ข่าว

"วินเทอร์ เทสต์”การทดสอบก่อนศึกโมโตจีพีครั้งแรกในไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับรายการทดสอบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการแข่งขัน โมโตจีพี ก่อนเปิดซีซั่นจริง หรือที่รู้จักกันในนาม “วินเทอร์ เทสต์”

    โดยสิ่งพิเศษที่เกิดขึ้นในปีนี้คือการทดสอบดังกล่าวนั้นมาจัดขึ้นที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นการจัดที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก และได้รับความสนใจในวงกว้าง ก่อนจะมีการแข่งขัน “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018” ศึก โมโตจีพี ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเมืองไทยระหว่างวันที่ 5-7 ต.ค.

     ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจะก้าวมาเป็นสนามระดับโลกที่สามารถรองรับการแข่งขัน โมโตจีพี ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่สุดท้ายประเทศไทยก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามีศักยภาพในด้านดังกล่าวมากเพียงใด ซึ่งวันนี้เราจะมาย้อนรอยกันว่าที่มาของการทดสอบ วินเทอร์ เทสต์ คืออะไร รวมไปถึงเบื้องหลังการบรรลุสัญญากับ ดอร์นา สปอร์ต และการคว้าสิทธิ์เป็นสนามทดสอบดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการจุดประกายกระแสของกีฬามอเตอร์สปอร์ตในบ้านเราขึ้นมาอย่างแท้จริง

ที่มาของ “วินเทอร์ เทสต์”
    วินเทอร์ เทสต์ คือ การทดสอบรถแข่งในช่วงปิดฤดูกาลของค่ายรถทุกค่ายที่ส่งทีมเข้าแข่งขัน ซึ่งจะเริ่มขึ้นหลังจบการแข่งขันในสนามสุดท้ายในช่วงเดือน พ.ย.ของทุกปี และทดสอบกันยาวไปถึงก่อนเปิดฤดูกาลในช่วงเดือน มี.ค. ของปีถัดไป ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวของหลายๆประเทศที่ได้ทดสอบ จึงกำเนิดเป็นชื่อของการทดสอบดังกล่าวขึ้น
    สำหรับการทดสอบ วินเทอร์ เทสต์ นี้ มีความสำคัญต่อการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่เป็นอย่างมากเนื่องจากเหล่าบรรดาทีมแข่ง รวมถึงนักแข่ง จะใช้รถแข่งโมโตจีพีในซีซั่นนั้นๆลงทำการทดสอบ เพื่อการปรับจูน และทดสอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆที่คาดว่าจะนำมาปรับใช้ในปีนี้ รวมทั้งเก็บข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาชิ้นส่วนและตัวรถ นอกจากนั้นบางทีมที่เปลี่ยนรถแข่งใหม่ไม่ว่าจะเป็นตัวรถ หรือเครื่องยนต์แบบใหม่ ก็ทำให้นักแข่งได้ปรับตัวทำความคุ้นเคยก่อนการแข่งขันจริงๆจะเริ่มขึ้น
     โดยทุกๆปีจะมีการทดสอบด้วยกันทั้งหมด 4 สนามแตกต่างกันไป ซึ่งปีนี้ประกอบด้วย “เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม” ประเทศสเปน วันที่ 14-15 พ.ย.ปีที่แล้ว, เซปัง อินเตอร์ เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย วันที่ 28-30 ม.ค., ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศไทย วันที่ 16-18 ก.พ. และโลเซล อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ เป็นสนามสุดท้ายวันที่ 1-3 มี.ค.นี้
     นอกจากการทดสอบในสนามที่น่าตื่นเต้นแล้ว แฟนๆของศึกโมโตจีพี จะได้ใกล้ชิดกับนักบิดชื่อดังระดับโลกแบบครบครัน ทั้ง วาเลนติโน รอสซี, มาร์ค มาร์เกซ, ฮอร์เก ลอเรนโซ, มาเวริค บีญาเลส, อันเดรีย โดวิซิโอโซ และ ดานี เปโดรซา รวมถึงยอดนักบิดอีกกว่า 20 ชีวิตใน โมโตจีพี ซึ่งหากโชคดีก็ได้ถ่ายภาพและขอลายเซ็นอีกด้วย

“วินเทอร์ เทสต์”ครั้งแรกในประเทศไทย
    หลังจากเมื่อช่วงปีที่แล้วเกิดเรื่องฮือฮาขึ้นในวงการกีฬาไทยเมื่อ “ดอร์นา สปอร์ต” เจ้าของลิขสิทธิ์รถจักรยานยนต์ โมโตจีพี ได้มอบสิทธิ์การแข่งขันให้กับประเทศไทยเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ 2018-2020 หลังเจรจากันมาอย่างยาวนาน และท่ามกลางความช่วยเหลือจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะรัฐบาลที่ต้องการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกในประเทศเพื่อมาโปรโมทการท่องเที่ยวโดยใช้ชื่อว่า “สปอร์ตทัวร์ริซึม” ซึ่งที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
    นอกจากจะได้ลิขสิทธิ์การแข่งขันโมโตจีพีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อย่าง พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับอย่างยอดเยี่ยม เนื่องจากขณะนี้ตั๋ว “แกรนด์สแตนด์” สำหรับวันแข่งขันจริงได้ถูกจำหน่ายหมดลงเป็นที่เรียบร้อย ประเทศไทยยังได้รับสิทธิ์พิเศษในการจัด วินเทอร์ เทสต์ ก่อนจะเริ่มแข่งขันฤดูกาลใหม่ของปี 2018 แทนประเทศออสเตรเลีย
    เท่านั้นยังไม่พอ ดอร์นา สปอร์ต ยังให้เหล่านักบิดระดับโลก ทั้ง ทาคาอากิ นาคากามิ นักแข่งชาวญี่ปุ่นสังกัดทีมฮอนด้า, แจ็ค มิลเลอร์ (ออสเตรเลีย/ดูคาติ), โยฮานน์ ซาร์โก(ฝรั่งเศส/ยามาฮ่า), โพล เอสปาร์กาโร (สเปน/เคทีเอ็ม), อันเดรีย เอียนโนเน (อิตาลี/ซูซูกิ) และอเล็กซ์ ริน (สเปน/ซูซูกิ) ร่วมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองไทย และถ่ายวีทีอาร์เพื่อโปรโมทการแข่งขัน
    ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทดสอบ วินเทอร์ เทสต์ ว่า “ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้เกิดการแข่งขันขึ้นมา ซึ่งประเทศไทยพร้อมให้การสนับสนุนในทุกๆ ด้าน เพื่อให้การแข่งขันประสบความสำเร็จที่สุด ขอขอบคุณ ดอร์นา สปอร์ต ที่ให้เกียรติประเทศไทยได้เป็นสนามที่ 15 ของโมโตจีพี และขอบคุณภาครัฐและเอกชนที่ร่วมมือให้เกิดการแข่งขันขึ้นมา โดยกีฬาถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะสานสัมพันธ์ให้ทั้งในและนอกประเทศ ขอให้การแข่งขันครั้งนี้ประสบความสำเร็จ และนักกีฬาปลอดภัยกันทุกคน รัฐบาลคาดหวังว่าการแข่งขันนี้จะเป็นเครื่องมือช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ต่อยอดไปเรื่อยๆ”

กระแสตอบรับจากนักบิด
    หลังจากการทดสอบ วินเทอร์ เทสต์ ครั้งแรกในประเทศไทยทั้ง 3 วันจบสิ้นลง เหล่านักบิดที่ได้มาลองสนามต่างคอมเมนท์กันในเชิงบวก
    เริ่มจาก ดานี เปโดรซา นักบิดจากทีมเรปโซล ฮอนด้า ที่ทำเวลาดีที่สุดในการเทสต์ครั้งนี้ กล่าวว่า แทร็กที่นี่มีความท้าทายมากๆ ทางตรงมีความเร็วสูงมาก ส่วนโค้งในเซ็คเตอร์ที่ 2-3 ก็เป็นโค้งต่อเนื่องที่ต้องใช้เทคนิคเยอะ รวมถึงโค้งสุดท้ายคือโค้ง 12 ที่มีความเร็วต่ำและหักศอก โดยรวมถือว่ามีความท้าทายในเรื่องการขับขี่และการเซ็ตอัพที่ต้องเหมาะสมกับสนามที่มีคาแร็กเตอร์หลากหลายแบบนี้
    ด้าน มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกในปีที่ผ่านมา และอีกหนึ่งนักบิดจากทีมเรปโซล ฮอนด้า ที่ทำเวลาเป็นอันดับ 3 บอกว่าชอบลักษณะของสนามช้างฯ เพราะชอบการเข้าโค้งที่ต้องเบรกหนัก จากทางตรงความเร็วสูง โดยเฉพาะ โค้ง 1 และ 3 ซึ่งเขาก็เชื่อว่าจะทำผลงานได้ดีที่นี่
    ส่วนนักแข่ง โมบิสตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี ทั้ง 2 คน ก็พูดถึงสนามช้างฯ เช่นกัน โดย วาเลนติโน รอสซี ที่เคยออกความเห็นว่าสนามที่ไทยอาจจะไม่ค่อยมีความท้าทาย แต่ตอนนี้ก็พูดอีกอย่างแล้ว โดยบอกว่าโค้งช่วงกลางเป็นโค้งต่อเนื่อง เป็นคาแร็กเตอร์ของสนามที่ตนเองชอบกับการเดินคันเร่งแบบต่อเนื่อง และคิดว่าจะทำผลงานได้ดี ส่วน มาเวริค บีญาเลส บอกว่าเหนือความคาดหมายและไม่คิดว่าแทร็กที่บุรีรัมย์จะมีความพร้อมรองรับการแข่งขันโมโตจีพี ส่วนเรื่องพิต นักแข่งชอบมากเพราะสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน

     จากความสำเร็จของการจัด วินเทอร์ เทสต์ ในประเทศไทยที่ผ่านมา เชื่อว่าจะส่งผลในด้านบวกทั้งเรื่องกระแสของกีฬามอเตอร์สปอร์ตในอนาคต รวมถึงเรื่องการผลักดันเศรษฐกิจในรูปแบบของการท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่กลายเป็นแหล่งรายได้ใหม่ซึ่งมีแววพัฒนาไปอีกไกล

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ