หมีขาวล่าตั๋วน็อกเอาท์ อียิปต์เข็น"ซาลาห์"ชี้ชะตา

ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซีย ประจำวันที่ 19 มิถุนายน ซึ่งจะมีลงเตะด้วยกันทั้งหมด 3 คู่ จาก 2 กลุ่ม ประเดิมด้วยคู่แรก กลุ่มเอช โคลอมเบีย ปะทะ ญี่ปุ่น เวลา 19.00 น. ต่อด้วย โปแลนด์ พบ เซเนกัล คู่ที่สองในกลุ่มเดียวกัน เวลา 22.00 น.

ขณะที่ไฮไลท์อยู่ที่การลงเล่นนัดที่ 2 ของกลุ่มเอ ซึ่งเจ้าภาพ รัสเซีย จะลงชี้ชะตากับอียิปต์ ที่สนามเครสตอฟสกี เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นคู่ปิดท้าย เวลา 01.00 น. โดยเกมนี้ขุนพล “ฟาโรห์” จะได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวเตะตัวเก่งหายเจ็บกลับมาช่วยทีม

รัสเซียวาง “โกโลวิน” ปั้นเกม

“หมีขาว” รัสเซีย ซึ่งเกมแรกโชว์ฟอร์มหรูไล่ถล่มซาอุดีอาระเบีย มาขาดลอย 5-0 เกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อลัน ซาโกเยฟ เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญที่เจ็บจากเกมนัดเปิดสนาม ซึ่งผลตรวจพบว่าอาการเกิดขึ้นบริเวณต้นขาส่วนหลังและเป็นที่ยืนยันแล้วว่าจะไม่ได้เดินทางกับทีมมาที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เพราะต้องอยู่ฟื้นฟูร่างกายที่กรุงมอสโกต่อไป

อย่างไรก็ตามขุมกำลังอื่นๆ ถือว่าพร้อมเต็มสูบ นำโดย อิกอร์ อคินเฟเยฟ ผู้รักษาประตูลงเฝ้าเสา แนวรับ 4 คนยังใช้ชุดเดิมประกอบด้วย มาริโอ แฟร์นานเดซ, เซอร์เก อิกนาเชวิช, อิลยา คูเตปอฟ และยูริ ชีร์คอฟ แดนกลางวาง ยูริ กราซินสกี ที่ทำประตูแรกในบอลโลกคุมเกมร่วมกับ โรมัน ซอบนิน สามประสานแนวรุกจะส่ง เดนิส เชริเชฟ ลงเล่นแทน ซาโกเยฟ เหมือนเกมที่เล่นกับซาอุฯ ประสานงานร่วมกับ อเลกซานเดอร์ ซาเมดอฟ และอเลกซานเดอร์ โกโลวิน ที่ฟอร์มเด่นในนัดแรกยิง 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ ส่วนหน้าเป้ายังเป็นหน้าที่ของ ฟิดอร์ สโมลอฟ ดาวซัลโว 14 ประตู จากสโมสรคราสโนดาร์

“ซาลาห์” สลัดเดี้ยงนำทัพ

อียิปต์ ภายใต้การคุมทัพของเอคตอร์ คูเปร์ ที่เกมแรกประเดิมสนามด้วยการพ่าย อุรุกวัย มาหวุดหวิด 0-1 ทำให้เกมนี้พวกเขาต้องเก็บแต้มให้ได้สถานเดียวหากไม่ต้องการอกหักตกรอบแบ่งกลุ่มเป็นทีมแรก สภาพทีมนัดนี้ข่าวดีคือจะได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกความหวังสูงสุดกลับมามีชื่อเป็น 11 คนแรก แม้สภาพร่างกายยังไม่สมบูรณ์ 100% ก็ตาม

ขณะที่การจัดทัพในตำแหน่งอื่นๆ มี โมฮาเหม็ด เอล เชนนาวี นายด่ายวัย 29 ปี ที่โชว์ฟอร์มหนึบจนคว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมทช์ ในเกมแรก ลงเฝ้าเสาตามเดิม แนวรับ 4 คน ประกอบด้วย อาห์เมด ฟาธี, อาลี กาเบอร์, อาห์เหม็ด เฮกาซี และโมฮาเหม็ด อับเดล ชาฟี กลางสนามใช้ ทาเรค ฮาเมด คุมเกมร่วมกับโมฮาเหม็ด เอลเนนี ตัวรับคนเก่งจากอาร์เซนอล ส่วนแนวรุกใช้ อับดัลลาห์ ซาอิด ยืนสร้างสรรค์เกมร่วมกับเทรเซเกต์ และซาลาห์ โดยวาง มาร์วัน โมห์เซน รับบทศูนย์หน้า

เกมนี้หากรัสเซียเก็บสามแต้มได้สำเร็จจะทำให้พวกเขาการันตีผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ขณะที่อียิปต์ หากนัดนี้เสียท่าให้เจ้าภาพจะทำให้แพ้ 2 นัดรวด และจะตกรอบแบ่งกลุ่มทันที