ข่าว

"มูรินโญ" บนรอยต่อความเปลี่ยนแปลงผ่านมุมมองกูรูบอลสเปน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ถึงพลาดสะดุดแบ่งแต้มเบิร์นลีย์ แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าชั่วโมงนี้ โอเล กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชั่วคราวแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วทุกสารทิศ

อย่างไรก็ตามบทความวันนี้ขอพาทุกคนย้อนกลับไปทำความรู้จักกับคนคุ้นเคยในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่มีนามว่า โชเซ มูรินโญ กันอีกสักครั้ง ผ่านเรื่องราวและคำบอกเล่าที่ กิเญม บาลาเก นักข่าวชื่อดังชาวสเปนของ “สกาย สปอร์ต” ได้ไปพูดคุยกับโค้ชและนักเตะที่เคยร่วมงานกับกุนซือชาวโปรตุกีสรวมถึงคนวงในของยูไนเต็ดที่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้

หลังได้รับการบอกเล่าจาก เอ็ด วูดเวิร์ด รองประธานบริหาร"ปีศาจแดง"ถึงการดำรงตำแหน่งวันสุดท้ายของ มูรินโญ ที่ผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีสใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งในสนามซ้อมแคร์ริงตันเพื่อบอกลากับทีมงานที่ร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกัน

"มูรินโญ" ออกจากศูนย์ฝึกแคร์ริงตันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หนวดเคราอันเกลี้ยงเกลาซึ่งทำให้ดูอ่อนเยาว์กว่าทุกครั้ง ท่าทีและบุคลิกในวันนั้นดูเหมือนจะผ่อนคลายมากทีเดียว แต่ขณะเดียวกันก็อดคิดไม่ได้ว่ามันอาจเป็นแค่การกลบเกลื่อนจากแรงกดดันที่แบกรับมานานเท่านั้น

 

วิธีการของเขากำลังล้าหลัง ?

มูรินโญ เป็นผู้ริเริ่มแนวทางการฝึกซ้อมที่ในโปรตุเกสเรียกกันว่า “แนวทางการฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบ” (tactical periodisation) ซึ่งถูกคิดค้นโดย วิคตอร์ ฟราเด ชายชาวโปรตุเกสที่ทำงานในมหาวิทยาลัยปอร์โต

ปัจจุบันด้วยวิวัฒนาการของเกมลูกหนังที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ดูเหมือน มูรินโญ จะพยายามทำซ้ำด้วยวิธีการทำงานแบบเดิมๆ ที่เคยประสบความสำเร็จ แม้บางครั้งอาจต่ำกว่าความคาดหวังของใครหลายคน "มูรินโญ" บนรอยต่อความเปลี่ยนแปลงผ่านมุมมองกูรูบอลสเปน

ในสเปนผู้เล่นหลายคนรวมถึง คริสเตียโน โรนัลโด เริ่มตั้งข้อสงสัยกับแนวทางของ มูรินโญ และปัญหาดังกล่าวยังตามมารังควานเขาเมื่อย้ายมารับงานกับ เชลซี คำรบที่ 2 โดยตอนที่โดนสั่งปลดเมื่อปี 2015 คนที่ทำงานกับนายใหญ่โปรตุกีสยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า มูรินโญ ตอนกลับมาสแตมฟอร์ด บริดจ์ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคนเดิมที่มาเหยีบเกาะอังกฤษครั้งแรก

ตั้งแต่ความสำเร็จของมูรินโญ ในช่วงต้นยุค 2000 ผู้เล่นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ มันยากที่จะหาดาวเตะอย่าง เดโก, จอห์น เทอร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด หรือ ริคาร์โก คาร์วัลโญ ในปัจจุบัน

ตอนที่ มูรินโญ มีทีมที่ดีที่สุด การคว้าชัยชนะเริ่มต้นมาจากการป้องกันที่แข็งแกร่งและเป็นระบบ การสร้างโอกาสเข้าทำกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์เล็ก ๆ น้อย ๆ ชัยชนะของเกมมักขึ้นอยู่กับผู้เล่นที่เล็งเห็นถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การเล่นลูกเซตพีชและการเล่นเกมสวนกลับที่เปี่ยมด้วยวินัย

แต่ก็เป็นไปตามวัฏจักรเกมลูกหนังที่ก้าวไปข้างหน้าในทางเทคนิค ผู้เล่นยุคนี้ได้รับการปรับปรุงให้เข้ากับเกมที่มีอำนาจเหนือกว่าแนวทางที่ มูรินโญ เคยทำ "มูรินโญ" บนรอยต่อความเปลี่ยนแปลงผ่านมุมมองกูรูบอลสเปน "มูรินโญ" บนรอยต่อความเปลี่ยนแปลงผ่านมุมมองกูรูบอลสเปน

ฆวนมา ลิโญ โค้ชชาวสเปนซึ่งตอนนี้ทำงานในญี่ปุ่นและได้รับการชื่นชมจาก เปป กวาร์ดิโอลา อย่างมาก กล่าวถึงปัญหาที่แท้จริงของบรรดาเฮดโค้ชในปัจจุบันว่าส่วนใหญ่คือมีประสบการณ์ไม่ถึง 20 ปี และมักทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ

ผู้จัดการทีมบางรายแสดงความเห็นว่า แนวทางที่ยึดมั่นของ มูรินโญ ในการมุ่งเน้นความพยายามของทีมเพื่อทำลายล้างคู่แข่งทำให้ทีมลืมเกี่ยวกับตัวตนของฝ่ายตัวเอง

ชั่วโมงนี้บรรดากุนซือรุ่นใหม่มองว่าการจ้องแต่ทำลายระบบและแนวทางการเล่นของคู่แข่งเพียงอย่างเดียวกำลังเห็นได้น้อยลงเรื่อยๆ

 

ความกลัวและความคลางแคลงใจ

ตอนรับงานที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด “มูรินโญ” ยืนกรานหนักแน่นที่จะไม่ปรับปรุงหรือเปลี่ยนแนวทางทำทีม ดึงดันที่จะใช้รูปแบบและการจัดการที่คุ้นเคยมาตลอด และสัญญาณของความแคลงใจก็เริ่มขึ้นตอนที่ รุย ฟาเรีย มือขวาซึ่งทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกันมานานตัดสินใจแยกทางกับเขา "มูรินโญ" บนรอยต่อความเปลี่ยนแปลงผ่านมุมมองกูรูบอลสเปน

ความเห็นของหลายๆคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่ ฟาเรีย อำลาตำแหน่งไป มูรินโญ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขามีอารมณ์แปรปรวนตลอดเวลา การวางรากฐานที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เต็มไปด้วยความหวาดกลัว และความไม่ไว้วางใจ บรรยากาศที่แคร์ริงตันตึงเครียดมาก มีความสับสนและความขัดแย้งเกิดขึ้นบ่อยครั้งโดย มูรินโญ ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จในอดีตที่เขายังคงยึดมั่นมาจนปัจจุบัน "มูรินโญ" บนรอยต่อความเปลี่ยนแปลงผ่านมุมมองกูรูบอลสเปน

ผู้เล่นแมนฯ ยูไนเต็ด ส่วนใหญ่อายุน้อยกว่าเขาโดยเฉลี่ย 30 ปี ไม่สามารถซึมซับกับปรัชญาและแนวทางทำทีมตามแบบฉบับของ มูรินโญ ได้เลย กุนซือผู้ผ่านความสำเร็จ 25 โทรฟีไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติของนักฟุตบอลหรือพัฒนาทีมให้มากพอที่จะรับมือกับความท้าทายจากทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี และ ลิเวอร์พูล

สิ่งที่น่าแปลกใจมากที่สุดอย่างหนึ่ง คือ ผู้จัดการที่เคยได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคของตนกลับพบว่าตัวเองต้องมาติดอยู่ในกับดักที่ตัวเองสร้างขึ้น และดูเหมือนจะไม่สามารถพลิกโฉมตัวเองได้

และไม่ใช่ครั้งแรกที่ มูรินโญ รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากบอร์ดบริหาร และพอรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับการปกป้องเขาจึงออกมาฟาดงวงฟาดงาอย่างที่เห็น

เคยมีคำเตือนจาก 2 ประธานสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งบอกกับ เอ็ด วูดเวิร์ด ว่า ไม่ควรร่วมงานกับ มูรินโญ เพราะกุนซือแดนฝอยทองเป็นคนจำพวกที่ชอบทิ้งปัญหาไว้ข้างหลัง และเมื่อความไว้วางใจระหว่าง วูดเวิร์ด กับ มูรินโญ มาถึงจุดแตกหักผู้บริหาระดับสูงของ“ปีศาจแดง”จึงได้ตระหนักถึงคำเตือนดังกล่าว

เสียงซุบซิบในแคร์ริงตันเล็ดลอดออกมาว่า บรรยากาศในสโมสรจะดีขึ้นอย่างแท้จริงในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ มูรินโญ จากไป และดูเหมือนพวกเขาจะพูดถูก

 

กลับมาทวงความสำเร็คได้หรือไม่ ?

สำหรับมูรินโญกับวลี“เดอะ สเปเชียลวัน” ยังคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา

ตอนที่ออกมาเรียกร้องให้สื่อแสดงความเคารพกับเขานั้นเป็นแค่การแสดงต่อหน้าสื่อเท่านั้น เพราะหากไม่นับความล้อมเหลวในช่วง 2-3 ปีหลัง มูรินโญ แทบจะประสบความสำเร็จในทุกเมืองที่เขาทำงานอยู่และแม้บางครั้งจะไม่บรรลุเป้าหมายเขาก็ยังได้รับเงินจำนวนมหาศาลจากค่าชดเชยต่างๆที่ทำไว้ ดังนั้น 2 ทศวรรษที่ผ่านมาเพียงพอที่จะยืนยันได้ว่ากุนซือรายนี้เก่งในสิ่งที่ทำ "มูรินโญ" บนรอยต่อความเปลี่ยนแปลงผ่านมุมมองกูรูบอลสเปน

อย่างไรก็ตามมีคนแนะนำว่ามันเป็นความเชื่อมั่นในตัวเองที่มากเกินไปที่ทำให้ มูรินโญ มองไม่เห็นความสำสัญของคนอื่น ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาวงการฟุตบอลนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่กุนซือ 3 แชมป์พรีเมียร์ลีกยังคงใช้วิธีการเดิมๆ ทั้งเรื่องการเป็นผู้นำและการจัดการทีม

คนวงในของยูไนเต็ด กล่าวว่า การไร้ความสามารถของ มูรินโญ ในการติดตามความเป็นไปนอกสนาม คือ จุดบกพร่องสำคัญส่วนหนึ่ง

เขายังคงติดอยู่กับวิธีการและรูปแบบเดิมๆ ยังคงให้ความสำคัญกับการนั่งโต๊ะแถลงข่าวทั้งที่ปัจจุบันผู้จัดการทีมหลายรายให้ความสำคัญกับจุดนี้น้อยลงเรื่อยๆ "มูรินโญ" บนรอยต่อความเปลี่ยนแปลงผ่านมุมมองกูรูบอลสเปน

มูรินโญ คล้ายจะอยู่ในช่วงที่เวลาแปรปรวน “บาลาเก” ยกคำพูดของคนที่เขาคุยด้วยว่า โรลลิง สโตนส์, เดวิด โบวี, ยู 2 ยังคงประสบความสำเร็จเพราะพวกเขากล้าที่จะเปลี่ยน กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่เพียงแค่ร้องเพลงที่โด่งดังแค่เพลงเดียว

อำนาจเป็นสิ่งที่ยากจะอธิบายและดูเหมือนเวลานี้ มูรินโญ ควรจะเอาใจใส่กับคนรอบข้างให้มากกว่าเดิม

ผู้จัดการทีมอย่าง เกรแฮม เทย์เลอร์ และ เซอร์ บ๊อบบี รอบสัน ไม่ได้ถูกจดจำแค่ในฐานะกุนซือที่ประบความสำเร็จ แต่ยังรวมถึงสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติต่อคนอื่นด้วย

การปฏิบัติตามแนวทางของอดีตยอดกุนซือที่ยกตัวอย่างมาถือว่าคุ้มค่าเมื่อถึงวันที่ต้องอำลา และในระยะยาว มูรินโญ ควรพิจารณาถึงสิ่งนี้หากยังเป็นกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้คนคิดกับเขา

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนที่ผ่านความสำเร็จมามากอย่าง มูรินโญ ต้องมาเจอกับทางแยกในอาชีพ 

ไมเคิล คลอฟิลด์ นักจิตวทิยาด้านกีฬา กล่าวว่า แม้คุณจะเป็นคนประสบความสำเร็จมามากมาย แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่อายุของคุณไม่สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งได้เหมือนเก่า คุณต้องใช้ความคิดที่รอบคอบอย่างหนักเพื่อค้นหาทางออกของปัญหาที่เผชิญอยู่

ผู้นำที่แท้จริงต้องการใครสักคนที่พร้อมบอกความจริงในสิ่งที่พวกเขามองไม่เห็น ความจริงข้อหนึ่งสำหรับ มูรินโญ คือ เขาเป็นผู้จัดการทีมที่มีคุณสมบัติพิเศษ แต่ปัญหาก็คือ เขามักไม่นำความสุขมาสู่ที่ทำงานและการทำทีมของผู้จัดการทีมรายนี้ดูจะไม่เป็นไปตามแนวทางที่ยั่งยืนเท่าไหร่ "มูรินโญ" บนรอยต่อความเปลี่ยนแปลงผ่านมุมมองกูรูบอลสเปน

สิ่งที่ยากที่สุดคือการยอมรับว่าที่ผ่านมามันอาจไม่ถูกต้อง แต่ความรอบคอบและหลักแหลมของผู้ชายที่สร้างตัวเองขึ้นมาอย่าง มูรินโญ น่าจะค้นพบแนวทางใหม่ได้ไม่ยาก

บทบาทต่อไปของกุนซือซึ่งได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลกอาจไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การกลับมาทวงควาสสำเร็จให้ได้อีกครั้ง เพราะอีกสิ่งที่จะถูกจับตามองเป็นพิเศษ คือ ท่าทีและการแสดงออกของกุนซือมาดโอหังจะเปลี่ยนไปอย่างไร

“การยอมรับความอ่อนแอของตัวเองในบางครั้งอาจนำมาซึ่งความแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา” คลอฟิลด์ กล่าวเสริม “บางครั้งผู้นำต้องออกมาแสดงตัวและพูดว่าฉันได้ทำผิดพลาดไปแล้วและฉันกำลังเรียนรู้จากมัน”

 

เรียบเรียงโดย : พชร นาคจู

ข้อมูล : https://www.bbc.com/sport/football/47010477

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ