รวมสถิติน่าสนใจหลังจับสลากยูซีแอล 8 ทีมสุดท้าย

    ที่ประกอบไปด้วย 4 ทีมจากอังกฤษ ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี และทอตแนม ฮอตสเปอร์, 1 ทีมจากอิตาลี คือ ยูเวนตุส, 1 ทีมจากฮอลแลนด์ คือ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม 1 ทีมจากสเปน คือ บาร์เซโลนา และ 1 ทีมจากโปรตุเกส คือ เอฟซี ปอร์โต

    โดยผลปรากฏว่าเกิดคู่บิ๊กแมตช์ประจำรอบเกิดขึ้น เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพบกับ บาร์เซโลนา รวมไปถึงการเจอกันเองของ 2 ทีมจากแดนผู้ดี คือ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ปะทะ แมนเชสเตอร์ ซิตี ขณะที่ ยูเวนตุส และลิเวอร์พูล เจอคู่แข่งที่มีชื่อชั้นเป็นรอง คือ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และเอฟซี ปอร์โต ตามลำดับ

    ส่วนในรอบรองชนะเลิศ ผู้ชนะระหว่าง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี จะพบกับผู้ชนะระหว่าง อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม กับ ยูเวนตุส และผู้ชนะระหว่าง บาร์เซโลนา กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพบผู้ชนะระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เอฟซี ปอร์โต

    นอกจากนั้นจากผลการจับสลากที่ออกมาทำให้ “แพดดี พาวเวอร์” บริษัทรับพนันถูกกฎหมายของไอร์แลนด์ ยกให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี เป็นเต็ง 1 ที่มีสิทธิ์คว้าถ้วยบิ๊กเอียร์มาครอง ตามมาด้วย ยูเวนตุส ที่ถูกวางเป็นเต็ง 2 และบาร์เซโลนา กับลิเวอร์พูล อยู่ในตำแหน่งเต็ง 3 ร่วมกัน ส่วน “ปีศาจแดง” รั้งเต็ง 5 ตามมาด้วย ทอตแนม ฮอตสเปอร์, อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม และ เอฟซี ปอร์โต

     และก่อนที่การแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายดังกล่าวจะเกิดขึ้น ได้มีการรวบรวมสถิติต่างๆที่น่าสนใจของทั้ง 4 คู่ออกมาซึ่งอาจจะส่งผลโดยตรงต่อผลการแข่งขัน

อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม (เอเรดิวิซี ฮอลแลนด์) พบ ยูเวนตุส (กัลโช เซเรีย อา อิตาลี)
-อาแจกซ์ ทำเป็นทีมแรกจาก ฮอลแลนด์ ที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของฟุตบอลยูซีแอลได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006-07 ที่ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ทำได้ ด้วยการเอาชนะ เรอัล มาดริด แชมป์เก่าแบบสวยงามด้วยสกอร์รวม 2 นัด 4-1
-คริสเตียโน โรนัลโด แข้งซูเปอร์สตาร์ของ ยูเวนตุส ยิงได้ตลอดในการเจอกับ อาแจกซ์ 4 นัดหลังสุด (รวม 7 ลูก) มีแค่ ยูเวนตุส (10) กับ บาเยิร์น (10) ที่เจ้าตัวยิงได้มากกว่าในการชิงชัยบนเวทีสโมสรยุโรป
-ยูเวนตุส ไม่แพ้ อาแจกซ์ เลยในการเจอกัน 10 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม โดยพวกเขาชนะได้ถึง 5 จาก 6 นัดหลังสุดด้วย
-ทั้ง 2 ทีมเคยพบกันทั้งหมด 12 ครั้งในรายการนี้ ยูเวนตุส เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า โดยชนะ 6 นัด เสมอ 2 นัดและแพ้ 4 นัด

ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ) พบ เอฟซี ปอร์โต (ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส)
-ลิเวอร์พูล กับ ปอร์โต เคยพบกันครั้งล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้วในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งผลปรากฏว่า “หงส์แดง” เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 5-0 (นัดแรกบุกชนะ 5-0 และนัดที่ 2 เสมอในบ้าน 0-0)
-ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้ ปอร์โต ในฟุตบอลถ้วยยุโรปจากการพบกัน 6 นัด โดยชนะได้ 3 และเสมอ 3 แถมยังยิงได้ถึง 12 ประตู และเสียแค่ 2 ประตูเท่านั้น
-ปอร์โต ไม่เคยเอาชนะทีมจากอังกฤษได้เลยในรอบน็อกเอาท์ของศึกยูซีแอล 5 นัดหลังสุด โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเก็บชัยได้คือในปี 2003-2004 ที่พวกเขาน็อก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และคว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากปี 1986–87

ทอตแนม ฮอตสเปอร์ (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ) พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
-สเปอร์ส ผ่านเข้าสู่รอบ 8 สุดท้ายของฟุตบอลยูซีแอล ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011
-แมนเชสเตอร์ ซิตี มีสถิติที่ไม่ดีนักในการเจอกับทีมร่วมลีกในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ โดยแพ้ตลอดทั้ง 4 เกมหลังสุด ทั้งแพ้ เชลซี ในปี 1971 และแพ้ ลิเวอร์พูล ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
-จากผลการจับสลากที่เกิดขึ้นทำให้ทั้ง 2 ทีมต้องพบกันถึง 3 เกมติดต่อกัน เริ่มตั้งแต่ สเปอร์ส พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี วันที่ 10 เม.ย. (ยูซีแอล นัดแรก), แมนเชสเตอร์ ซิตี พบ สเปอร์ส วันที่ 18 เม.ย. (ยูซีแอล นัดสอง) และแมนเชสเตอร์ ซิตี พบ สเปอร์ส วันที่ 20 เม.ย. (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)

บาร์เซโลนา (ลาลีกา สเปน) พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ บาร์เซโลนา ได้แค่หนเดียวจาก 8 ครั้งที่พบกันบนเวทีใหญ่ยุโรป ทั้งสมัยที่เป็น ยูโรเปียน คัพ รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยสถิติเสมอ 4 แพ้ 3 นอกจากนั้นยังเป็นการพ่ายในนัดชิงชนะเลิศถึง 2 ครั้งเมื่อปี 2009 และ 2011
-ลิโอเนล เมสซี กองหน้าชื่อก้องของ “เจ้าบุญทุ่ม” ถูกโฉลกอย่างมากในการพบกับทีมจากอังกฤษ โดยเจ้าตัวทำได้ถึง 22 ประตูยามเจอทีมจากแดนผู้ดีในยูซีแอล
-ทั้ง 2 ทีมพบกันทั้งหมด 11 นัดในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดย บาร์เซโลนา ชนะ 4 นัด เสมอ 4 นัด และแพ้ 3 นัด

     สุดท้ายแล้วต้องมาติดตามกันว่าทีมใดจะได้ลิ่วสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป โดยนัดแรกจะทำการแข่งขันกันระหว่างวันที่ 9-10 เม.ย. ส่วนนัดที่ 2 จะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย.นี้ ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะมีการล้มยักษ์ หรือแมตช์ปาฏิหารย์เกิดขึ้นเหมือนในรอบที่ผ่านมาก็เป็นได้