ข่าว

สิงโตหวังถึงชิงฯส่ง"เคน"ล่าตาข่าย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สิงโตคำราม" ลุ้นตีตั๋วรอบชิงชนะเลิฟุตบอลโลกในรอบ 52 ปี แกเรธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมไร้ปัญหาจัดทัพวาง แฮร์รี เคน ลงทะลวง ฝั่ง โครแอต ยึด ลูกา โมดริซ นำทัพ

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซีย ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศ ระหว่าง “สิงโตำคราม” อังกฤษ ลงพบกับ “ตราหมากรุก” โครเอเชีย ณ สนามลุซนิกี สเตเดียม กรุงมอสโก เวลา 01.00 น. โดยฝั่งตัวแทนจากเมืองผู้ดีตั้งเป้าผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศให้ได้เป็นครั้งแรกต่อจากเวิลด์ คัพ 1966

สิงไร้ปัญหาจัดทัพวางเคนค้ำหอก

แกเรธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ไร้ปัญหานักเตะเจ็บพร้อมจัดชุดที่ดีที่สุดลงทำศึกรอบรองชนะเลิศ

อังกฤษ ทะลุเข้ามาถึงรอบนี้ได้ด้วยการผ่าน สวีเดน 2-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งเกมนั้น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางคนสำคัญบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังหัวเข่า ขณะที่ เจมี วาร์ดี กองหน้าตัวเลือกสำรองมีปัญหาที่โคนขาหนีบมาตั้งแต่เกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ดวลจุดโทษชนะ โคลอมเบีย ทำให้ไม่ได้ลงเล่น

อย่างไรก็ตาม เฮนเดอร์สัน และ วาร์ดี กลับมาลงซ้อมได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมาแล้ว และไม่มีอาการบาดเจ็บกำเริบ สามารถลงซ้อมต่อได้ในวันอังคาร ก่อนขึ้นเครื่องบินไปยังกรุงมอสโกในช่วงเที่ยงตามเวลารัสเซีย เพื่อทำศึกรอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี

การจัดทัพนำโดย ผู้รักษาประตู จอร์แดน พิคฟอร์ด แนวรับ 3 คน ประกอบด้วย ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตน และ แฮร์รี แมคไกวร์ แดนกลางห้องเครื่องเป็นหน้าที่ของ เฮนเดอร์สัน ลงคุมจังหวะของเกม โดยมี เดเล อัลลี กับ เจสซี ลินการ์ด เป็นตัวทะลุลวง ส่วนริมเส้น คีแรย ทริปเปียร์ เดินเกมร่วมกับ แอชลีย์ ยัง ขณะที่กองห้าตัวเป้าเป็น แฮร์รี เคน ดาวซัลโว 6 ประตูประจำทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกหนนี้

ทีมชาติอังกฤษสวมชุดแดง 3 จาก 5 นัดมที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และเก็บชัยชนะได้ทั้งหมดในการเจอกับ ตูนิเซีย, โคลอมเบีย, สวีเดน ส่วน 2 เกมที่ลงเล่นสวมเสื้อขาว กางเกงกรมท่า ชนะ 1 แพ้ 1 โดยเกมที่จะเจอกับ โครเอเชีย จะเป็นเกมแรกที่อังกฤษสวมชุดขาวลงสนาม ส่วนจอร์แดน พิกฟอร์ด จะสวมชุดเหลืองลงสนาม
    ทั้งนี้ หาก อังกฤษ ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้ ก็จะลงเตะที่สนาม ลุซนิกี แห่งเดียวกันนี้ในวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม แต่หากแพ้ก็จะไปชิงอันดับ 3 ในวันเสาร์ที่ 14 ก.ค. ที่สนาม เครสตอฟสกี้ สเตเดี้ยม ในเมือง เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งอยู่ใกล้กับแคมป์เก็บตัวที่ เรปิโน

 

โครแอตขาดแบ็คตัวเก่ง

ฝั่ง โครเอเชีย ภายใต้การนำทัพของ ซลัตโด ดาลิช ซึ่งนำลูกทีมฝ่าด่านมาถึงรอบนี้ด้วยการดวลเป้าชนะจุดโทษคู่แข่งมาทั้ง 2 นัด ทั้งเกมกับ เดนมาร์ก ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย กระทั่งมานัดล่าสุดที่หักด่านเจ้าภาพรัสเซียมาแบบสุดระทึก

ความพร้อมนัดนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ซิเม เวอร์ซัลโกแบ็คขวาตัวหลักที่ได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าและจะพลาดลงช่วยทีมแน่นอนแล้ว ส่วนในรายของ ดานิเยล ซูบาซิช ผู้รักษษประตูจอมหนึบที่เซฟช่วยทีมใน 2 นัดที่ผ่านมา จนมีอาการเจ็บโคนขาหนีบติดตัวน่าจะผ่านความฟิตลงเฝ้าเสาได้ทันเวลา เช่นเดียวกับ เยัน ลอฟเรน ปราการหลังตัวหลักที่พลาดการลงฝึกซ้อมกับทีมน่าจะสลัดอาการเดี้ยงลงขันแนวรับได้ไม่มีปัญหา

การจัดทัพ นำโดย ซูบาซิช ยืนเฝ้าเสา แผงแบ็คโฟร์ประกอบด้วย เวดราน ชอร์ลูกา ลงเสียบแทนตำแหน่งของ เวอร์ซัลโก, เดยัน ลอฟเรน จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ โดมากอย วิดา และมี อิวาน สตรินิช ประจำการแบ็คซ้าย

กลางสนามยังนำทัพมาโดย อิวาน ราคิติช กับ ลูกา โมดริซ 2 สตาร์ดังบัญชาเกม และให้ มาร์เซโล โบรโซวิช ลงทำหน้าที่แทน อังเดร คามาริช ที่ได้ลงตัวจริงนัดที่แล้ว ส่วนริมเส้นยังเป็นหน้าที่ของ อันเต เรบิช กับ อิวาน เปริซิช โดยวาง มาริโอ มานด์ซูคิช เป็นทีเด็ดในแดนหน้า

ครั้งสุดท้ายที่ขุนพลตรา“หมากรุก” ทะลุเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ คือ เวิลด์ คัพ 1998 ซึ่งดาวเตะชุดนั้นนำโดย ดาวซัลโวอย่าง ดาวอร์ ซูเคอร์ และ ซโวนิเมียร์ โบบัน รับบทจอมทัพ พาทีมทะลุตัดเชือกกับฝรั่งเศส แต่สุดท้ายไม่สามารถต้านความร้อนแรงของทีมตราไก่ที่จากนั้นเข้าป้ายแชมป์โลก ส่วน โครเอเชีย จบที่อันดับ 3 หลังเฉือนชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ