"สราวุฒิ สิริรณชัย" ผงาดคว้าแชมป์สเตจ 5

การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ รายการ “The Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Cup Tour of Thailand 2019” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประเภททีมชาย  เส้นทาง จ.พิษณุโลก-สุโขทัย-อุตรดิตถ์-แพร่-น่าน-พะเยา-เชียงใหม่ รวมระยะทาง 974.53 กม.  เมื่อวันที่ 5 เม.ย.เป็นการแข่งขันสเตจที่ 5 เส้นทางอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง กว๊านพะเยา ผ่านจุดชมวิวกว๊านพะเยา-น้ำตกธารทอง จังหวัดลำปาง-ทางหลวงแจ้ห่ม-โรงเรียนเทศบาล 1-เข้าเส้นชัยที่บริเวณตรงข้ามเมืองไทยประกันชีวิต ถนนดวงรัตน์ จังหวัดลำปาง รวมระยะทาง 164.03 กม.

 

  

“วีรบุรุษหมูป่า” นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา มาเป็นประธานปล่อยตัวนักกีฬา พร้อมด้วย “เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย  และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ  โดย ประธานในพิธีลงนามถวายพระพร พร้อมเปิดกรวยดอกไม้ถวายราชสักการะแด่พระฉายาลักษณ์ และกล่าวถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ต่อด้วยการมอบโล่ให้ผู้สนับสนุน พร้อมทั้งมอบจักรยานให้กับเด็กนักเรียน ที่มีบ้านอยู่ห่างไกลต้องเดินทางเท้ามาเรียน จำนวน 50 คัน  

สำหรับเส้นทางการแข่งขันช่วง 50 กม. แรก เป็นเส้นทางขึ้นเขา มีเนินสูงให้นักกีฬาได้ลัดเลาะไต่เหลี่ยมเขากันพอสมควร รวมทั้งทางโค้งคดเคี้ยวที่มีให้นักปั่นได้ลุ้นระทึกตลอด จากนั้นก็เป็นทางราบสลับกับเนินที่ไม่สูงมากนัก แต่ทางโค้งยังมีเกือบตลอดเส้นทาง ส่วนเกมการแข่งขัน เฮียว ซุค กุง จากแอลเอ็กซ์ ไซคลิงทีม (เกาหลีใต้) นำเดี่ยวมาคนเดียวตั้งแต่ต้น แต่มาดึงจังหวะรอให้ สราวุฒิ สิริรณชัย จากไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ทีม ไล่ตามมาจนทัน รวมทั้ง “บาส” ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์, มีเดียม จู จากโซล ไซคลิง ทีม (เกาหลีใต้) และ จอร์จ คามิโล คลาสติบลังโก คูบิเดส จากทีม อิลลูมิเนต (สหรัฐอเมริกา) รวม 5 คน หลังจากผ่านจุด “เจ้าภูเขา” กลุ่มผู้นำก็ฉีกหนีกลุ่มใหญ่มาจนก่อนเข้าเส้นชัย โดย สราวุฒิ ไล่บี้กับ จอร์จ คามิโล คลาสติบลังโก คูบิเดส ช่วง 20 เมตรสุดท้าย ปรากฏว่า สราวุฒิ เร่งเครื่องเฮือกสุดท้ายแซงเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก เฉือนชนะกันแบบฉิวเฉียดแค่ 1 ช่วงล้อ

พิธีมอบรางวัล มี นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธาน พร้อมด้วย พล.อ.เดชา, ตัวแทนจากกธนาคารออมสิน, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย และหัวหน้าส่วนราชการ

ผลการแข่งขันมีดังนี้ ผู้ชนะเลิศ ประจำสเตจที่ 5 สราวุฒิ สิริรณชัย จากไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ทีม, ที่ 2 จอร์จ คามิโล คลาสติบลังโก คูบิเดส จากทีม อิลลูมิเนต (สหรัฐอเมริกา), ที่ 3 เฮียว ซุค กุง จากแอลเอ็กซ์ ไซคลิงทีม (เกาหลีใต้), ที่ 4 มีเดียม จู จากโซล ไซคลิง ทีม (เกาหลีใต้) ทำเวลา 3.54.35 ชั่วโมง เท่ากัน แต่ได้คะแนนกับโบนัสลดหลั่นกันลงมา, ที่ 5 ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ จากไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ทีม 3.54.41 ชั่วโมง ส่วนรางวัลผู้นำเวลารวม ยังเป็น ไรอัน คาวานาห์ จากเซนต์จอร์จ คอนติเนลตัล ไซคลิง ทีม (ออสเตรเลีย) มีเวลารวม 21.33.53 ชั่วโมง ได้ครองเสื้อชมพูต่อไป โดย สราวุฒิ ได้รับรางวับพิเศษจาก พล.อ.เดชา 30,000 บาท

ผู้ชนะเลิศอาเซียนประจำสเตจที่ 5 ได้แก่ สราวุฒิ สิริรณชัย ได้รับรางวัลพิเศษจาก พล.อ.เดชา จำนวน 10,000 บาท, ที่ 2 ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์, ที่ 3 อับดุล กานี จากเคเอฟซี อินโดนีเซีย (อินโดนีเซีย) ส่วนรางวัลผู้นำอาเซียน ยังคงเป็นของ มาร์เซโล เฟลิเป้ จากเซเว่น อิเลฟเว่น คลิก โรดไบค์ (ฟิลิปปินส์) คว้าเสื้อม่วงไปครองติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยมีเวลารวม 21.40.27 ชั่วโมง เท่ากับ อันดับ 2 “อเล็กซ์” อาริยะ พูลสวัสดิ์ จากไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ทีม และ อันดับ 3 โก๊ะ ชูน ฮวต จากตรังกานู ไซคลิง ทีม (มาเลเซีย)

รางวัลเจ้าความเร็ว (IS) มี 2 จุด IS1 ได้แก่ จิโอวานนี่ โลนาร์ดี จาก นิปโป-วินี ฟานตินี โปร ไซคลิง ทีม (อิตาลี) และ IS2 คือ สราวุฒิ สิริรณชัย ได้รับรางวัลพิเศษจาก พล.อ.เดชา อีก 10,000 บาท รวมแล้ว สราวุฒิรับไปทั้งหมด 50,000 บาท ขณะที่รางวัลคะแนนรวมเจ้าความเร็ว เป็นของ จิโอวานนี่ โลนาร์ดี คว้าเสื้อเขียวไปครองต่ออีกวัน

รางวัลเจ้าภูเขา KOM1 ได้แก่ เฮียว ซุค กุง จากแอลเอ็กซ์ ไซคลิงทีม (เกาหลีใต้) โดยมี สราวุฒิ ตามมาเป็นอันดับที่ 2 ส่วนรางวัลคะแนนรวมเจ้าภูเขา ก็คือ เฟริก อาเลจานโด บารอน คาสติลโร จาก อิลลูมิเนต (สหรัฐอเมริกา) คว้าเสื้อลายจุดสีแดงไปครองต่ออีกวัน สำหรับรางวัลนักบู๊ยอดเยี่ยม ประจำสเตจที่ 5 ได้แก่ เฮียว ซุค กุง จากแอลเอ็กซ์ ไซคลิงทีม (เกาหลีใต้)

ประเภททีม แชมป์ประจำสเตจที่ 5 และแชมป์อาเซียน เป็นของ ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ทีม ส่วนเวลารวมโอเวอร์ ออล ยังเป็น เซนต์จอร์จ คอนติเนลตัล ไซคลิง ทีม (ออสเตรเลีย) 64.54.59 ชั่วโมง สำหรับผู้เวลารวมประเภททีมอาเซียน ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ทีม ยังนำต่อไปด้วยเวลา 65.28.45 ชั่วโมง ทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 42 นาที

 สราวุฒิ เปิดเผยว่า วันนี้สภาพร่างกายและกำลังขาดีมาก ไม่เป็นตะคริวเหมือนวันก่อน เกมการแข่งขันตนเองและกลุ่มผู้นำฉีกหนีกลุ่มใหญ่ตั้งแต่ กม.ที่ 70 แล้วมาชิงจังหวะกันหน้าเส้นชัย เรียกว่าบีบหัวใจมาก ช่วงปั่นขึ้นเขาตนพยามสู้เพื่อคว้ารางวัลเจ้าภูเขา แต่โดนนักปั่นเกาหลีใต้เฉือนไปหวุดหวิด แต่การได้แชมป์สเตจ กับ แชมป์ IS2 ก็รู้สึกดีใจมาก ส่วนสเตจสุดท้าย ปั่นไป จ.เชียงใหม่ จะต้องใส่กันอย่างเต็มที่ สู้กันสุดชีวิตแน่นอน

 

 

“โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอน กล่าวว่า พวกเราทราบดีว่าคนไทยเชียร์เราอยู่ และไม่อยากทำให้กองเชียร์ผิดหวัง จึงวางแผนอย่างรัดกุม นักกีฬาก็ทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะ สราวุฒิ ทุ่มเต็มที่จนได้แชมป์ ส่วน ภุชงค์ ก็ช่วยน้องได้ดี ช่วยกันส่ง ช่วยกันลากมาตลอด เพราะคนที่ได้อันดับ 2 เขาจี้มา กำลังขาเขาแข็งแก่รงมาก แต่ก่อนเข้าเส้นก็สู้กันเต็มที่ สุดท้าย สราวุฒิ ก็ทำได้ สำหรับสเตจที่ 6 ระยะทางสั้น ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อแย่งตำแหน่ง “เจ้าอาเซียน” มาให้ได้

“เสธ.หมึก”  กล่าวว่า พอใจผลงานนักกีฬามาก เพราะเราตั้งเป้าว่าจะต้องคว้าแชมป์สเตจให้ได้ แล้วพวกเขาก็ทำสำเร็จ ยอมรับว่า สราวุฒิ หัวใจนักสู้ ภุชงค์ ก็ช่วยกันดี จนได้แชมป์มาครอง สำหรับรางวัล “เจ้าอาเซียน” ก็ต้องลุ้นกันในสเตจที่ 6 ซึ่งเป็นสเตจสุดท้าย โดย “อเล็กซ์” มีเวลาเท่ากับนักปั่นอีก 2 คน ต้องช่วยกันสู้สุดชีวิต แต่จากชัยชนะสเตจนี้ ทำให้ตนรู้สึกสบายใจกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ปีนี้ นักปั่นไทยคงสู้กับนักกีฬาเจ้าภาพ รวมทั้ง อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ได้สูสี

“ส่วนปัญหาเรื่องฝุ่นควันที่ จ.เชียงใหม่ ถือว่าเป็นความโชคดีของนักกีฬาที่มีฝนตกลงมาช่วยทำให้เบาบางลง ก่อนหน้านี้ ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ก็หาทางแก้ไขกัน เชื่อว่าสถานการณ์คงคลี่คลายไปด้วยดี จากการตรวจสอบค่าความเสี่ยงใน จ.พะเยา และ จ.ลำปาง ลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว โดยแจ้งให้กับคณะกรรมการผู้ตัดสินต่างชาติ และทุกทีมรับทราบว่าสภาพอากาศเป็นยังไง นอกจากนี้ผมก็เรียกประชุมทีมงาม รวมทั้งคณะแพทย์ปนระจำทีมอยู่ทุกวัน จึงไม่มีอะไรน่าห่วง” พล.อ.เดชา กล่าว

การแข่งขันสเตจที่ 6 วันที่ 6 เม.ย. เส้นทางจากสวนสาธารณะเขลางค์นคร จังหวัดลำปาง-ผ่าน อ.ห้างฉัตร-ดอยขุนตาล-อ.แม่ท่า จังหวัดลำพูน-ศาลากลางจังหวัดลำพูน-พระธาตุหริภุญชัย-อ.สารภี จังหวัดเชียงใหม่-สี่แยกสะเมิง-เข้าเส้นชัยที่สวนรุกขชาติห้วยแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ รวมระยะทาง 116 กม.