ข่าว

4 สุดยอดกุนซือ“อัศวินสีส้ม”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย ธนรัชต์ คูสมบัติ

ภายหลังการที่สมาคมฟุตบอลฮอลแลนด์ (เคเอ็นวีบี) ประกาศแต่งตั้งให้ โรนัลด์ คูมัน เข้ามาเป็นกุนซือ “อัศวินสีส้ม” คนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยเซ็นสัญญาคุมทัพเป็นเวลา 4 ปีครึ่งด้วยกัน

การแต่งตั้งกุนซือดังกล่าวกลายเป็นที่จับตามองของวงการฟุตบอลไปทั่วโลก เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าฮอลแลนด์เป็นหนึ่งในชาติที่มีความเอกอุด้านลูกหนังมาช้านาน แต่หลังจากจบศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ผลงานก็ดิ่งลงเหวพลาดไปเล่นฟุตบอลรายการใหญ่สองทัวร์นาเมนท์ติดต่อกัน ตั้งฟุตบอลยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส และฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

มีการวิพากษ์วิจารณ์ออกมาพอสมควรเกี่ยวกับการแต่งตั้งคูมัน เนื่องจากเจ้าตัวเพิ่งโดน เอฟเวอร์ตัน ปลดออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน โทษฐานที่พาทีมทำผลงานได้ย่ำแย่จนถึงขั้นหล่นไปอยู่ในโซนตกชั้น ทั้งที่ใช้เงินเสริมทัพไปกว่าร้อยล้านปอนด์ ซึ่งการที่มีกระแสวิจารณ์ออกมาแบบนี้ก็เพราะทุกฝ่ายก็คงอดไม่ได้ที่จะนำคูมันไปเปรียบเทียบกับยอดกุนซือในอดีตของทีมชาติฮอลแลนด์นั่นเอง

 

ไรนุส มิเชลส์

บรมกุนซือผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของฮอลแลนด์ และเป็นหนึ่งในสุดยอดกุนซือของวงการลูกหนังโลกอีกด้วย “ไรนุส มิเชลส์” ผู้มีฉายาว่า “ท่านนายพล” ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2005 ได้รับการเสนอชื่อเป็นโค้ชที่ดีที่สุดในรอบ 100 ปีของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เคยคุมทีมสโมสรดังๆในยุโรปมามากมายทั้งอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, เลเวอร์คูเซ่น, เอฟซี โคโลญจน์ หรือแม้กระทั่งบาร์เซโลน่า

แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นการที่มิเชลล์คือต้นตำรับของ “โททั่ลฟุตบอล” อันลือลั่น ซึ่งเป็นระบบการเล่นที่ไม่ยึดติดกับตำแหน่งของตนเองแบบตายตัว การใช้จินตนาการในการเล่นที่มากขึ้นกว่าฟุตบอลยุคเก่า ทำให้เกมส์สนุกและสวยงามมากขึ้น 

หลังจากที่เริ่มใช้ระบบนี้สมัยคุมอาแจ็กซ์จนประสบความสำเร็จ กระทั่งนำมาใช้กับทีมชาติฮอลแลนด์และทำให้ทั่วโลกได้ตะลึงกับโททั่ลฟุตบอลในฟุตบอลโลก 1974 โดยฮอลแลนด์เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศก่อนที่จะไปแพ้เยอรมนีตะวันตกเจ้าภาพ 1-2

แต่อย่างไรก็ตามมิเชลส์ก็ประสบความสำเร็จในระดับชาติจนได้ เมื่อพาทีมเป็นแชมป์ยูโร 1988 โดยเอาชนะสหภาพโซเวียตในนัดชิงชนะเลิศไป 2-0

 

กุส ฮิดดิงค์​

อีกหนึ่งสุดยอดกุนซือชาวดัตช์ที่ได้รับการยอมรับจากโลกลูกหนัง ประสบความสำเร็จมามากมาย แจ้งเกิดในงานผู้จัดการทีมด้วยการพาพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น คว้าแชมป์ลีกดัตช์ 4 ปีซ้อน โดยเฉพาะในปี 1988 ที่พายอดทีมแห่งเมืองไอน์โฮเฟ่นสร้างประวัติศาสตร์พาทีมคว้าทริปเปิลแชมป์ ทั้งยูโรเปียนคัพ, ลีกดัตช์ และฟุตบอลถ้วยในประเทศ และได้เป็นดับเบิลแชมป์ในปีถัดมาอีกด้วย

ฮิดดิงค์ ได้รับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติฮอลแลนด์ครั้งแรกในศึกยูโร 1996 และนำพาทีมผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนที่จะพาทีมไปคว้าอันดับสี่ในฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส จากนั้นก็กลับไปคุมทีมสโมสร นอกจากนี้ยังเคยคุมทีมชาติเกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และ รัสเซีย มาแล้ว โดยงานทีมชาติครั้งสุดท้ายคือการได้กลับมาคุมทีมชาติฮอลแลนด์อีกครั้งช่วงสั้นๆระหว่างเดือนสิงหาคมปี 2014 ถึงเดือนมิถุนายนปี 2015

 

หลุยส์ ฟาน กัล

ฟาน กัล ถือเป็นหนึ่งในกุนซือที่ประสบความสำเร็จในระดับสโมสรมากที่สุดคนหนึ่งตั้งแต่กลางยุค 90 เรื่อยมาจนปัจจุบัน คว้าโทรฟี่จากการเป็นกุนซือมากมายกับหลายทีม ทั้งอาแจ๊กซ์, บาร์เซโลน่า, อัลค์มาร์, บาเยิร์น มิวนิค หรือแม้กระทั่ง แมนฯยูไนเต็ด

แต่เส้นทางในการคุมทีมชาติฮอลแลนด์ครั้งแรกของ ฟาน กัล เริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก เมื่อไม่สามารถพาทีมผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่เกาหลีใต้/ญี่ปุ่นได้ในปี 2002 จนกระทั่งกลับมาแก้ตัวได้สำเร็จเมื่อได้กลับมาคุมทีมอัศวินสีส้มอีกครั้งในปี 2012 จากนั้นพาทีมไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2014 ที่บราซิล พร้อมกับคว้าอันดับที่สามของการแข่งขันมาครอง

 

ดิ๊ก อั๊ดโวคาท

แม้ว่าจะเสียรังวัดไปพอสมควรจากผลงานการคุมทีมชาติฮอลแลนด์ จนกระทั่งถูกปลดออกจากตำแหน่ง และเป็น โรนัลด์ คูมัน กุนซือคนปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่แทน แต่อั๊ดโวคาทถือว่าเป็นกุนซือเบอร์ต้นๆของฮอลแลนด์ที่มักถูกเรียกใช้ตัวเสมอเมื่อชาติต้องการ โดยเคยฝากผลงานที่น่าจดจำให้กับฮอลแลนด์มามากมาย ตั้งแต่การพาทีมเข้ารอบรองชนะเลิศในฟุตบอลยูโรปี 1992 ที่สวีเดน, เข้าถึงรอบ 8 ทีมในศึกฟุตบอลโลกรอ[สุดท้ายปี 1994 ที่สหรัฐ และเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2004 ที่โปรตุเกส  

นอกจากสี่คนที่ยกตัวอย่างมา ยังมี เลโอ บีนฮักเกอร์ ที่ถือเป็นตำนานกุนซือของฮอลแลนด์อีกคนหนึ่ง เพียงแต่ผลงานคุมทีมชาติไม่โดดเด่นนัก

โดยแฟนฟุตบอลส่วนใหญ่น่าจะทราบกันดีว่าชาติอย่าง “ฮอลแลนด์” นั้นไม่เคยขาดกุนซือฝีมือดี การถูกนำมาเปรียบเทียบกับสุดยอดตำนานนี่คือความท้าทายที่คูมันต้องเผชิญ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ