แข้งชายหาดไทย ร่วงศึกเอเชียแล้ว

การแข่งขันฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย 2019 ( AFC Beach Soccer Championship Thailand 2019) เมื่อวันที่ 9 มีนาคม  ทัพ “เท้าเปล่าช้างศึก” ทีมชาติไทยลงสนามเป็นเกมนัดที่สองในรอบแรกของ สาย เอ ด้วยการพบกับ “เสือเหลือง” มาเลเซีย ที่แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา 

    ผลงานของแข้งเท้าเปล่าไทยนัดแรกแพ้ต่อปาเลสไตน์  2-5 ขณะที่ มาเลเซีย แพ้ อัฟกานิสถาน ในช่วงต่อเวลา 2-3 (เสมอในเวลา 2-2) ต่างก็ยังไม่มีแต้ม นัดนี้จึงถือว่าสำคัญต่อทั้งสองทีมที่จะต้องเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อลุ้นเข้ารอบต่อไป

ทีมชายหาดของไทยนัดนี้ สภาพทีม นที จีปน ยังมีอาการบาดเจ็บบริเวณกลางหลัง ส่วน ณรงค์ วิเศษศรี นายประตูจอมเก๋าวัย 40 ปีก็ยังปวดที่ศีรษะเล็กน้อยอาการดีขึ้นสามารถลงสนามได้ โดยการจัดทัพยังมี คมกริช ณ น่าน กัปตันทีมลงสนาม พร้อมด้วย วัชระ เลไพจิตร และ มนัส มัดตอฮา ที่ได้ลงมาเป็นแกนหลัก

    เริ่มเกมพีเรียดแรก เริ่มต้นเกม คมกริช ณ น่าน ตีลังกายิงบอลเข้ากรอบ แต่นาซี สุไลมาน ปัดไว้ทัน น.3  มนัส มัดตอฮา ไปกระแทก ริดวาน ไซนัล ไทยเสียฟาวล์หน้าประตู  ก่อนที่ ริดวาน ไซนัล  จะลุกขึ้นมายิงเข้าไปให้มาเลเซียนำไทย 1-0 

    น.8 ปิยะพงษ์ สองผิว  ตัดบอลได้พยายามจะพาบอลเข้าไปยิงแต่โดนดึงเสื้อจากด้านหลังเลยเสียจังหวะยิงบอลเบาไป สุไลมาน คว้าไว้ได้ 

    น.9 ทีมไทยพลาดกันอีกในเกมรับ ริดวาน ไซนัล หลุดขึ้นทางกราบซ้าย ก่อนล้มตัวยิงบอลผ่านมือ ณรงค์ วิเศษศรี เข้าไปง่ายๆ มาเลย์ ขยับนำ 2-0 

    น.11 เกมรับของไทยยังช่วยกันไม่ดี  โดน มูฮัมหมัด กัสไซรี่ กระชากบอลขึ้นทางซ้ายกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู และเป็น ฮารอน อาลี ยืนแปบอลโล่งๆเข้าไปเป็น 3-0 ในพีเรียดแรก

    ลงมาในพีเรียดที่2 ไทยโหมหนัก น.17 คมกริช ณ น่าน เปิดบอลแรงจากฝั่งขวา วัชระ เลไพจิตร ตวัดยิงเสาสองก็ยังติดตัว นาซี สุไลมาน นาทีต่อมา วัชระ เลไพจิตร ซัดจากระยะไกล สุไลมาน ก็ยังเหนียวเซฟไว้ได้อีก 

    น.19 กองเชียร์ไทยได้เฮเมื่อ ฐานันดร ประราชะ หน้าเป้าร่างยักษ์โชว์ทักษะเดาะบอล 3 ครั้งแล้วกระโดดตีลังกาซัดบอลเสียบใต้คานสวยงามให้ไทยไล่มา 1-3 

    ทีมไทยเริ่มกดดันมาขึ้น น.20 มาได้ฟาวล์ริมเส้นฝั่งซ้าย ฐานันดร ประราชะ ยิงเรียดเสาแรกออกหลังไปนิดเดียว 

    น.22  ซาฟิค ริซา ฮูซา ของมาเลเซีย ได้พลิกตัวยิงบอลออกข้างเสาหวุดหวิด แข้งเท้าเปล่าไทยเร่งเกม แต่นาทีท้ายเกือบพ่ายเมื่อ โมฮัมหมัด นอร์อัดมาน ตัดบอลหลบ ณรงค์ วิเศษศรี ได้แล้วแต่ยิงเรียดบอลติดทรายทำให้กองหลังไทยมาตัดไว้ได้ทัน  และ น.24 มาเลเซีย ก็มาได้ประตูที่ 4 จนได้เมื่อได้ฟาวล์ทางฝั่งซ้าย มูฮัมหมัด กัสไซรี่ อัดเต็มหลังเท้าบอลเสียบสามเหลี่ยมทำให้มาเลเซียนำไทย 4-1 ในพีเรียดที่ 2

พีเรียดสุดท้าย น.25 แข้ง “เสือเหลือง” หนีไทยไป 5-1 จากการยิงของ ฮารอน อาลี  น.27 ไทยน่าได้ประตูเมื่อ  กฤติน หล่อจันอัด ได้ยิงโล่งๆ แต่ นาซี สุไลมาน ออกมาขวางได้เร็ว 

    น.29  วัชระ เลไพจิตร โดดตีลังกาได้สวย สุไลมาน ปัดออกมา ก่อนที่ ฐากร วิกยพันธ์ จะตามเข้าซ้ำเป็นประตูให้ไทยตามมา 2-5 

    นาทีต่อมาไทยได้โทษตรงธงเหลือง กลางประตูแต่ คมกริช ณ น่าน ยิงไปโดน สุไลมาน เซฟไว้ได้  น.31  โมฮัมหมัด นอร์อัดมาน ได้ส่องไกลเต็มแรงบอลชนเสาอย่างจัง

    น.34 ไทยได้ยิงจุดโทษกลางสนามธงสีแดง ฐานันดร ประราชะ กดเรียดบอลเสียบโคนเสาให้สกอร์ตามมา 3-5 จากนั้น น.35 คมกริช ณ น่าน ตีลังกาหวดบอลตุงตาข่ายสุดสวยได้อีกไทยจี้มา 4-5 

    ช่วงนาทีสุดท้ายเกมใส่กันดุเดือดมากขึ้น ก่อนที่ ปิยะพงษ์ สองผิว ที่นั่งในซุ้มสำรองจะไปโวยกรรมการทำให้โดนใบแดงไป หมดเวลาทีมไทยแพ้มาเลเซีย 4-5 ส่งผลให้ 2 นัด ไม่มีแต้มร่วงตกรอบแรกแน่นอนแล้ว แม้ว่าจะเหลือเกมนัดสุดท้ายและชนะอัฟกานิสถานได้ก็ตาม แต่เฮดทูเฮดก็ยังเป็นรองมาเลเซียอยู่ดี

    รายชื่อ 5 คนแรกของทั้งสองทีม

    ไทย : ณรงค์ วิเศษศรี (GK),วัชระ เลไพจิตร,กฤติน หล่อจันอัด,มนัส มัดตอฮา,คมกริช ณ น่าน

    มาเลเซีย : นาซี สุไลมาน (GK),มูฮัมหมัด กัสไซรี่,โมฮัมหมัด นอร์อัดมาน,ซาฟิค ริซา ฮูซา,ซาริม ยูซูฟ

    ผลคู่อื่น สาย เอ ปาเลสไตน์  ชนะ อัฟกานิสถาน 3-2,สาย บี เลบานอน ชนะ คีร์กีซสถาน 11-2 และ ยูเออี ชนะ จีน 6-2 

    สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในวันที่ 10 มีนาคม จะมีด้วยกัน 3 คู่ สาย ซี คูเวต พบ บาห์เรน เวลา 17.30 น.กาตาร์ พบ ญี่ปุ่น เวลา 20.30 น. และสาย ดี โอมาน พบ อิรัก เวลา 19.00 น.