On This Day "กังฟู คันโตน่า" | คมชัดลึก

       25 ม.ค. 1995 ในศึกพรีเมียร์ลีกที่สนามเซลเฮิร์สท์ พาร์ค คริสตัล พาเลซ เปิดบ้านเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 แต่สกอร์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ถูกพูดถึงมากเท่ากับเหตุการณ์ในช่วงต้นครึ่งหลัง เมื่อ ริชาร์ด ชอว์ ผู้เล่นเจ้าถิ่นไปดึงเสื้อ เอริค คันโตน่า ทำเอาเจ้าตัวหันกลับมาเตะเพื่อเอาคืน จนทำให้ผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่ คันโตน่า ออกสจากสนาม

       และระหว่างที่กำลังเดินออกจากสนามนั้นเอง แฟนบอลของพาเลซที่ชื่อว่า แมทธิว ซิมม่อนส์ ได้เดินลงมาจากอัฒจันทร์ด้านบนเพื่อมาต่อว่าคันโตน่าโดยเฉพาะ (มีการเปิดเผยว่า ซิมม่อนส์พูดว่า "F**k off back to France, you French motherf**ker") ทำเอาดาวเตะเจ้าของฉายา "เดอะ คิง" ฉุนขาด วิ่งข้ามป้ายโฆษณาขึ้นไปกระโดดถีบ ซิมม่อนส์ ถึงที่ พร้อมระดมหมัดอีกชุดใหญ่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและสต๊าฟฟ์โค้ชปีศาจแดงจะพาคันโตน่าเข้าห้องแต่งตัวไป

       จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ คันโตน่า โดนแบน 9 เดือนเต็ม และต้องบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ 120 ชั่วโมง โดนสั่งปรับ อีก 10,000 ปอนด์ ซึ่งหลังจากไม่มีมีเขา แมนฯยูไนเต็ด ฟอร์มแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัดและชวดแชมป์ซีซั่นนั้นไปอย่างน่าเสียดาย  

       ส่วนตัวต้นเหตุอย่าง แมทธิว ซิมม่อนส์ ถูกจำคุก 7 วัน ปรับ 500 ปอนด์ และถูกแบนห้ามเข้าสนามหนึ่งปีในอังกฤษและเวลส์ จากข้อหาใช้ภาษาและพฤติกรรมรุนแรง

เก็บตก
       - หลังเหตุการณ์นี้ นักข่าวนับร้อยคนต่างเข้ามารุมสัมภาษณ์คันโตน่าในงานแถลงข่าว แต่เจ้าตัวกลับหล่นวาทะแฝงปรัชญาสุดลึกซึ้งว่า "เมื่อใดก็ตามที่นกนางนวลบินตามชาวประมง นั่นก็เพราะพวกมันคิดว่าจะมีปลาซาร์ดีนมากมายถูกโยนลงสู่ทะเล" ทำเอากองทัพนักข่าวงงไปตามๆกัน (มีการวิเคราะห์ว่า คันโตน่าพยายามหลอกด่านักข่าวด้วยประโยคนี้ โดยนกนางนวล = นักข่าว , ชาวประมง = คันโตน่า , ปลาซาดีน = ประเด็นเด็ดๆ ที่นักข่าวอยากได้กลับไป)

       - ปี 2005 คันโตน่าพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่ครบรอบ 20 ปีในเวลานั้นพอดี ว่า “จริงๆ แล้วผมน่าจะอัดเขาให้หนักกว่านี้ ผมก็แค่นักฟุตบอลคนหนึ่ง อยากทำอะไรก็จะทำ ถ้าต้องการเตะแฟนบอลก็จัดการเลย เพราะผมไม่ใช่ต้นแบบของใคร”

 

(ขอบคุณคลิปจาก Youtube // user: FOOTBALL SOCCER ZONE)