โค้งสุดท้ายรอ"ฟีฟ่า"ตอบกลับ

ความคืบหน้ากรณีที่ 7 บริษัทเอกชน ประกอบด้วย บริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือซีพี, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด หรือช้าง, บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมระดมทุนกัน 1,400 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีหน่วยงานภาครัฐอย่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และบริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นแกนนำนั้น 

ล่าสุด อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2018 ความคืบหน้าล่าสุดตอนนี้กำลังอยู่กระบวนการเซ็นสัญญากับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ร่วมกับบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีช่องสถานีโทรทัศน์ในการยิงสัญญาณถ่ายทอดสด ขณะที่คิงเพาเวอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งภาคเอกชนที่สนับสนุนให้มีการถ่ายทอดสดเกิดขึ้น โดยรายละเอียดทั้งหมดใกล้ที่จะเสร็จสิ้นเรียบร้อยภายในเร็วๆ นี้ 

“คิงเพาเวอร์ เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานภาคเอกชนที่ช่วยสนับสนุนให้การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเกิดขึ้น โดยที่ภาครัฐก็ระดมภาคเอกชนหลายๆ ส่วน หลายๆ หน่วยงาน เข้ามาร่วมกัน ซึ่งต้องรอฟีฟ่าตอบรับกลับมา แต่คิดว่าน่าจะมีข่าวดีภายในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน"