แฟนเวียดนามถล่มไอจี"ทริสตอง โด"

    โดยทีมชาติไทย พ่ายต่อ ทีมชาติจีน 1-2 ขณะที่ เวียดนาม คือตัวแทนหนึ่งเดียวของอาเซียน ที่ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในรายการดังกล่าวได้ หลังดวลจุดโทษ ชนะ จอร์แดน เข้าไปพบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น ในรอบต่อไป

     หลังจากที่ "ช้างศึก" ตกรอบ ทริสตอง โด ที่มีคุณปู่เป็นชาวเวียดนาม แต่อพยพมาอยู่เมืองไทย และมีครอบครัวที่ประเทศไทย ก่อนย้ายไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ทำให้ตัวเจ้าตัวสามารถเลือกลงเล่นให้ทีมชาติได้ถึง 3 ชาติ ประกอบด้วย ฝรั่งเศส เวียดนาม แต่สุดท้ายเขาเลือกเล่นกับ ทีมชาติไทย ได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวถึงความภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติ

     ซึ่งหลังจากนั้นได้มีแฟนบอลเวียดนามบางส่วนที่ไม่พอใจการโพสต์ของ โด เพราะมองว่าเจ้าตัวควรเลือกเล่นให้ "ดาวแดง" มากกว่า และเข้ามาคอมเมนท์ด้วยข้อความที่รุนแรง เช่น "ทริสตอง คุณรู้สึกอย่างไรบ้างหลังคุณปฏิเสธเลือดเนื้อของคุณ ฉันคิดว่าคุณคงจะมีความสุขซินะ" เป็นต้น

     ทว่าล่าสุดฟูลแบ็คจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ออกมาอธิบายในเรื่องนี้ว่า "ผมแค่อยากจะพูดคุยเรื่องนี้ให้ทุกคนเข้าใจ ผมมีความภูมิใจที่คุณปู่ของผมเป็นคนเวียดนาม และเขาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยมาตลอด ผมมีความภาคภูมิใจเหมือนกับคุณพ่อของผมที่เขาเกิดในประเทศไทย และได้รับการเลี้ยงดูอยู่ในประเทศไทยมาตลอด พอๆ กันกับที่ผมมีความภาคภูมิใจที่คุณแม่ของผมเป็นคนฝรั่งเศส ผมูมิใจที่มีส่วนหนึ่งในสังคมปัจจุบัน ที่มีหลายเชื้อชาติ หลายวัฒนธรรม เหมือนกับคนหลายๆ คนที่อยู่บนโลกใบนี้มาจนถึงปัจจุบัน การที่มีหลายเชื้อชาติ หลายวัฒนธรรมนั้นสร้างให้ผมเจริญเติบโตเป็นผมคนนี้ในวันนี้ได้ ซึ่งผมก็จะมุ่งมั่นและไม่ขอเปลี่ยนแปลงอะไร ผมได้มีสัญญาติ/เชื้อชาติไทย เพราะว่าคุณพ่อของผมได้เกิดที่เมืองไทย เรียนในโรงเรียนไทย และพูดได้ภาษาเดียวคือภาษาไทย คุณพ่อของผมถูกเลี้ยงดูและเติบโตในประเทศไทยมาตลอด และเขาก็ได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ประเทศฝรั่งเศส คุณพ่อของผมแค่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนประเทศเวียดนามตอนที่เขาโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทางเลือกนี้ก็ไม่สามารภทำให้พื้นเพของครอบครัวผมเปลี่ยนไป หรือปฏิเสธมันได้ การกีฬาฟุตบอลหรือการแข่งขันทั้งหลาย เช่น เอเชียนคัพ ครั้งนี้ มันทำให้คนรักการกีฬาฟุตบอลหลายๆ คน หลายๆ ประเทศมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ผมอยากพูดข้อความนี้กับคนกลุ่มหนึ่งที่แสดงความเกลียดชัง และความไม่สุภาพออกมา เพียงเพราะว่าข่าวที่กุขึ้นมาหรือข่าวนั้นไม่เป็นความจริง แต่คนกลุ่มนั้นเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ ผมดีใจกับทีมเวียดนาม และผมก็ดีใจด้วยกับฟุตบอลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ่งที่ทำให้ทีมจากอาเซียนทุกทีมแข็งแกร่งขึ้น เราทุกคนควรเป็นกำลังใจให้กันและกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน แล้วเราทีมอาเซียนทุกทีมจะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก เรามาร่วมมือ ร่วมความสามัคคีและความเป็นหนึ่งเดียวกันเถิด เปิดความคิดของเราให้กว้างไกล นี่คือปี 2019 แล้ว (ปีไทย 2562)"