5แข้งดาวรุ่งลุ้นรางวัล"โกลเดนบอย 2018"

    โดยเป็นรางวัลที่จะมอบให้แข้งที่มีอายุไม่เกิน 21 ปี (นับเฉพาะผู้เล่นที่เกิดหลังวันที่ 1 ม.ค. 1996) ซึ่งลงเล่นในลีกของยุโรป และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดในปีที่ผ่านมา

     ประกอบด้วย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล), ปาทริค คูโตรเน (เอซี มิลาน), มัตไธจ์ส เดอ ลิกท์ (อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม), จัสติน ไคลเวิร์ต (อาแอส โรมา) และ วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) โดยไร้ชื่อของ คีลิยัน เอ็มบัปเป กองหน้า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และเจ้าของรางวัลดังกล่าวเมื่อปีก่อนแบบเซอร์ไพร์ส

     สำหรับรางวัลนี้ เริ่มต้นมีขึ้นในปี 2003 โดยหนังสือพิมพ์ “ตุ๊ตโต้สปอร์ต” สื่อกีฬาชื่อดังจากอิตาลี เป็นผู้ก่อตั้ง โดยได้รับการร่วมมือในการโหวตให้คะแนนจากสื่อดังทั่วโลก ทั้ง ฟรองช์ ฟุตบอล (ฝรั่งเศส), มาร์กา (สเปน) สปอร์ต เอ็กซ์เพรส (รัสเซีย), เดอ เทเลกราฟ (เนเธอร์แลนด์), เดอะ ไทมส์ (สหราชอาณาจักร), บิลด์ (เยอรมัน) และอา โบลา (โปรตุเกส) เป็นต้น

     ส่วนเกณฑ์การให้คะแนนในรอบสุดท้ายนั้น สำนักข่าวแต่ละแห่งจะต้องเลือกนักเตะ 5 คนสุดท้าย จาก 40 คน และให้คะแนนไล่ไปตามลำดับ คือ อันดับ 1 ได้ 10 คะแนน, อันดับ 2 ได้ 7 คะแนน, อันดับ 3 ได้ 5 คะแนน, อันดับ 4 ได้ 3 คะแนน และ อันดับ 5 ได้ 1 คะแนน ซึ่งหลังจากนั้นจะนำคะแนนจากทุกสำนักมารวมกันเพื่อหาผู้ชนะต่อไป

     หลังจากการประกาศ 5 ตัวเต็งที่มีสิทธิ์ซิวรางวัล โกลเดน บอย 2018 ทำให้ทางทีมข่าวกีฬา “คม ชัด ลึก” จะพาไปส่องผลงานของแข้งทั้งหมดว่าใครสมควรจะหยิบโทรฟีอันทรงเกียรตินี้ไปครอง

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)
     ฟูลแบ็คดาวรุ่งจากเมอร์ซีไซด์รายนี้ ถือเป็นนักเตะที่ถือกำเนิดจากการปลุกปั้นของอคาเดมีทีม “หงส์แดง” มาตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งเจ้าตัวมีอายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น และตลอดเวลาที่เขาอยู่กับทีมเยาวชน อาร์โนลด์ ก็โชว์ฟอร์มได้ดีมาโดยตลอดถึงขนาดนี้ สตีเวน เจอร์ราร์ด กองกลางระดับตำนานของทีม เขียนชื่นชมเจ้าหนูรายนี้ว่าจะต้องเป็นแข้งที่มีอนาคตสดใสอย่างแน่นอนในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองเมื่อปี 2015
     จนกระทั่งในปี 2016 เจ้าตัวได้รับโอกาสจาก แบรนเดน รอดเจอร์ส ที่ผลักดันให้ขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น ซึ่งด้วยความที่เจ้าตัวมีความนิ่งเกินอายุ รวมถึงมีจุดเด่นเรื่องการเติมเกมรุกแบบเต็มสูบ ทำให้เขาได้รับโอกาสได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง
     มาถึงในฤดูกาล 2017-18 นาธาเนียล ไคลน์ แบ็คขวาตัวจริงได้รับบาดเจ็บยาว ทำให้ เจอร์เกน คลอปป์ ดันดาวเตะวัย 20 ปีลงในตำแหน่งดังกล่าวแทน และเขาก็ไม่ทำให้เทรนเนอร์ชาวเยอรมนีผิดหวังด้วยการพาทีมคว้ารองแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
     ขณะที่ซีซั่นนี้ เขาก็ยังทำผลงานได้ตามมาตรฐาน และลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล ในทีมชุดใหญ่เกิน 50 นัด นอกจากนั้นด้วยฟอร์มดังที่โดดเด่นทำให้ ซีไออีเอส บริษัทรวมสถิติลูกหนังระดับโลกคาดการณ์ว่าในอนาคตเขาจะกลายเป็นนักเตะในตำแหน่งแบ็คที่มีค่าตัวแพงที่สุดของโลก

ปาทริค คูโตรเน (เอซี มิลาน)
     เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงหลังๆ เอซี มิลาน เน้นนโยบายในการทุ่มงบเพื่อซื้อนักเตะมาร่วมทัพ เห็นได้ชัดจาก 2 ซีซั่นที่ผ่านมาซึ่งพวกเขาใช้เงินไปเกือบ 300 ล้านยูโร (ราว 1.1 หมื่นล้านบาท)
    ถึงกระนั้นมีแข้งดาวรุ่งจากทีมเยาวชนอยู่รายหนึ่ง ที่สอดแทรกขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วเคียงข้างกับแข้งระดับซูเปอร์สตาร์นั่นก็คือ ปาทริค คูโตรเน ดาวยิงวัย 20 ปี
     จุดเด่นที่สำคัญของกองหน้าอนาคตไกลรายนี้ คือความกระหาย ซึ่งเขาทุ่มเทเพื่อทีมเสมอเวลาที่ได้รับโอกาสลงสนาม นอกจากนั้นเจ้าตัวยังมีร่างกายที่แข็งแกร่งสมกับการเป็นกองหน้าตัวเป้า รวมถึงการลงมาเชื่อมเกมด้วยตัวเองอีกด้วย จนได้รับการเปรียบเทียบว่ามีสไตล์การเล่นคล้ายคลึงกับ ฟิลิปโป อินซากี อดีตหัวหอกชื่อดังเลยทีเดียว
     ด้วยสถิติยิง 12 ลูกจาก 39 นัด ให้กับ “ปีศาจแดง” ทำให้ขณะนี้เขาได้รับความไว้วางใจจาก เจนนาโร กัตตูโซ ให้ลงสนามเป็นตัวจริงต่อเนื่อง และติดทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อย

มัตไธจ์ส เดอ ลิกท์ (อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม)
     หากจะพูดถึงปราการหลังตัวกลางที่เนื้อหอมที่สุดในยุโรปในขณะนี้ต้องมีชื่อของเซ็นเตอร์ฮาลฟ์จาก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม รายนี้อย่างแน่นอน เพราะเขาได้รับความสนใจจากหลายทีมดังของยุโรป ทั้ง บาร์เซโลนา, ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
     หลังการย้ายออกไปของ ดาวินซอน ซานเชซ กองหลังตัวหลัก ที่ไปอยู่กับ สเปอร์ส เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ทำให้ เดอ ลิกท์ ที่ถูกดันขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2016 ได้รับโอกาสให้ลงสนามในตำแหน่งดังกล่าวแทนที่แบบเต็มตัว ซึ่งนอกจากกองหลังเจ้าของส่วนสูง 187 เซ็นติเมตรรายนี้ จะมีทีเด็ดจากลูกกลางอากาศแล้ว เจ้าตัวยังสามารถเปิดเกมจากแดนหลังไปแดนหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เขาได้รับการจับตามองจากหลายทีมยักษ์ใหญ่มาโดยตลอด
     ด้วยฟอร์มอันโดดเด่น ส่งผลให้ เดอ ลิกท์ ติดทีมชาติฮอลแลนด์ชุดใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อย และได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมากในการจับคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กองหลัง ลิเวอร์พูล ว่าเป็นคู่เซ็นเตอร์ในฝัน เหตุช่วยให้ “กังหันสีส้ม” กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งซึ่งล่าสุดคือการนำทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของฟุตบอลยูฟ่า เนชันส์ ลีก ด้วยการเอาชนะ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ทำให้ไม่น่าแปลกใจว่าเจ้าตัวจะติดโผท้าชิงรางวัล โกลเดน บอย ประจำปีนี้

จัสติน ไคลเวิร์ต (อาแอส โรมา)
     สำหรับ ไคลเวิร์ต คือหนึ่งในแข้งดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในช่วง 2-3 ปี เนื่องจากผลงานที่ยอดเยี่ยมเกินอายุกับ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม หลังถูกเรียกขึ้นไปติดทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น
     นอกจากนั้นจากการที่เขาเป็นลูกชายของ แพทริค ไคลเวิร์ต ตำนานกองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ ทำให้เขาได้รับความสนใจมากขึ้นเป็น 2 เท่า ทว่าเจ้าตัวไม่ได้กดดันในการถูกนำไปเปรียบเทียบกับคุณพ่อแต่อย่างใด พร้อมระบุว่า “ผมชอบตอนที่ผมถูกเปรียบเทียบกับพ่อเขามีช่วงเวลาค้าแข้งที่ยอดเยี่ยม และผมหวังว่าจะเป็นแบบนั้นบ้าง หลายคนคาดหวังในตัวผม แต่ผมไม่รู้สึกกดดันอะไร เพราะผมแค่รักที่จะเล่นฟุตบอล”
ไคลเวิร์ต จูเนียร์ส คือแข้งที่มีทักษะฟุตบอลล้นเหลือ ทั้งการไปกับบอลที่มีความรวดเร็ว และหากองหลังมารับมือด้วยยาก รวมถึงจังหวะส่องประตูที่ค่อนข้างเฉียบคมทั้งๆที่ไม่ใช่กองหน้าตัวเป้าแต่อย่างใด เป็นเหตุให้ ชูเซ มูรินโญ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงท่าที่อย่างชัดเจนว่าต้องการตัวแข้งวัย 19 ปีรายนี้ไปร่วมทีม
     อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้ว ไคลเวิร์ต เลือกที่จะย้ายไปอยู่กับ โรมา ยักษ์ใหญ่ในศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี และหนึ่งในทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องการปั้นผู้เล่นดาวรุ่ง จากการชักชวนของ ฟรานเชสโก ต็อตติ ด้วยค่าตัว 18.75 ล้านยูโร (ราว 691 ล้านบาท) ซึ่งขณะนี้เขาลงสนามให้กับต้นสังกัดใหม่ไปแล้ว 5 นัดด้วยกัน

วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด)
     เชื่อว่าก่อนที่ “ราชันชุดขาว” จะเซ็นสัญญากับดาวเตะผู้นี้ หลายคนคงยังไม่คุ้นชื่อกับเจ้าตัว รวมถึงมีเครื่องหมายคำถามว่าเหตุใด “โลส บลังโกส” จึงยอมทุ่มเงินกว่า 46 ล้านยูโร (ราว 1.69 พันล้านบาท) ในการดึงตัวแข้งโนเนมที่ขณะนั้นมีอายุเพียง 16 ปีมาร่วมทีม
สำหรับ วินิซิอุส โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับทีมชาติบราซิลชุดยู-17 ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอินเดีย รวมถึงกับ ฟลาเมงโก อดีตต้นสังกัดที่เจ้าตัวกดไป 7 ประตูจากการลงสนาม 37 นัดให้กับทีมชุดใหญ่
     ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ดาวเตะวัย 18 ปีจะขึ้นมายึดตัวจริงในทีมที่มีแต่ซูเปอร์สตาร์อย่าง เรอัล มาดริด แต่ไม่ใช่กับ วินิซิอุส ซึ่งมีคำนิยามในการเล่นว่า รวดเร็ว และกล้าเล่นเกินอายุ เพราะในปัจจุบันเขาคือหนึ่งในแนวรุกคนโปรดของ ซานติอาโก โซลารี และสามารถประเดิมประตูให้กับทีมใหม่ได้แล้วในเกมเอาชนะ เรอัล บายาโดลิด เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา และยังมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกมายมายในถิ่น ซานติอาร์โก เบร์นาเบว

      ทั้งหมดนี้คือ 5 ผู้เล่นดาวรุ่งที่ติดโผลุ้นรางวัล โกลเดน บอย 2018 ซึ่งสุดท้ายแล้วแข้งคนใดจะคว้ารางวัลดังกล่าวไปต้องมาติดตามในวันที่ 17 ธ.ค.ที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี