ข่าว

ฉลามชล 9 ตัว บุกแบ่งแต้ม ปราสาทสายฟ้า สุดมันส์ 2-2

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"แชมป์เก่า" เปิดสนาม ไทยลีก 2019 ได้แค่เสมอ

ศึกลูกหนัง โตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำวันเสาร์ที่ 23 ก.พ. ที่สนาม ช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ เจ้าถิ่น “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี เกมนี้ โบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือใหญ่ ของ “ปราสาทสายฟ้า” จัด 11 คนแรก มี พรรษา เหมวิบูลย์, อันเดรส ตูเญซ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, ศุภชัย ใจเด็ด และ โมดิโบ ไมก้า ลงเป็นแกนหลัก ขณะที่ จักรพันธ์ ปั่นปี หัวหน้าผู้ฝึกสอน “ฉลามชล” ส่ง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ผนึกกำลัง ร่วมกับ 3 แข้ง ผลผลิต จาก ชลบุรี เอฟซี อคาเดมี่ อย่าง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ และ กฤษดา กาแมน โดยมี ลูเคี่ยน อาราอูโจ้ เป็นทีเด็ดในเกมรุก

ครึ่งแรก รูปเกมเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าถิ่น ที่เป็นฝ่ายครองบอล เดินเกมบุกเข้าใส่ ส่วน ชลบุรี เอฟซี เน้นรับแน่นในแดน แล้วหาจังหวะเล่นเกมโต้กลับ

นาทีที่ 7 โอกาสลุ้นประตูแบบชัดเจน ครั้งแรก เป็นของ “ฉลามชล” จังหวะสกัดบอลไม่ดู ของ พรรษา เหมวิบูลย์ บอลมาเข้าทาง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ดีดสั้นๆต่อไปให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แต่งบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนยิงด้วยขวา บอลหลุดกรอบออกหลัง

เกมยังคงเปิดแลกกันอย่างสนุก นาทีที่ 18 “ปราสาทสายฟ้า” ได้ลุ้นบ้าง บอลริมเส้น ของ กรกช วิริยอุดมศิริ มาให้ ศุภชัย ใจเด็ด ได้ยิงหน้ากรอบเขตโทษ บอลเบาเข้ามือ ชนินทร์ แซ่เอียะ รับไว้ได้

นาทีที่ 23 พลาดโอกาส ในการได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย บอลจากริมเส้นฝั่งซ้าย ของ กรกช วิริยอุดมศิริ อีกครั้ง และเป็น ศุภชัย ใจเด็ด ได้ยิงด้วยซ้าย ไม่ตรงประตู

นาทีที่ 26 เกมบุก ของ ชลบุรี เอฟซี เกือบได้ประตูขึ้นนำบ้าง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เล่นสั้นกับ สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ ก่อนที่จังหวะสุดท้าย จะเป็น ธีระพงษ์ ดีหามแห ยิงไม่เต็มเท้า บอลออกไป 

นาทีที่ 39 กองเชียร์ เจ้าถิ่นเกือบได้เฮ บอลเปิดจากทางขวา ของ สุภโชค สารชาติ เปิดบอลไปให้  โมดิโบ ไมก้า ได้โหม่ง บอลออกหลังไปแบบมีลุ้น จบครึ่งแรก ทั้ง 2 ทีม ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลัง “ปราสาทสายฟ้า” ยังคงเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ “ฉลามชล” อย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 50 สุภโชค สารชาติ พาบอลลากลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษ กึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่เสาสอง แต่ทว่าจังหวะนี้ ไม่มีตัวชาร์จ บอลออกหลัง

นาทีที่ 52 จังหวะทำเกม ทางฝั่งซ้าย ของ ชลบุรี เอฟซี เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ จ่ายให้ ณัฐพงศ์ เปพาทย์ ได้ยิงที่เสาแรก ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายด่าน เจ้าถิ่น ยังไม่พลาดปัดออกไปได้

นาทีที่ 55 ศศลักษณ์ ไหประโคน ได้ยิงด้วยขวา บอลลอยไปตกหลังประตู แบบมีลุ้น แต่นาทีที่  58 ชลบุรี เอฟซี ได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ แพทริก ครูซ ไล่แย่งบอลมาจาก อันเดรส ตูเญซ ก่อนจะจ่ายต่อให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ จับหนึ่งจังหวะ แล้วยิงตุงตาข่าย

นาทีที่ 63 ชลบุรี เอฟซี ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อ ณัฐพงษ์ เปพาทย์ ไปทำฟาวล์ผู้เล่น เจ้าถิ่น ที่กลางสนาม ผู้ตัดสินให้ใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง ไล่ออกจากสนามไป

จากนั้น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่น โหมบุกหนัก และ มาได้ 2 ประตู พลิกขึ้นนำ 2-1 จาก 2 ประตู ของ สุภโชค สารชาติ ในนาทีที่ 65 และ 66 

นาทีที่ 76 “ฉลามชล” ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พยายามทำเกมสู้ และ ก็มาได้ประตูตีเสมอ ชนิดช็อคแฟนเจ้าถิ่น ลูเคี่ยน อาราอูโจ้ เปิดบอล จาก ฝั่งขวา เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ วิ่งเข้าชาร์จ เข้าประตูไปแบบสวยงาม สกอร์เป็น 2-2

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าถิ่น พยายามเดินเกมโหมบุกหนัก อีกครั้ง หวังทำประตูขึ้นนำ เพื่อ ปิดเกมให้ได้ ซึ่งก็สามารถสร้างโอกาสได้ลุ้นหลายครั้ง แต่ทว่าเจาะแนวรับ ของ ชลบุรี เอฟซี ที่ช่วยกันเล่นอย่างอดทนเข้าไปไม่ได้ 

นาทีที่ 89 ชลบุรี เอฟซี สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อต้องมาเหลือผู้เล่นในสนามเพียง 9 คน เมื่อ ลูเคี่ยน อาราอูโจ้ มาโดนใบเหลือที่ 2 เป็นใบแดง ไล่ออกจากสนามไป จากจังหวะไปตัดเกมโต้กลับ ของ เจ้าถิ่น  แต่ทว่าช่วงเวลาที่เหลือก็ไม่ฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ จบ 90 นาที เสมอกันไปแบบสนุก 2-2 แบ่งกันทีมละ 1 คะแนน  

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ