอีก 250 คะแนน รวมเป็น421 คะแนนอันดับ “โอลิมปิกแรงกิ้ง” มีโอกาสขยับขึ้นไปถึงอันดับต้น ๆ อาจส่งผลให้เราได้โควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ 2-3 คนก็เป็นไปได้เนื่องจากแต้มของชาติที่อยู่อันดับ 1-5 ทิ้งช่วงจากอันดับ 6 ลงมาค่อนข้างมาก
 

“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่าในส่วนของทีมชายก็มีหลักเกณฑ์คล้าย ๆ กันแต่ “โอลิมปิกแรงกิ้ง” จะคัดเลือกจากชาติที่มีอันดับ 1-50 โดยอันดับ 1-6 ได้5 คน, อันดับ 7-13 ได้ 4 คน, อันดับ 14-21 ได้ 3 คน, อันดับ 22-32 ได้ 2 คนและอันดับ 33-50 ได้ 1 คนรวมเป็น 122 คน ส่วนอันดับบุคคลจะดูที่อันดับ 1-100 เช่นกัน หากไม่ซ้ำใน 1-50 ชาติก็จะได้โควต้า 1 คนแต่จะไปตัดสิทธิ์ชาติที่มีอันดับ 32 ขึ้นไป สำหรับทีมไทยอยู่อันดับที่ 65 มี 35 คะแนน แต่ทีมชายมีรายการให้ล่าแต้มเยอะได้แก่ ชิงแชมป์เอเชีย ที่อุซเบกิสถาน วันที่ 23-28 เมษายน , ทัวร์ เดอ โคเรียน ที่เกาหลีใต้วันที่ 11-16 พฤษภาคม , ทัวร์ เดอ ฟิลิปินาส ที่ฟิลิปปินส์ วันที่ 14-18 พฤษภาคม , รายการ ทรูไรด์ ที่ฟิลิปปินส์ (ระดับ2.2) วันที่ 22-27 พฤษภาคม , รายการโตเกียว เทสต์อีเวนท์ ที่ญี่ปุ่น วันที่ 21 กรกฎาคม (วันเดย์เรซ1.2) และทัวร์ เดอ อินโดนีเซีย วันที่ 19-23 สิงหาคม

“สมาคมกีฬาจักรยานฯวางแผนส่งนักกีฬาไปแข่งขันครบทุกรายการทั้งทีมชายและทีมหญิง ซึ่งตอนนี้ความหวังสูงสุดเราอยู่ที่ จุฑาธิป โดยมี ศุภักษร นันตะนะ เป็นตัวสอดแทรกเพราะ 2 คนนี้มีคะแนนประเภทบุคคลหญิงอยู่ขณะที่นักกีฬาชายก็มี สราวุฒิ สิริรณชัยกับ ธนาคาร ไชยาสมบัติ ผมเชื่อว่านักปั่นไทยจะสร้างผลงานได้ดีและจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้” พล.อ.เดชากล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ