ข่าว

จากดาวเด่น"ฟุตบอลโลก"สู่ตัวประกอบแห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฟุตบอลโลก 2018 จบลงไปนานแล้ว แต่เรื่องราววันนี้อาจมีกลิ่นอาย"เวิลด์ คัพ ฉบับรัสเซีย"ติดมาอยู่บ้าง

โดยเฉพาะกับสตาร์ดัง"หมีขาว"ที่แจ้งเกิดเต็มตัวต่อหน้าต่อตาแฟนลูกหนังบนแผ่นดินเกิดของตัวเอง

ย้อนกลับไปสักประมาณเดือนกรกฎาคมของปีที่แล้ว ชื่อ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน จอมทัพอนาคตไกลรัสเซียถูกนำมาพูดถึงไม่ขาดปาก เพราะเพียงแค่เกมเปิดสนามฟุตบอลโลก 2018 ที่บ้านเกิดตัวเองรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ มิดฟิลด์ วัย 22 ปี ก็ฝากผลงาน 2 แอสซิสต์ กับ สเต็ปปั่นฟรีคิกขั้นเทพเป็นประตูปิดกล่องต้อน ซาอุดิอาระเบีย 5-0 จนสร้างขวัญกำลังใจให้ทัพ"หมีขาว"สานต่อผลงานจนเซอร์ไพรส์ทะลุถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ

จากดาวเด่น"ฟุตบอลโลก"สู่ตัวประกอบแห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส จากดาวเด่น"ฟุตบอลโลก"สู่ตัวประกอบแห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส แน่นอนเวลานั้นหลังฟุตบอลโลกปิดฉากลง ดาวเตะสายเลือดใหม่ที่ดีที่สุดของรัสเซียตกเป็นเป้าสนใจจากหลายทีมดังยุโรปในฐานะสตาร์ดวงใหม่ที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากทัวร์นาเมนต์ลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

 

ปลายทางที่เลือก

ทีมอย่าง เชลซี, อาร์เซนอล และ ยูเวนตุส คือ 3 ยักษ์ใหญ่ที่พยายยามรุมแย่งตัวเพลย์เมกเกอร์รายนี้แต่สุดท้ายหวยไปออกที่ อาแอส โมนาโก แห่งศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงถ่ายเลือดใหม่

โกโลวิน ผละจากซีเอสเคเอ มอสโกว์ ในพรีเมีรย์ลีก รัสเซีย มาอยู่กับ โมนาโก ด้วยสัญญา 5 ปี แม้จะไม่มีการเปิดเผยค่าตัวอย่างเป็นทางการแต่สื่อต่างประเทศคาดว่าค่าตัวดาวเด่นหน้ามนต์จากเวิลด์ คัพตกอยู่ที่ราวๆ 30 ล้านยูโร จากดาวเด่น"ฟุตบอลโลก"สู่ตัวประกอบแห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส การตัดสินใจย้ายทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาหลายฝ่ายมั่นใจว่านี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุดสำหรับนักเตะดาวรุ่งที่ยังต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพิ่มอีกสักระยะ ส่วนฝั่ง โมนาโก ก็อย่างที่ทราบกันดี ที่นี่มีดาวรุ่งวัยคะนองหลายรายที่มาขึ้นทะเบียนแจ้งเกิดที่นี่ เอาเพียงแค่ชื่อ คิลิยัน เอ็มบัปเป ก็บ่งบอกได้ดีว่าทีมงานของพวกเขาเปี่ยมฝีมือแค่ไหน

ด้วยเหตุผลข้างต้นหลังวันเปิดตัว โกโลวิน พร้อมเสื้อเบอร์ 17 ประโยคที่ว่าโมนาโกได้เพชรเม็ดงามมาครอบครองอีกแล้วจึงเกลื่อนกลาดเต็มหน้าสื่อต่างๆอยู่พักใหญ่

“ผมมีความสุขมากที่ได้เซ็นสัญญากับโมนาโก นี่คือความท้าทายใหม่ที่มาพร้อมกับความทะเยอทะยานของผม ผมกำลังรอที่จะพบทีมสตาฟฟ์และเพื่อนร่วมทีมใหม่” บทสัมภาษณ์ในวันเปิดตัวของ โกโลวิน ซึ่งชั่วโมงนี้หากมีใครไปถามถึงความทะเยอทะยาน หรือ เป้าหมายใดๆ คำตอบและน้ำเสียงอาจจะฟังไม่ลื่นหูเหมือนเดิม

 

ยิงไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว

เป็นความจริงที่ว่าตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ของลีก เอิง ฝรั่งเศส มาร่วมๆ 6 เดือน “โกโลวิน” ยังยิงประตูให้ต้นสังกัดใหม่ไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว โดยตลอด 13 นัดในลีกที่ผ่านมา มีเพียงผลงาน 2 แอสซิสต์ เท่านั้นที่จอมทัพสายเลือดใหม่ของ"หมีขาว"ฝากเอาไว้ แถมที่แย่ไปกว่านั้นคะแนนความสามารถรวมเฉลี่ยจาก"ฮูสกอร์" (Whoscored) เว็บไซต์สถิติกีฬาชื่อดัง ได้ประเมินไว้ที่ 6.23 คะแนน สวนทางกับตอนฟุตบอลโลกที่ตลอด 4 นัด ค่าเฉลี่ยผลงานพุ่งสูงถึง 7.50 คะแนน และหากลงลึกไปกว่านั้นตลอด 16 นัดนับรวมทุกรายการมีแค่เกมเดียวเท่านั้นที่ดาวเด่นจากฟุตบอลโลกรายนี้ได้คะแนนความสามารถเกิน 7.0 คะแนน ซึ่งเกิดขึ้นในแมตช์ที่ โมนาโก บุกไปเสมอ คลับ บรูช 1-1 ของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 จากดาวเด่น"ฟุตบอลโลก"สู่ตัวประกอบแห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส จากดาวเด่น"ฟุตบอลโลก"สู่ตัวประกอบแห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส โดย โกโลวิน เป็นคนผ่านบอลเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 จากการพาบอลควบตะบึงตรงบริเวณเกือบๆ กึ่งกลางสนามทะลุถึงหน้าเขตโทษแล้วจ่ายตัดแนวรับคู่แข่งให้ มุสซา ซิลลา หัวหอกของทีมหลุดเข้าไปยิงสวนตัวนายทวาร จากดาวเด่น"ฟุตบอลโลก"สู่ตัวประกอบแห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นนั้นก็ผ่านมาเกือบๆจะ 3 เดือนเต็มเข้าไปแล้ว นับตั้งแต่จบเกมรอบแบ่งกลุ่มจนตอนนี้เวทียูซีแอลกำลังรอการลงสนามในรอบน็อคเอาท์กันแล้ว แต่ โกโลวิน ก็ยังไม่มีประตูหรือแอสซิสต์เพิ่มเติมแต่อย่างใด และที่แย่ไปกว่านั้นหนีไม่พ้สถานการณ์ของ โมนาโก ต้นสังกัดที่นับตั้งแต่แต่งตั้ง เธียรี อองรี เข้ามารับตำแหน่งกุนซือแทนที่ของ เลโอนาร์โด ชาร์ดิม นายใหญ่คนเก่า เมื่อเดืนตุลาคมปีที่แล้ว มาถึงตอนนี้ ปรากฏว่า เจ้าของแชมป์ลีก เอิง 1 ฤดูกาลก่อนหน้านั้นเพิ่งจะคว้าชัยไปได้แค่ 2 เกม จนหล่นไปรั้งรองบ๊วยของตารางและสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นสูงทีเดียว

 

พลาดซ้ำๆ ทำมั่นใจ หาย

ถึงตรงนี้อะไรๆก็ดูไม่เป็นใจกับดาวจรัสแสงฟุตบอลโลกเลยแม้แต่น้อย แต่เพื่อความยุติธรรมการหยิบยกเรื่องอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าจนทำให้พลาดลงสนามไปถึง 1 เดือนเต็มในช่วงปิดฤดูกาลและเกมบางส่วนในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก็น่าจะพอทำให้เข้าใจเรื่องผลงานที่ตกลงไปได้บ้าง จากดาวเด่น"ฟุตบอลโลก"สู่ตัวประกอบแห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส นับตั้งแต่เกมประเดิมสนามนัดแรกที่ โมนาโก เปิดรังเสมอ นีมส์ 1-1 เมื่อช่วงปลายเดือนกันยานที่ผ่านมา กระทั่งมาถึงเวลานี้ ภาพจำของ โกโลวิน กับต้นสังกัดใหม่มีแค่ ใบแดง เกมพ่าย โอลิมปิก ลียง 0-3 เดือนธันวาคมปีที่แล้ว กับการพลาดโอกาสทองนัดเสมอ โอลิมปิก มาร์กเซย 1-1 ซึ่งเพลย์เมกเกอร์หมีขาวได้โอกาสวิ่งเข้าฮอสจ่อๆ หน้าปากประตู แต่ดันแปบอลหลุดกรอบเหลือเชื่อ โดยนอกจากจะเป็นการพลาดโอกาสพาทีมพลิกแซงนำแล้ว ชอตหมูหกดังกล่าวยังส่งผลต่อความมั่นใจต่ออดีตจอมทัพเนื้อหอมไม่น้อยทีเดียว เพราะมันเป็นการพลาดในเกมคืนสนามหลังพ้นโทษแบนจากเกมกับลียงนั่นเอง

จากฟอร์มเปล่งปลั่งกับรัสเซียในฟุตบอลโลกต่อมากลายเป็นที่ต้องตาต้องใจของหลายทีมยักษ์ใหญ่ เวลาผ่านไป 6-7 เดือน จากคนเคยรับบทพระเอกของทีมมาเวลานี้ โกโลวิน กำลงจะกลายสภาพเป็นตัวประกอบประจำลีก เอิงไปเสียแล้ว

 

ทางออกของปัญหา(ที่ต้องเลือก)

ถึง โกโลวิน จะไม่ใช่ผู้เล่นรายเดียวที่เค้นฟอร์มไม่ออกเพราะยังมีชื่อของสตาร์อย่าง สเตฟาน โยเวติช, ฌิบริล ซิดิเบ และ นาสเซอร์ ชาดลี ที่ย้ายมาพร้อมกับเขาเมื่อตลาดช่วงซัมเมอร์ก็ยังควานหาฟอร์มเก่งไม่เจอเช่นกัน แต่สำหรับอดีตแข้งซีเอสเคเอ มอสโกว์ ค่อนข้างจะแตกต่างออกไปในเรื่องความกดดันซึ่งเป็นผลพวงมาจากการถูกยกให้เป็นสตาร์เด่นประจำเวิลด์ คัพ 2018 ที่ผ่านมา

การเริ่มต้นที่ย่ำแย่กับต้นสังกัดใหม่ของ โกโลวิน ทำให้มีข่าวว่านักเตะอาจจะถูกปล่อยตัวกลับไปเรียกความมั่นใจที่บ้านเกิดกับ เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในช่วงที่ตลาดนักเตะเดือนมกราคมกำลังเปิดทำการอยู่ ณ ตอนนี้ จากดาวเด่น"ฟุตบอลโลก"สู่ตัวประกอบแห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามสำหรับนักเตะที่ถูกดึงมาร่วมทีมในปีแรกไม่แปลกหากพวกเขาจะต้องเผชิญกับปัญหาการปรับตัว บางรายมาปีแรกไม่เปรี้ยงต้องรอซีซั่นถัดมา บางรายฟอร์มตกหนักแต่พอเจอจุดเปลี่ยนก็ผลิตฟอร์มติดลมบนไปเลยก็มี

 

เช่นเดียวกับสถานการณ์ของ "โกโลวิน" ที่กำลังกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกอยู่ในตอนนี้ที่หากให้เลือกระหว่างยกธงขาวแล้วย้ายกลับไปยังลีกบ้านเกิดกับอยู่สู้ต่อในช่วงอีกแค่ 2-3 เดือนจะจบฤดูกาล

เชื่อว่าลึกๆ ชอยซ์สุดท้ายน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดแม้จะไม่มีใครยืนยันได้ว่ามันถูกต้องหรือเปล่าก็ตาม

 

 

เรียบเรียง : พชร นาคจู

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ