เรือใบสีฟ้า ที่ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ของศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีกซีซั่นนี้ มีอันต้องพลาดท่าแพ้คาบ้านตั้งแต่ไก่โห่
หลังเล่นที่เอติฮัด สเตเดี้ยม สังเวียนเหย้า ถูกทีมจากเมืองน้ำหอมอย่างโอลิมปิก ลียงบุกมากำราบได้ถึงถิ่นที่สกอร์ 2-1
เกมนัดแรกของกลุ่ม เอฟ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของโอลิมปิก ลียง
เจ้าถิ่นไม่มีกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยืนคอยกำกับเกมอยู่ข้างสนามเนื่องจากติดโทษแบน เจ้าตัวทำได้แค่นั่งลุ้นลูกทีมอยู่บนอัฒจันทร์ โดยเจ้าถิ่นต้องให้มิเกล อาร์เตต้า ผู้ช่วยเป็นคนสั่งการอยู่ข้างสนามแทน เกมนี้เจ้าถิ่นจัดแนวรุกทั้งดาบิด ซิลบา , แบร์นาร์โด้ ซิลวา , ราฮีม สเตอร์ลิง รวมถึงกาเบรียล เชซุส ลงสนามอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
ขณะที่ฝั่งทีมเยือนของกุนซือบรูโน่ เชเนซิโอ มีตัวชูโรงนำโดยกัปตันทีมนาบิล เฟคีร์ ห้องเครื่องดีกรีแชมป์โลกและเมมฟิส เดอปาย ปีกความเร็วสูงเป็นตัวความหวังในแนวรุก
เปิดฉากขึ้นมา เป็นเจ้าบ้านที่เป็นฝ่ายครองบอลพยายามที่จะเปิดเกมรุกเข้าใส่ตามฟอร์ม แต่ทว่ากลับเจอทีเด็ดของผู้มาเยือนที่มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนถึง 2-0 เริ่มจากผลงานของ แม็กซ์เวลล์ กอร์กเน่ต์นาที 26 และลูกยิงไกลสุดสวยของนาบิล เฟคีร์ นาที 43
แม้ว่าครึ่งหลังเจ้าบ้านจะพยายามเร่งเครื่องและมาได้ประตูตีไข่แตก 1-2 จากการยิงของแบร์นาร์โด้ ซิลวา ในนาที 67 แต่ก็ทำได้ดีที่สุดเพียงเท่านี้ ทำให้ซิตี้เปิดหัวอย่างสุดบู่ และจบด้วยความพ่ายแพ้เป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันในฟุตบอลยุโรป
นี่คือประเด็นที่น่าสนใจหลังเกมนี้
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปราชัยในฟุตบอลยุโรปเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันแล้วนะครับ และเป็นทีมแรกของอังกฤษด้วย ที่พ่ายแพ้รายการนี้ติดต่อกันมากสุดถึง 4 นัด ( 3 นัดก่อนหน้านี้ แพ้บาเซิ่ล 1-2 รอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และแพ้ลิเวอร์พูลไป-กลับ รอบ 8 ทีมสุดท้ายที่สกอร์ 0-3 และ 1-2 ตามลำดับ)
- ตรงกันข้าม โอลิมปิก ลียง กลายเป็นทีมจากฝรั่งเศสทีมแรก ที่สามารถบุกมาคว้าชัยเหนือแมนฯ ซิตี้ ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม
-จะสั่งเกตว่า 2 ประตูที่แมนฯ ซิตี้เสียไปนั้น จุดเริ่มต้นมาจากการที่แฟร์นันดินโญ่ มิดฟิลด์ของทีมเสียบอลกลางสนาม 2 ครั้ง ก่อนถูกทีมเยือนจากแดนน้ำหอม ตัดบอลสวนกลับ และลงโทษเปลี่ยนเป็นประตูได้ทั้ง 2 ครั้ง ถือเป็น 1 เกมที่น่าผิดหวังของกองกลางทีมชาติบราซิลรายนี้
-นาบิล เฟคีร์ กองกลางตัวรุกกัปตันทีมโอลิมปิก ลียง นอกจากจะยิงประตูนอกกรอบเข้าไปอย่างสุดสวยแล้ว เขายังเป็นคนแอสซิสต์ให้กับแม็กซ์เวลล์ กอร์กเน่ต์พังประตูแรกได้อีกด้วย
1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ ในเกมนี้ ตอกย้ำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เขาสมควรได้รับตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะแมตช์ในเกมนี้ แบบไม่ต้องมีข้อสงสัย
-เกมนี้เจ้าบ้าน ซิตี้ ครองบอลได้มากถึง 64% ยิงตรงกรอบไปถึง 8 จาก 12 ครั้ง แต่เปลี่ยนประตูได้เพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น ซึ่งต่างจากโอลิมปิก ลียงที่ยิงไปทั้งเกมแค่ 4 ครั้ง แต่ได้ถึง 2 ประตู
-เอติฮัด สเตเดี้ยม ที่มีความจุ 55,097 คน แต่ทว่าเกมเมื่อคืนนี้มีแฟนบอลเรือใบสีฟ้าเข้ามาชมเกมในสนามแค่ 40,111 เท่านั้น ทำให้ภาพที่จับมุมกว้างของสนาม เกิดความรู้สึกโหวงเหวงอย่างเห็นได้ชัด ไม่แปลกใจเลยที่ทีมเพื่อนร่วมเมืองมักจะแอบแซวเรื่องของจำนวนแฟนบอลอยู่เป็นประจำ
ถือว่าผิดคาดพอสมควรนะครับ สำหรับทีมเรือใบสีฟ้าที่เหล่าบรรดากูรูยกให้พวกเขาเป็นเต็ง 1 รายการนี้ แต่แค่เริ่มออกสตาร์ทนัดแรกก็ทำช็อคเสียแล้วด้วยการแพ้คาบ้านไปซะอย่างนั้น ทำให้ผ่านไปนัดแรกของกลุ่มเอฟ ซิตี้จมบ๊วยของกลุ่มในเวลานี้ (อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ชัคตาร์ โดเน็ตส์ก เสมอ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 2-2) อย่างไรก็แล้วแต่เส้นทางรอบแรกยังเหลืออีกตั้ง 5 นัด พวกเขายังมีโอกาสและยังอยู่ในเส้นทางเข้ารอบน็อคเอาท์อยู่
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปในถ้วยยุโรป ซิตี้มีคิวออกไปเยือนฮอฟเฟ่นไฮม์ในคืนวันที่ 2 ตุลาคมนี้ ต้องมาดูกันครับว่า ลูกทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะสามารถแก้ตัวและกลับสู่เส้นทางเวทียูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีกได้เร็วแค่ไหน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง