ข่าว

ส่องผลงานและทิศทาง “แชมป์เก่า” ลีกดังยุโรป

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฟุตบอลลีกใหญ่ของยุโรปตอนนี้เดินทางผ่านเกินครึ่งทางมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตอนนี้ทำให้ได้เห็นความชัดเจนมากขึ้นว่าทีมใดมีโอกาสที่จะเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้

ฟุตบอลลีกใหญ่ของยุโรปตอนนี้เดินทางผ่านเกินครึ่งทางมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตอนนี้ทำให้ได้เห็นความชัดเจนมากขึ้นว่าทีมใดมีโอกาสที่จะเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้

โดยพรีเมียร์ลีกอังกฤษแข่งไปแล้ว 23 นัด, ลา ลีกา สเปน 19 นัด, กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี 20 นัด, บุนเดสลีกา เยอรมนี 18 นัด และ ลีกเอิง ฝรั่งเศส 20 นัด บางลีกมีทีมที่ทำคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งนำเป็นจ่าฝูงชนิดที่หลายทีมยากที่จะตามทัน ขณะที่บางลีกยังคงขับเคี่ยวอย่างเข้มข้น มีโอกาสที่จะเป็นแชมป์หลายทีม

ที่น่าสนใจคือบรรดาทีมแชมป์เก่าของแต่ละลีกที่กล่าวไปข้างต้น ในฤดูกาลนี้หลายทีมต้องเผชิญกับความท้าทายพอสมควร เพราะการแข่งขันที่สูงขึ้น ความกดดันที่จากการป้องกันแชมป์ รวมไปถึงคู่แข่งที่อยากจะโค่นบัลลังก์ลงมา ลองมาตรวจสอบกันหน่อยว่าสถานการณ์ล่าสุดของบรรดาทีมแชมป์เก่าในลีกดังของยุโรปขณะนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง

 

“เชลซี” กับความท้าทายจากเกมยุโรป

เกมล่าสุดของทีมสิงโตน้ำเงินคราม ทำได้เพียงแค่เปิดบ้านเสมอกับเลสเตอร์ ซิตี 0-0 ทำให้มีคะแนนตามหลังจ่าฝูงแมนฯซิตีไม่น้อยกว่า 15 คะแนน อยูอันดับที่สามของตาราง โอกาสที่จะป้องกันแชมป์ลีกในปีนี้ต้องยอมรับว่าหนักหนาสาหัสไม่น้อย

เมื่อลองพิจารณาถึงผลงานทีมของอันโตนิโอ คอนเต้ ขณะนี้แข่ง 23 นัด ชนะ 14 เสมอ 5 แพ้ 4 มี 47 คะแนน ขณะที่ฤดูกาลที่แล้วแข่งทั้งหมด 38 นัด ชนะ 30 เสมอ 3 แพ้ 5 มี 93 คะแนน อาจเรียกได้ว่ามาตรฐานต่ำลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับย่ำแย่มากมาย

ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ตามหลังทีมจ่าฝูงห่างขนาดนี้เป็นเพราะว่า ในฤดูกาลนี้แมนฯซิตีมีผลงานที่สุดยอดยากที่ทีมไหนจะมาเทียบ อีกทั้งภาพรวมของเชลซีเองก็ไม่เหมือนกับซีซั่นที่แล้ว ที่สามารถโฟกัสเกมในประเทศอย่างเดียว การที่มีเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ทำให้ยอดทีมแห่งลอนดอนต้องจัดสรรทีมให้ดี ซึ่งมีผลต่อฟอร์มการเล่นที่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ดาวดังที่ซื้อเข้ามาเสริมทีมยังไม่สามารถงัดฟอร์มได้อย่างคาดหวังโดยเฉพาะ “อัลบาโร โมราตา” หัวหอกชาวสเปน

เมื่อโมราตายังทำผลงานสุดยอดไม่ได้ ตัวเลือกในแนวรุกของเชลซีในตำแหน่งศูนย์หน้าที่มีน้อยอยู่แล้วยิ่งกลายเป็นปัญหาหนักกว่าเดิม โดยช่วงตลาดซื้อขายเดือน ม.ค. ได้ทำการซื้อตัว “รอส บาร์คลี่ย์” มาจากเอฟเวอร์ตัน แต่ก็เป็นในตำแหน่งกองกลาง

ความน่าสนใจคือช่วงที่เหลือของฤดูกาล คอนเต้ จะปรับทีมอย่างไร โอกาสป้องกันแชมป์ลีกอาจจะยากแต่ก็ยังมีลุ้นในบอลถ้วยและฟุตบอลยุโรป

 

ฟอร์มที่ย่ำแย่ของ “เรอัล มาดริด”

กลายเป็นฤดูกาลที่ย่ำแย่สุดๆของทีมราชันชุดขาว แม้แต่นักเตะในทีมหลายคนยังออกมายกธงขาวยอมแพ้ต่อการป้องกันแชมป์ลา ลีกาในฤดูกาลนี้ โดยสถานการณ์ปัจจุบันแข่งไป 18 นัด ชนะ 9 เสมอ 5 แพ้ 4 มี 32 คะแนนอยู่อันดับ 4 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูงอย่างบาร์เซโลน่าสุดกู่ถึง 16 คะแนนด้วยเกมการแข่งขันเท่ากัน

ด้วยผลงานดังกล่าวทำให้ “ซีเนดีน ซีดาน” ถูกกดดันอย่างหนักแม้ว่าฤดูกาลที่แล้วจะทำผลงานสุดยอดด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลา ลีกาและยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ก็ตาม

อีกคนหนึ่งที่โดนวิจารณ์ไม่แพ้กันก็คือ “คริสเตียโน โรนัลโด” ดาวเตะผู้คว้าบัลลงดอร์ปีล่าสุด แต่ผลงานปีนี้กลับตกลงไปอย่างน่าใจหาย เพิ่งยิงได้แค่ 4 ประตูในเกมลีก ทำให้ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสถูกตั้งคำถามว่า ด้วยวัยย่าง 33 ปี อาจจะเป็นช่วงที่เลยจุดพีกของเจ้าตัวมาแล้วหรือไม่?

แต่กระนั้นจะโทษโรนัลโดอย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะมีหลายเกมที่เรอัล มาดริดพลาดเก็บชัยโดยไม่มีเขา เหมือนกับว่าทุกอย่างไม่เป็นใจไปซะดื้อๆ ซึ่งสถานการณ์ของเรอัล มาดริด กำลังคับขันหากไม่รีบกลับคืนฟอร์มโดยเร็ว มีโอกาสสูงที่จะจบฤดูกาลมือเปล่า รวมถึงอาจจะเสียอันดับที่จะไปเล่นแชมเปียนส์ ลีก ก็เป็นได้

 

“ยูเวนตุส” คงมาตรฐานอันยอดเยี่ยม

เมื่อดูตารางคะแนนกัลโช่ เซเรีย อา ขณะนี้ จะพบว่าผลงานของทีมม้าลายถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว แข่ง 20 นัด ชนะ 16 เสมอ 2 แพ้ 2 มี 50 คะแนน อยู่อันดับที่สอง มีโอกาสที่จะทำคะแนนมากกว่าฤดูกาลที่แล้วที่ทำไป 91 คะแนนด้วยซ้ำ

มีปัจจัยหลายอย่างที่ช่วยส่งเสริมนอกจากความแข็งแกร่งต่อเนื่องของทีมแล้ว คู่แข่งที่คาดว่าจะมาเบียดแชมป์ไม่ว่าจะเป็น สองเมืองจากมิลาน หรือ โรม่า กลับทำผลงานได้ไม่ดีอย่างที่ถูกคาดการณ์ไว้แต่แรก

แต่กลายเป็น “นาโปลี” ที่กลายเป็นทีมที่ผงาดขึ้นมาอย่างโดดเด่นนำเป็นจ่าฝูงขณะนี้ (นำยูเว่ 1 คะแนน) แม้ว่าตอนนี้ยูเวนตุสจะถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งเช่นเดิม แต่ก็เป็นซีซั่นที่ทีมม้าลายอาจเสียแชมป์ลีกได้เหมือนกันหลังจากที่คว้าโทรฟี่ติดต่อกัน 6 สมัย

นั่นก็เพราะว่ายอดทีมแห่งตูริน อาจจะมองไปที่ถ้วยแชมป์ยุโรปอย่างยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่ทีมเคยเข้าใกล้แชมป์รายการนี้มาแล้วสองครั้งในรอบสามปี แต่ก็ไม่สามารถคว้ามาครองได้เสียที

 

“บาเยิร์น มิวนิค” กับเป้าหมายเจ้ายุโรป

ยังคงเดินหน้าคว้าแชมป์บุนเดสลีกา เป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกันสำหรับทีมเสือใต้ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยการปลด”คาร์โล อันเชล็อตติ” ออกจากตำแหน่งกุนซือและแต่งตั้ง “จุ๊ปป์ ไฮย์เกส” ขรัวเฒ่ามาดำรงตำแหน่งแทนชั่วคราว แต่ทีมก็ยังแกร่งทั่วแผ่นนำเป็นจ่าฝูงของลีก ทิ้งห่างที่สองถึง 13 คะแนน

แน่นอนว่าเป้าหมายของบาเยิร์นไม่ได้อยู่แค่แชมป์ลีกในประเทศ การดึงไฮย์เกสกลับมาทำทีมย่อมมองไปถึงการเป็นเจ้ายุโรปเพราะนี่คือกุนซือคนสุดท้ายที่พาทีมเสือใต้ผงาดคว้าถ้วยบิ๊กเอียร์ในปี 2013

นอกจากสี่ทีมนี้ยังมี “โมนาโก” จากลีกเอิง ของฝรั่งเศสที่มีโอกาสเสียแชมป์สูงเมื่อ “ปารีส แซงต์-แชร์กแมง” ที่ชวดแชมป์ไปเมื่อซีซั่นที่แล้วกลับมาเร่งเครื่องจะทวงคืนให้ได้โดยนำเป็นจ่าฝูงและทำแต้มทิ้งโมนาโกอยู่ 8 คะแนน

จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ นอกจาก “บาเยิร์น มิวนิค” แล้ว มีโอกาสสูงที่จะเห็นแชมป์ลีกใหญ่ของยุโรปในฤดูกาลนี้เปลี่ยนมือไปจากเดิม

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ