"โลเต้"โวพารักบี้ไทยไปโอลิมปิก

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่โรงเรียนวชิราวุธฯ "บิ๊กต้น" พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีการลงนามเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการในการจ้าง "โลเต้ ไรคาบูร่า" อดีตนักรักบี้ของทีมออลแบล็ค จากประเทศนิวซีแลนด์ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยคนใหม่ประเภทรักบี้ 7 คน เพื่อก้าวไปสู่การคว้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ และการคว้าตั๋วไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

พ.ต.ท.กุลธน เปิดเผยว่า นับเป็นนิมิตรหมายใหม่ที่ดีของสมาคมฯ ที่ได้ยอดโค้ชจากทีมออลแบล็คมาเป็นเฮดโค้ชให้ในนามทีมชาติไทย โดย "โลเต้" จะมาดูแลและพัฒนาทีมรักบี้ 7 คนทีมชายและหญิงทั้งระบบ ตั้งแต่เบสิกพื้นฐาน, เทคนิค และ จินตนาการด้านต่างๆ ซึ่งทำอย่างไรให้นักกีฬามีความสุขและสนุกกับกีฬาชนิดนี้ เพราะด้วยศักยภาพของนักกีฬาไทยที่มีอยู่ โดยเฉพาะทีมหญิงน่าจะมีโอกาสไปได้ไกล 

ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้ให้นโยบายและแนวทางในการทำงานกับ โลเต้ เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ทีมรักบี้ชายจะต้องคว้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ในปีหน้า ส่วนทีมหญิงจะต้องผ่านการควอลิฟายไปโตเกียวเกมส์ 2020 ให้ได้ สำหรับสัญญาจะเป็นแบบปีต่อปีค่าเหนื่อยให้เดือนละ 150,000 บาทแบบฟูลไทม์เต็มที่  ตัวเองเชื่อมั่นว่า ด้วยความรู้และความสามารถของ โลเต้ ที่มีอยู่ ซึ่งเคยผ่านการแข่งขันระดับชิงแชมป์โลก และ เวิลด์ซีรีย์ มาแล้ว จะช่วยนำพาทีมรักบี้ไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป โดย โลเต้ จะเริ่มงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธ.ค.นี้

ขณะที่ โลเต้ เฮดโค้ชทีมชาติไทยป้ายแดงคนใหม่วัย 35 ปีได้กล่าวว่า รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากที่ได้เข้ามาร่วมงานกับสมาคมรักบี้ไทย ที่ผ่านมาได้ศึกษาข้อมูลต่างๆมาพอสมควร โดยเฉพาะสรีระและรูปร่างของนักรักบี้ไทยซึ่งตัวไม่ใหญ่มากนัก ดังนั้นจะต้องมีความแข็งแกร่งและคล่องตัวสูง เพื่อเป็นจุดเด่นเวลาเจอกับคู่แข่งที่สูงใหญ่กว่า ส่วนเป้าหมายของสมาคมฯที่อยากให้ตัวเองพาทีมหญิงไปสู่การเข้ารอบสุดท้ายกีฬาโอลิมปิกเกมส์นั้น แน่นอนว่า มันเป็นงานอะไรที่ท้าทายความสามารถตัวเองอย่างยิ่ง ขอเวลาได้ศึกษาและคลุกคลีอยู่กับนักกีฬาสักพัก รวมไปถึงการได้ถ่ายทอดความรู้ให้ทั้ง เบสิก, เทคนิค และ รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ เชื่อว่า เป้าหมาย พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ วางไว้จะไม่เกินความจริง เนื่องจากศักยภาพของทีมรักบี้หญิงมีดีพอที่จะไปถึงจุดนั้นได้ แต่ระหว่างทางที่จะเดินทางไปถึงนั้นจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีและองค์ประกอบคอยสนับสนุนเต็มที่ ตนมั่นใจว่า หลังจากได้เริ่มทำงานอย่างจริงจังในเดือนธันวาคมนี้แล้ว ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น  ส่วนตัวต้องขอขอบคุณที่สมาคมรักบี้ไทยให้โอกาสและไว้วางใจมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนในครั้งนี้