ข่าว

ย้อนรอยแข้งเปรี้ยงตลาดเดือนมกราคม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ย้ายมาสวมเสื้อปืนโตไม่นาน ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ก็ขึ้นแท่นขวัญใจคนใหม่แห่งถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในทันที หลังซัดประตูแรกในเกมประเดิมสนามกับเอฟเวอร์ตัน

 อย่างไรก็ตามหัวหอกทีมชาติกาบองไม่ใช่แข้งเบอร์แรกที่โชว์ฟอร์มเปิดปุ๊บติดปั๊บแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้มีบรรดาแข้งชื่อดังมากมายที่เคยฝากวีรกรรมประจำตลาดหน้าหนาวจนถูกกล่าวขานมาถึงทุกวันนี้

เนมานยา วิดิช
มกราคม ปี 2006

    ถูกยกให้เป็นหนึ่งในปราการหลังที่ดีที่สุดยุคหนึ่งของปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเจ้าของฉายา เซอร์บิเนเตอร์
วิดิช ย้ายจากสปาตัค มอสโกว์ ในลีกรัสเซีย ซึ่งหลังจากฉายแววของยอดปราการหลังก็เริ่มได้รับความสนใจจากทีมใหญ่ๆ ในยุโรปมากมาย และสุดท้ายเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ปิดดีลกับวิดิชด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์
    คนเหล็กแห่งเซอร์เบีย ผนึกกำลังเข้าคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ จนถูกยกให้เป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดของโลกในเวลานั้น แถมยังประสบความสำเร็จกับแมนฯ ยูไนเต็ด มากมาย ไล่ตั้งแต่แชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับสโมสรโลก อีกอย่างละ 1 สมัย ตลอดระยะเวลา 8 ปีในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ด และอาจกล่าวได้ว่าเป็นกองหลังที่ดีทีสุดที่ปีศาจแดงเคยคว้ามาร่วมทัพในเดือนมกราคมเลยทีเดียว

ปาทริซ เอฟรา
มกราคม ปี 2006

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องออกแรงเหนื่อยสู้กับอินเตอร์ มิลาน รวมถึงคู่แข่งยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ ในการแย่งชิงตัว ปาทริซ เอฟรา ฟูลแบ็กทีมชาติฝรั่งเศสมาจากโมนาโก
การมาของเอฟรา ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกแสดงความตั้งใจของ เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน ที่จะปรับปรุงแผงกองหลังปีศาจแดง ซึ่งประสบปัญหาหละหลวมหนักนับตั้งแต่การได้รับอาการบาดเจ็บของนักเตะคนสำคัญอย่าง กาเบรียล ไฮน์เซ แม้จะอายุเพียง 24 ปี ในตอนที่มาร่วมทีมใหม่ๆ แต่ เอฟรา ก็ติดทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว 5 ครั้ง และยังเป็นกัปตันทีมของโมนาโก อดีตสโมสรต้นสังกัด โดยฟูลแบ็กรายนี้ได้รับคำชื่นชมในการเป็นนักเตะที่เติมเกมรุกได้ดีและมีความทุ่มเทอย่างเหลือล้น
    เอฟรา ย้ายมาไล่ๆ กับ เนมานยา วิดิช และประสบความสำเร็จท่วมท้นเท่าๆ กับปราการหลังเลือดเซิร์บ และหากว่ากันตามจริงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีฟูลแบ็กรายไหนของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้เท่ากับอดีตแข้งทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้

หลุยส์ ซัวเรซ
มกราคม ปี 2011

    สำหรับตลาดนักเตะเดือนมกราคมไม่มีดีลไหนที่จะคุ้มค่าและถูกพูดถึงมากเท่านี้อีกแล้ว
    ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 2010-2011 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต้องสูญเสียดาวยิงเบอร์ 1 ของทีมอย่าง เฟอร์นานโด ตอร์เรส ไปให้ เชลซี ชนิดที่ตอนแรกบรรดาเดอะค็อป ต่างทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นดาวยิงขวัญใจย้ายไปอยู่กับทีมคู่ปรับ อย่างไรก็ตามการย้ายสวนทางเข้ามาของหลุยส์ ซัวเรซ จากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมส์ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันก็พอจะทำให้หลายคนลืมอดีตซูเปอร์สตาร์ชาวสเปนไปได้ แม้ตอนแรกจะไม่มีใครคาดคิดว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบนี้ก็ตาม
    ซัวเรซ ถูกพูดถึงทันทีเมื่อจัดการซัดประตูแรกได้ตั้งแต่เกมประเดิมสนามกับสโตค ซิตี โดยเป็นคนยิงประตูปิดกล่องให้ทีมเอาชนะไป 2-0 หลังถูกเปลี่ยนตัวลงมาในฐานะตัวสำรองแทนที่ ฟาบิโอ ออเรลิโอ ในนาที 62 และนับตั้งแต่เปิดตัวชนิดเหมือนฝันดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยก็ค่อยๆ โชว์ฟอร์มก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมทันที โดยระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน ซัวเรซ สามารถพาลิเวอร์พูล จากอันดับ 12 ขึ้นมาจบอันดับ 6 บนตาราง พร้อมฝากผลงาน 4 ประตู จาก 13 นัด ในซีซั่นแรก
    เบ็ดเสร็จ ซัวเรซ อยู่รับใช้ทีมในถิ่นแอนฟิลด์ทั้งหมด 4 ฤดูกาล แม้จะประสบความสำเร็จเพียงแชมป์ลีกคัพ ฤดูกาล 2011–2012 แต่หากพูดถึงเรื่องการผลิตสกอร์ เขาคือเบอร์ 1 ชนิดที่หลายคนลืม เฟอร์นานโด ตอร์เรส ที่ไปตกอับกับเชลซีเลยทีเดียว ซีซั่น 2012–2013 ยิงไป 23 ประตู จาก 33 นัดในลีก ซีซั่นต่อมาเหมาคนเดียว 31 ลูก จาก 33 นัดในลีก และพาทีมเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกที่สุดหลังจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์เมื่อฤดูกาล 2013–2014

กาเบรียล เฆซุส
มกราคมปี 2017

    ตอนแรกหลายคนสงสัยว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี คิออะไรอยู่ถึงได้ยอมทุ่มเงิน 27 ล้านปอนด์ แลกกับนักเตะบราซิลที่มีโปรไฟล์เพียงแค่เคยติดทีมลุยโอลิมปิกเกมส์ 2016
แมนฯ ซิตี เซ็นสัญญาคว้าตัว เฆซุส มาร่วมทีมล่วงหน้าตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2016 ก่อนที่นักเตะจะย้ายมาร่วมทีมและเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคมปี 2017 โดยเวลานั้นแฟนบอลเรือใบสีฟ้ามีความเห็นตรงกันว่านี่คือการซื้อเพื่อแผนการระยะยาว
    อย่างไรก็ตามผ่านไปได้ไม่นานปรากฏว่าดาวยิงบราซิลเลียนวัยเพียง 19 ปี คือการซื้อเพื่อปัจจุบันแถมผลงานยังเป็นที่ถูกอกถูกใจของกวาร์ดิโอลา เป็นอย่างมากชนิดที่ เซร์คิโอ อเกวโร ดาวยิงเบอร์ 1 ของทีมต้องตกไปเป็นตัวเลือกบนม้านั่งสำรอง โดยกองหน้ารายนี้แม้ว่าจะรูปร่างเล็กแต่ถือว่าเป็นนักเตะสไตล์ละตินอเมริกาที่ปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว เคลื่อนที่ได้เป็นธรรมชาติมากกว่า อเกวโร แถมยังมีวิสัยทัศน์จ่ายบอลที่ดูดีกว่าเล็กน้อยด้วย
    ฤดูกาลแรกภายใต้สีเสื้อเรือใบสีฟ้า เฆซุส กระหน่ำไป 7 ประตูจาก 10 นัด ที่ลงเล่นยังลีกสูงสุดของอังกฤษ ขณะที่ฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นซีซั่นที่สองกดไปแล้ว 8 ประตู จาก 18 นัด ก่อนต้องพักยาวหลังได้รับบาดเจ็บกระดูกฝ่าเท้าแตกซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายที่แข้งบราซิลเลียนรายนี้ต้องโชคร้ายเจ็บยาวทั้งที่ทีมกำลังโชว์ฟอมเข้าฝักอยู่ในเวลานี้


    ตลาดซื้อขายนักเตะยุโรปรอบสองของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ​ ครองแชมป์ลีกที่เม็ดเงินสะพัดมากสุดด้วยสถิติ 430 ล้านปอนด์ (ราว 18,000 ล้านบาท) แม้ตลอดหลายปีที่ผ่านมากูรูหลายรายจะยกให้ตลาดรอบนี้คือความเสี่ยง แต่ในเมื่อยังคงมีตัวอย่างแข้งแบบข้างบนนี้ก็ยังพอระบุได้ว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงหรือไม่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ