ข่าว

ตามจีบ "หงส์แดง" มาโชว์แข้งที่ไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บอร์ด กกท.ไฟเขียว จัดฟุตบอลนัดพิเศษ

คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย(บอร์ดกกท.) ได้อนุมัติหลักการใช้เงินสำรองของกกท. เพื่อจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษระหว่างทีมสโมสรฟุตบอลชั้นนำจากต่างประเทศกับทีมชาติไทย

ล่าสุด“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักดยอดมณีผู้ว่าการกกท. เปิดเผยว่าการจัดฟุตบอลนัดพิเศษมีความสำคัญในหลายมิติทั้งในเรื่องของการท่องเที่ยว, การพัฒนากีฬาฟุตบอลในไทยและการสร้างกระแสของกีฬาฟุตบอลในประเทศเบื้องต้นวางโปรแกรมจะจัดประมาณวันที่18 พ.ค.เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลในลีกยุโรปเพิ่งปิดฤดูกาลนักเตะชื่อดังยังไม่ได้แยกย้ายไปพักผ่อนจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตามตอนนี้มีข้อจำกัดในเรื่องของฟุตบอลในลีกยุโรปยังไม่ปิดฤดูกาลรวมถึงฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์สโมสรยุโรปหรือยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกก็ยังไม่เสร็จสิ้นทำให้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นสโมสรใดยอมรับว่าได้ส่งทีมงานติดต่อกับ“หงส์แดง” ลิเวอร์พูลยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษเรียบร้อยแล้วแต่ลิเวอร์พูลกำลังมีลุ้น2 แชมป์ทั้งพรีเมียร์ลีกและยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกจึงต้องรอดูโปรแกรมอีกสักระยะหากลิเวอร์พูลเข้าถึงรอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกซึ่งนัดแรกแข่งขันวันที่30 เม.ย.และนัดสองวันที่7 พ.ค.โอกาสจะเดินทางมาแข่งขันนัดพิเศษที่ประเทศไทยคงจะยากรวมทั้งหากผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในวันที่1 มิ.ย.ก็คงไม่สามารถมาเมืองไทยได้แน่นอนจึงได้ประสานทีมชั้นนำอื่นๆทั้งจากสเปน, อิตาลี, อังกฤษ, เยอรมนีไปพร้อมกันด้วย

“ยืนยันว่าแมตช์ดังกล่าวจะมีขึ้นแน่นอนและต้องเป็นทีมชั้นนำด้วยส่วนจะเป็นลิเวอร์พูล, “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่าจากลาลีกาสเปนแม้กระทั่ง“จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ซิตี้จากพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่ผูกพันกับคนไทยเป็นพิเศษก็มีความเป็นไปได้ซึ่งจะต้องขอดูเงื่อนไขอีกครั้งแต่สิ่งที่อยากเห็นคือกิจกรรมที่ส่วนกลางกับส่วนภูมิภาคทั่วประเทศทำกิจกรรมพร้อมกันอาจจะขึ้นจอยักษ์, แฟนเฟสติวัล, เปิดคลินิกกีฬาเพื่อสร้างกระแสด้านกีฬาให้กับคนไทยรวมทั้งยังสอดคล้องกันระหว่างสปอร์ตเอ็นเตอร์เทนเมนต์กับสปอร์ตทัวร์ริซึ่มด้วย” ดร.ก้องศักดกล่าว

ต่อคำถามที่ว่าจะมีโอกาสดึงทีมชั้นนำของโลกหลายทีมมาแข่งขันนัดพิเศษที่ประเทศไทยเหมือนรายการอินเตอร์เนชั่นแนลแชมเปียนส์คัพหรือไอซีซีคัพที่กระจายไปแข่งขันทั่วโลกหรือไม่ผู้ว่าการกกท. กล่าวว่าในอนาคตก็มีโอกาสเป็นไปได้แต่ก็ต้องดูศักยภาพโดยรวมด้วยว่าเรามีความพร้อมแค่ไหนเพราะต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงเช่นกันซึ่งตนทราบมาว่าประเทศสิงคโปร์หนึ่งในประเทศที่จัดศึกไอซีซีคัพอาจจะจัดศึกนี้เป็นปีสุดท้ายแล้ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ